ทุนส่วนกลาง-ท้องถิ่น ยึดเขาใหญ่ผุดคอนโด

นักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์ "ส่วนกลาง-ท้องถิ่น" บุกเขาใหญ่ ไล่หลังเศรษฐี-แลนด์ลอร์ด ปีเศษเปิดขายคอนโดมิเนียม 34 โครงการ รวม 3,642 ยูนิต
ขณะที่เซเลบ-นักการเมือง-นักธุรกิจ ไม่ตกขบวน ด้านทุนดั้งเดิม "โบนันซ่า-คีรีมายา" ผุดโครงการต่อเนื่อง
ความคึกคักของเขาใหญ่ระลอกใหม่ เกิดขึ้นช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา หลังจากเหตุการณ์น้ำท่วมใหญ่เมื่อปลายปี 2554 ส่งผลให้ความต้องการที่อยู่อาศัยหรือบ้านหลังที่ 2 เพิ่มขึ้น ด้วยระยะทางจากกรุงเทพฯ-เขาใหญ่ ใช้เวลาเดินทางเพียง 2 ชั่วโมงเศษๆ ถือเป็นพื้นที่สีเขียวที่ใกล้กรุงเทพฯ มากที่สุด
นอกจากนี้ กฎหมายผังเมืองใหม่ที่อยู่ระหว่างเตรียมประกาศใช้ เป็นตัวเร่งให้โครงการต่างๆ พัฒนาหวังเลี่ยงกฎหมายผังเมืองใหม่ ที่ระบุให้พื้นที่อำเภอปากช่อง หรือพื้นที่รอบเขาใหญ่ เป็นพื้นที่สีเขียวทแยงขาว หรือ พื้นที่อนุรักษ์ชนบทและเกษตรกรรม หมายถึงการห้ามไม่ให้จัดสรรที่ดินแบ่งขาย หรือพัฒนาเชิงพาณิชย์
ไม่เพียงมหาเศรษฐี แลนด์ลอร์ด ทั้งทุนดั้งเดิม และทุนใหม่ ที่เข้าไปจับจองพัฒนาพื้นที่บริเวณเขาใหญ่ อีกหนึ่งปรากฏการณ์ที่น่าสนใจ คือ "เหล่านักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์" หรือ ดีเวลลอปเปอร์รายใหญ่น้อย ทั้งจากส่วนกลาง และทุนท้องถิ่นได้รุกเข้าพัฒนาโครงการ "คอนโดมิเนียม" หลายสิบโครงการ
ข้อมูลจากฝ่ายวิจัย คอลลิเออร์ส อินเตอร์เนชั่นแนล ประเทศไทย ระบุว่า คอนโดมิเนียมที่เปิดขายใหม่ช่วงปี 2556 จนถึงเดือนมี.ค. 2557 มีถึง 34 โครงการ รวม 3,642 ยูนิต รวม 112 อาคาร ปักหลักอยู่บนถนน 3 สายหลัก คือ ถนนธนะรัชต์ ถนนเขาใหญ่-วังน้ำเขียว และถนนผ่านศึก-กุดคล้า
ทุนส่วนกลางบุกเขาใหญ่
กลุ่มทุนจากส่วนกลาง อย่าง บมจ.แสนสิริ ของ "เศรษฐา ทวีสิน" เข้าพัฒนาโครงการมิกซ์ยูส 3 โครงการ บนพื้นที่ 45 ไร่ โครงการแรก ได้แก่ คอนโด ดีกรี เอสเตท จำนวน 161 ยูนิต พร้อมโครงการบ้านเดี่ยว 9 หลัง ราคาหลังละ 20-30 ล้านบาท เปิดตัวไปเมื่อปี 2555 มูลค่าโครงการ 2,500 ล้านบาท ขายหมดในวันเดียว โดยครึ่งหนึ่งเป็นลูกค้ากลุ่มเดิมตามมาซื้อโครงการ
โครงการที่สอง เพิ่งเปิดตัวไปเมื่อปีที่ผ่านมา คือ โครงการ เดอะ วัลลีย์ เขาใหญ่ เป็นโครงการคอนโด 236 ยูนิต มูลค่าลงทุน 1,200 ล้านบาท โครงการสุดท้ายที่กำลังจะเปิดตัวไปคือ โรงแรมเอสเคป จุดขายของแสนสิริ คือทำเลติดหลังเขา
"ภาคิน เดสูงเนิน" พนักงานขายโครงการที่เขาใหญ่ของแสนสิริ เล่าถึงสถานการณ์การขายโครงการบริเวณเขาใหญ่ว่า มีผู้สนใจเข้าชมโครงการและตัดสินใจซื้ออย่างต่อเนื่อง ช่วงเวลาที่สามารถกระตุ้นการขายได้ดีที่สุด คือช่วงที่เขาใหญ่สวยที่สุดในฤดูหนาว (พ.ย.-ม.ค.) จากสภาพอากาศที่เย็นสบาย กลายเป็นแม่เหล็ก ดึงดูดการตัดสินใจซื้อได้เป็นอย่างดี
กลุ่มธุรกิจอสังหาริมทรัพย์ ส่วนกลางอีกราย ที่รุกเข้าพัฒนาโครงการที่เขาใหญ่ คือ บมจ.ณุศาศิริ ครอบครองที่ดิน 1,200 ไร่ ตั้งอยู่ ตำบลวังไทร ห่างจากเขาใหญ่ประมาณ 25-30 กิโลเมตร เปิดตัวโครงการณุศา ชีวานี มูลค่ากว่า 6,000 ล้านบาท แบ่งเป็น 7 โซน เฟสแรก 105 ยูนิต บ้านเดี่ยวราคาเริ่มต้นหลังละ 12 ล้านบาท ในพื้นที่เดียวกันยังมีบ้านเดี่ยวแตกต่างสไตล์ ชื่อโครงการ “มาย โอโซน”
เซเลบ-นักการเมือง-นักธุรกิจ ไม่พลาด
ส่วนกลุ่มทุนตระกูลใหญ่ ที่หันมาพัฒนาธุรกิจรอบเขาใหญ่ ได้แก่ โครงการ "เดอะ เทมส์ วัลลีย์ เขาใหญ่" รีสอร์ทหรู สไตล์อังกฤษ อยู่บนทำเลติดถนนธนะรัชต์ กม.18 ทำเลติดอันดับราคาที่ดินสูงที่สุดบริเวณเขาใหญ่ อยู่ในเขตตำบลหมูสี เจ้าของคือ พินทองทา และ แพทองธาร ชินวัตร ใช้งบลงทุน 400 ล้านบาท ภายใต้การพัฒนาของบริษัท เรนด์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด รวมถึง รีสอร์ทสไตล์ยุโรป เนื้อที่ 750 ไร่ ของ เสี่ยหนู "อนุทิน ชาญวีรกูล" หัวหน้าพรรคภูมิใจไทยเข้ามาซื้อไว้ ช่วงเว้นวรรคทางการเมืองเมื่อปี 2549 พัฒนารีสอร์ทหรู “แรนโชชาญวีร์” พร้อมกับสนามกอล์ฟ สนามบินส่วนตัวสำหรับพักผ่อนส่วนตัวและรองรับเพื่อน จนกระทั่งปัจจุบันเปิดทำตลาดรับแขกในวงกว้างมากขึ้น ทั้งอบรม สัมมนา และกรุ๊ปทัวร์
ขณะที่ "กลุ่มสหพัฒน์" ยักษ์ใหญ่ธุรกิจอุปโภคบริโภค โดย "บุญเกียรติ โชควัฒนา" ประธานกรรมการบริหารและกรรมการผู้อำนวยการ บมจ.ไอ.ซี.ซี. อินเตอร์เนชั่นแนล เจ้าของโครงการ “เคนซิงตัน เพลซ” เพิ่งเปิดตัวโครงการคอนโดมิเนียมสไตล์สวนอังกฤษ 16 ยูนิต ขายไปแล้ว 81% ในนาม "บริษัท ทอฝัน พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด" บนที่ดิน 60 ไร่ ตำบลวังกะทะ ห่างจากเส้นทางหลักถนนธนะรัชต์ 10-20 นาที
ญาติของนักการเมืองที่มีชื่อเสียง อาทิ งามพรรณ เวชชาชีวะ กรรมการบริษัท บ้านรับลม ในตำบลขนงพระ ห่างจากโครงการของอนุทิน ชาญวีรกูล เพียง 1-2 กิโลเมตร บนเนื้อที่ 20 ไร่ สร้างเป็นคอนโด 46 ยูนิต
เช่นเดียวกับ คุณหญิงศศิมา ศรีวิกรม์ แม่ของ ทยา ทีปสุวรรณ มีบ้านพักอยู่ที่ เหวปลากั้ง ถนนกุดคล้า-ผ่านศึก โดยมีบริษัท ศศิสมบัติ จำกัด ได้เปิดตัวโครงการคอนโด “360 องศา พาโน เขาใหญ่” ตั้งแต่ปี 2555 โครงการอยู่บนยอดขาย 192 ยูนิต มูลค่ากว่า 1,000 ล้านบาท
สำหรับกลุ่มคนที่มีชื่อเสียงที่เข้าไปซื้อธุรกิจบริเวณเขาใหญ่ อาทิ ประวิทย์ มาลีนนท์ กรรมการ และอดีตกรรมการผู้จัดการ บริษัท บางกอกเอ็นเตอร์เทนเม้นต์ จำกัด เข้าไปซื้อกิจการโรงแรมจุลดิศ เขาใหญ่ ซึ่งเป็นโรงแรมเก่าแก่ที่เปิดมากว่า 25 ปี (ตั้งแต่ปี 2532) พร้อมกับโครงการปาลิโอ แหล่งชอปปิง แลนด์มาร์ค เขาใหญ่ ในนามของ บลิส พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด จากนั้นก็ตกแต่งใหม่ เปลี่ยนชื่อเป็น “บาลิออส”
เช่นเดียวกันกับ เฮียฮ้อ "สุรชัย เชษฐโชติศักดิ์" ซีอีโอ บมจ.อาร์เอส ใช้ทุนส่วนตัว 300 ล้านบาท ซื้อพรีโม พอสโต เปลี่ยนชื่อเป็น "พรีโม เพียซซ่า" ธุรกิจ ร้านกาแฟ ร้านอาหาร และที่ท่องเที่ยว รูปทรงหมู่บ้าน อิตาลี
"ทุนดั้งเดิม" รุกขยายโครงการ
ขณะที่กลุ่มทุนดั้งเดิม ที่เข้ามาบุกเบิกเขาใหญ่ในยุคแรกๆ จับจองที่ดินตั้งแต่เหมาซื้อไร่ละหมื่น อย่างโครงการ "โบนันซ่า" ตั้งอยู่เขตอบต.ขนงพระ บนเนื้อที่ 5,000 ไร่ ปัจจุบันอยู่ภายใต้การบริหารของทายาทรุ่น 2 "สงกรานต์ เตชะณรงค์" กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เขาใหญ่ โบนันซ่า ลูกชาย ไพวงษ์ เตชะณรงค์ นักธุรกิจรุ่นบุกเบิกเขาใหญ่ ตั้งแต่ปี 2535
โดยตั้งบริษัท ซูเตอร์ เอ็นเตอร์ไพรส์ จำกัด ใช้เงินลงทุนเกือบ 3,000 ล้านบาท เปิดตัว 2 โครงการบ้านเดี่ยวในพื้นที่เขาใหญ่ ได้แก่ โครงการ "โมเมนโต้" จำนวน 2 เฟส รวมไปถึงการแจ้งเกิดโครงการจับตลาดครอบครัวคนรุ่นใหม่ อย่าง "พาโค่ บาย เดอะ โบนันซ่า"
อีก 2 กลุ่มทุนรายใหญ่ที่เข้ามาปักธงเขาใหญ่ ไล่หลังโบนันซ่า เป็นกลุ่มทุนที่เชื่อมโยงกับนักพัฒนาอสังหาริมทรัพย์กรุงเทพฯ ผุดโครงการระดับพันไร่ ได้แก่ รีสอร์ทหรู "คีรีมายา" บนเส้นทาง เขาใหญ่-วังน้ำเขียว ของ "กิตติ ธนากิจอำนวย" ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท โนเบิล ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) เริ่มต้นเปิดตัวเมื่อปี 2547 ปัจจุบันหันไปพัฒนาโครงการคอนโด “อัตตา เดอะ คอนโด” 253 ยูนิต
"ทอสคาน่า" เจาะบ้านหรู 200 ล้าน
อีกหนึ่งกลุ่มทุนที่จับตลาดบ้าน โรงแรม คอนโด "หรู" คือ บริษัท ทอสคาน่า วัลเลย์ จำกัด ธุรกิจภายใต้กลุ่มทุนของ "ชนัฎ เรืองกฤตยา" ครอบครัวนักอสังหาฯ พ่อของ ชานนท์ เรืองกฤตยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และกรรมการผู้จัดการใหญ่ บมจ. อนันดา ดีเวลลอปเมนท์ เปิดตัว บริษัทโครงการทอสคาน่า วัลเลย์ เมื่อปี 2550 คฤหาสน์หรู คอนเซปต์ ยกเมืองทอสคานี เมืองที่ห้อมล้อมด้วยภูเขาทางตอนเหนือของอิตาลี ภูมิประเทศเดียวกับที่เขาใหญ่ บนเนื้อที่ 2,500 ไร่ ราคาเริ่มต้นตั้งแต่หลังละ 30 ล้านบาท ไปจนถึง 100 ล้านบาท