ไทยสมายล์ผนึกนกแอร์สู้'ไทยแอร์เอเชีย'

สมรภูมิดอนเมืองเดือด ไทยสมายล์จับมือนกแอร์ เปิดศึกไล่บี้ไทยแอร์เอเชีย หลังประกาศปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่
ดีเดย์ 26 ต.ค.นี้ย้ายฐานบินจากสุวรรณภูมิสู่ดอนเมืองประชิดคู่แข่ง พร้อมประเดิมเจาะตลาด 3 จังหวัดใหญ่วันละ 8 เที่ยวบิน
ท่าอากาศยานนานาชาติกรุงเทพ หรือ สนามบินดอนเมือง กำลังกลายเป็นสมรภูมิการแข่งขันสายการบินต้นทุนต่ำ เมื่อสายการบินไทยสมายล์ ซึ่งเป็นบริษัทลูกของสายการบินไทย ปรับกลยุทธ์ครั้งใหญ่ โดยจะกลับมาใช้สนามบินแห่งนี้ทั้งหมดภายในวันที่ 6 ต.ค.นี้
ความสำคัญของสนามบินดอนเมืองเริ่มมีมากขึ้น หลังจากรัฐบาลชุดที่แล้วให้กลับมาบริการเส้นทางทั้งภายในและต่างประเทศ เมื่อวันที่ 1 ต.ค.2555 เมื่อลดความแออัดของสนามบินสุวรรณภูมิ จากที่ก่อนหน้านี้ ให้บริการเฉพาะสายการบินในประเทศและเที่ยวบินเช่าเหมาลำ โดยในช่วงแรกมีสายการบินต้นทุนต่ำ หรือ โลว์คอสท์ แอร์ไลน์หลายสายการบินมาใช้บริการ โดยเฉพาะผู้นำตลาดอย่างไทยแอร์เอเชีย
แต่ความนิยมของผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น สะท้อนจากยอดจำนวนเที่ยวบินและจำนวนผู้โดยสารเพิ่มมากขึ้น จนทำให้บริษัทท่าอากาศยานไทย(ทอท.) ต้องขยายอาคารผู้โดยสาร 2 เพื่อรองรับความหนาแน่น ซึ่งในปีที่ผ่านมา มียอดจำนวนผู้โดยสารใช้บริการถึง 15.56 ล้านคน ขณะที่ความสามารถรองรับ 18.5 ล้านคน หากมีการขยายอาคารแห่งใหม่ คาดว่าจะสามารถรองรับได้ถึงปีละ 30 ล้านคน
ล่าสุด จำนวนเที่ยวบินและผู้โดยสารเพิ่มขึ้นในอัตราสูง โดยเที่ยวบินที่ใช้บริการในครึ่งปีแรก (ม.ค.-มิ.ย.) 2557 มีเที่ยวบินทั้งในประเทศและต่างประเทศ 82,186 เที่ยวบิน เพิ่มขึ้น 18.84% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน และจำนวนผู้โดยสาร 9.6 ล้านคน เพิ่มขึ้น 20.78%
เรืออากาศโทสุรพล อิศรางกูร ณ อยุธยา รักษาการรองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่สายการพาณิชย์ บริษัท การบินไทยจำกัด (มหาชน) กล่าวว่าแนวโน้มการเติบโตของจำนวนผู้โดยสารในสนามบินดอนเมืองดังกล่าวที่กำลังนำไปสู่การขยายพื้นที่รองรับด้วยอาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ทำให้ ไทยสมายล์ ซึ่งเป็นหน่วยธุรกิจหนึ่งของการบินไทย วางตำแหน่งการตลาดเป็นสายการบินไลท์พรีเมียม ต้องปรับกลยุทธ์ครั้งสำคัญเพื่อช่วงชิงตลาดการบินที่กำลังขยายตัวอยู่ที่ดอนเมืองในขณะนี้
"ในเบื้องต้นกำหนดให้วันที่ 26 ต.ค.เป็นการเริ่มการย้ายเที่ยวบินที่มีอยู่ทั้งหมด หรือประมาณ 90% ที่ให้บริการอยู่ที่สุวรรณภูมิมาให้บริการที่ดอนเมืองแทน"
เรืออากาศโทสุรพล กล่าวว่า ได้หารือร่วมกับ นกแอร์ ซึ่งอยู่ภายใต้เครือข่ายเดียวกัน และเป็นผู้ให้บริการรายเดิมในพื้นที่อยู่แล้ว เพื่อการร่วมมือเป็นพันธมิตรกำหนดเส้นทางการให้บริการ ป้องกันการช่วงชิงกลุ่มลูกค้ากันเอง และเพื่อผนึกกำลังร่วมกันแข่งขันเพื่อชิงส่วนแบ่งตลาดจากไทยแอร์เอเชีย
ทั้งนี้ ประเมินข้อดีของการย้ายเที่ยวบินมาเปิดให้บริการที่ดอนเมือง ว่าจะอำนวยความสะดวกสบายให้กับผู้โดยสารที่เป็นลูกค้าของไทยสมายล์ ซึ่งส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตเมือง ประกอบกับมีประโยชน์ต่อสายการบินเองในเรื่องการบริหารจัดการการบินได้มีประสิทธิภาพมากกว่า เนื่องจากเครื่องบินสามารถใช้เวลาแท็กซี่บนรันเวย์ก่อนเทคออฟน้อยกว่าที่สุวรรณภูมิถึงราว 1 เท่าตัว นำมาซึ่งการช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายด้านต้นทุนน้ำมันไปได้ประมาณ 4-5%
คาดผู้โดยสารต่อเที่ยวเพิ่มขึ้นจาก 65-70%
ส่วนด้านการทำตลาดในระยะต่อไปเมื่อย้ายฐานบินแล้ว คาดว่า จำนวนผู้โดยสารต่อเที่ยวในเส้นทางเดียวกันจะเพิ่มขึ้นจากเดิมที่เฉลี่ยอยู่ที่ 65-70% โดยคาดว่าไทยสมายล์จะย้ายมาให้บริการที่อาคารผู้โดยสารแห่งที่ 2 ซึ่งกำลังจะเปิดให้บริการในราวเดือน ต.ค.นี้ ซึ่งระหว่างนี้ บริษัทได้เข้าไปเตรียมสำรวจพื้นที่ๆ จะสร้างเลาจน์สำหรับผู้โดยสารไว้แล้ว และวางเป้าหมายไว้ว่า หากย้ายฐานการบินมาสำเร็จแล้วทั้งหมด ไทยสมายล์ จะกลายเป็นสายการบินที่ดีที่สุดสำหรับลูกค้าที่ท่าอากาศยานดอนเมือง แต่ค่าโดยสารไม่ได้สูงกว่าคู่แข่งอย่างไทยแอร์เอเชีย
ปัจจุบันไทยสมายล์มีฝูงบินพร้อมให้บริการ 14 ลำ และภายในสิ้นปีนี้จะรับเพิ่มเป็น 17 ลำ ก่อนที่จะเพิ่มเป็น 20 ลำภายในปลายปี 2558 ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาการวางเส้นทางและเครื่องบินที่เหมาะสม โดยเส้นทางต่างประเทศซึ่งเป็นจุดเชื่อมต่อเที่ยวบิน (connecting flight) จำนวนมากเช่นที่ นิวเดลี ไฮเดอราบัด ของอินเดียนั้น อาจจะให้การบินไทยเป็นผู้ให้บริการแทน ส่วนเส้นทางอื่นที่ให้บริการแบบจุดต่อจุด (point to point) เช่น มาเก๊า ก็จะย้ายมาให้บริการที่สนามบินดอนเมือง คาดว่าแผนเส้นทางบินจะมีความชัดเจนก่อนวันที่ 26 ต.ค.นี้
ด้านนายวรเนติ หล้าพระบาง รักษาการหัวหน้าฝ่ายบริหาร บริษัท ไทยสมายล์แอร์เวย์ จำกัด กล่าวว่า หลังจากที่ประเมินแล้วว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิอาจไม่สามารถขยายตัวรองรับความแออัดของผู้โดยสารได้ในอนาคตอันใกล้ ทำให้ต้องมองตัวเลือกมาที่ดอนเมือง ที่แม้จะมีการเติบโตของผู้โดยสารเช่นกัน แต่ยังอยู่ในอัตราที่ช้ากว่า อีกทั้งยังมีความพร้อมด้านระบบสาธารณูปโภคพื้นฐานรองรับอยู่แล้ว ดังนั้น หากไม่อาศัยช่วงเวลานี้ในการปรับกลยุทธ์ให้ทันต่อสถานการณ์ ก็จะเสียเปรียบคู่แข่งอย่างไทยแอร์เอเชีย ในการช่วงชิงตลาดผู้โดยสารที่ดอนเมืองซึ่งถือเป็นตลาดสำคัญที่การบินไทยตั้งเป้าหมายกลับมาปักธงครองส่วนแบ่งการตลาดเพิ่มขึ้น
ทยอยเปิดใน 3 จังหวัดหลัก
นายวรเนติ เสริมด้วยว่า สายการบินไทยสมายล์จะทยอยเปิดให้บริการในวันที่ 8 ส.ค.นี้ ใน 3 จังหวัดหลัก คือ ดอนเมือง-เชียงใหม่ วันละ 3 เที่ยวบิน ดอนเมือง- ขอนแก่น วันละ 3 เที่ยวบิน และ ดอนเมือง-ภูเก็ต วันละ 2 เที่ยวบิน รวมทั้งหมด 8 เที่ยวบิน พร้อมนำเสนอโปรโมชั่นบัตรโดยสารราคาพิเศษเที่ยวเดียวบินไปเชียงใหม่หรือ ขอนแก่น ราคาเริ่มต้น 990 บาท และภูเก็ต 1,090 บาท โดยเป็นราคาที่รวมภาษีและค่าธรรมเนียมทุกอย่างแล้ว ถือเป็นการต้อนรับการมาเปิดให้บริการที่ดอนเมือง เริ่มเปิดให้จองบัตรโดยสารราคาพิเศษระหว่างวันที่ 1-31 ส.ค.นี้ ทั้งนี้จะยังมีการบริการในเส้นทางเดียวกันที่สุวรรณภูมิ เพื่อเป็นทางเลือกสำหรับผู้โดยสารที่จะต้องต่อเครื่อง ก่อนที่จะย้ายมาอยู่ที่ดอนเมืองทั้งหมดวันที่ 26 ต.ค.นี้
นายเมฆินทร์ เพ็ชรพลาย กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า โครงการพัฒนาสนามบินดอนเมือง เฟส 2 ปรับปรุงอาคารผู้โดยสาร 1 และ 2 วงเงินลงทุน 3,000 ล้านบาท เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารจาก 18.5 ล้านคน เป็น 30 ล้านคน คาดเปิดให้บริการเฟสนี้ได้ในเดือนต.ค.นี้ ส่วนเฟส 3 วงเงินลงทุน 7,000 ล้านบาท เพิ่มขีดความสามารถในการรองรับผู้โดยสารเป็น 40 ล้านคนในปี 2558 โดยคาดว่าสิ้นเดือนก.ย.จะมีผู้โดยสาร 18.5 ล้านคน