SPALI

ยอดขายเพิ่มต่อเนื่อง

SPALI รายงานยอดขายในเดือน ส.ค. 2.3 พันล้านบาท เติบโต 56%MoM สุงสุดของกลุ่ม และเติบโตสูงสุดเมื่อเทียบกับต้นปี มาจากสินค้าคอนโดมีเนียม 63% เกิดจากยอดขายที่ดีจองโครงการ Supalai City Resort @Baring และ โครงการ Supalai Vista @ Pakkred Intersection ขายได้ 100% และ70% ตามลำดับ มียอดขายสะสมงวด 8M57 จำนวน 1.1 หมื่นล้านบาท เราคาดยอดขายของ SPALI สิ้นปี 57 มีโอกาสทำได้มากว่าที่เราประเมิน 1.8 หมื่นล้านบาท จากการตอบรับสินค้าที่ดีโดยเฉพาะสินค้าคอนโดมีเนียมที่สร้างยอดขายต่อเนื่อง โดยในเดือน กย. มีแผนเปิดตัวโครงการใหม่อีก 1 แห่ง คือ Supalai Elits@ พญาไท มูลค่า 1.8 พันล้านบาท จุดเด่นโครงการ ห่างจากรถไฟฟ้า 600 เมตร ทั้งนี้ใน 4Q57 ยังมีแผนเปิดโครงการคอนโดมีเนียมใหม่ 4 แห่งมูลค่าราว 9.8 พันล้านบาทซึ่งยอดขายที่ทำได้ดีส่งผลต่อการรับรู้รายได้ใน 2 ปีข้างหน้า

2H57 กำไรเติบโตเด่น

แม้ว่าผลประกอบการของ SPALI ใน 1H57 คิดเป็นสัดส่วนประมาณการกำไรปี 2557 ของเราเพียง 33% และกำไรใน 2H57 จะมีสัดส่วนสูงถึง 67% ของประมาณการ อย่างไรก็ตามเราเชื่อว่าผลประกอบการของ SPALI ใน 2H57 จะไม่สร้างความผิดหวัง เนื่องจากมีงานในมือรอบันทึกรายได้สูงถึง 1.2 หมื่นล้านบาท มาจากการรับรู้รายได้ของโครงการขนาดใหญ่คือ Supalai River Resort, Supalai Park Kaerai-งามวงศ์วานใน 3Q57 และ เริ่มรับรู้รายได้โครงการ Supalai Premier Asoke,Supalai Wellington เกิดขึ้นใน 4Q57 เราคาดว่า SPALI มีรายได้อย่างน้อย 5 พันล้านบาทต่อไตรมาส

ผลประกอบการปี 2558 ไม่น่ากังวล

เราคาดงานในมือระดับสูงของ SPALI ยังคงสร้างรายได้ที่ต่อเนื่องไปปี 2558 ซึ่งปัจจุบันสามารถรองรับรายได้แล้วกว่า 1.5 หมื่นล้านบาท ขณะเดียวกัน บริษัทยังคงรักษาระดับอัตรากำไรขั้นต้นที่ 40% ได้เป็นอย่างดีสามารถลดแรงเสียดทานในอนาคต กรณีภาระต้นทุนทีเพิ่มสูงขึ้นได้ดีกว่ากลุ่มที่มีค่าเฉลี่ยของอัตรากำไรขั้นต้นที่ 35% รวมถึงการควบคุมค่าใช้จ่ายขายและบริหารได้ดีเฉลี่ย 12.5% เทียบกับรายได้ ทำให้มีความสามารถในการทำกำไรโดดเด่น จากอัตรากำไรสุทธิระดับ 20% สูงกว่ากลุ่มที่ 17% ทำให้เรายังคงมั่นใจต่อผลประกอบการที่มีคุณภาพของ SPALI

คำแนะนำ “ซิ้อ”

SPALI ยังคงเป็นหุ้นเด่น ที่เราแนะนำซื้อ จากต้นปี 2557 และประสิทธิภาพการบริหารต้นทุนและยอดขายที่ต่อเนื่อง เป็นจุดเด่นของบริษัทสามารถทำได้ดีกว่ากลุ่ม งานในมือรระดับสูง 4 หมื่นล้านบาทเป็นอันดับ 2 ของอุตสาหกรรม ขณะเดียวกันการมีสินค้าที่หลากหลายทั้งแนวราบและคอนโดมีเนียม รวมถึงการขยายฐานสินค้าไปยังกลุ่มลูกค้าต่างจังหวัดจากมูลค่าโครงการเปิดใหม่ปี 57 มีสัดส่วนถึง 30% ช่วยลดความเสี่ยงจากกลุ่มลูกค้าที่จำกัดเพียงในพื่นที่กรุงเทพและปริมณฑล พร้อมผลตอบแทนจากเงินปันผลเฉลี่ย 4% ต่อปี ราคาเหมาะสม 27.40 บาท