กองรีทอิมแพ็คเทรดวันแรกราคาต่ำจอง

กองรีทอิมแพ็คเทรดวันแรกราคาต่ำจอง

กองรีทอิมแพ็คเทรดวันแรกราคาต่ำจอง ผู้จัดการกองทรัสต์มองแนวโน้มดีรายโต 10% ต่อปี

“กองทรัสต์อิมแพ็ค โกรท” เผยคงรักษาระดับเงินกู้ที่ 20% ต่อเนื่อง เพื่อเพิ่มผลตอบแทนที่ดีให้กับผู้ถือหน่วย มองแนวโน้มผลตอบแทนดี โชว์อัตราเติบโตของรายได้ย้อนหลัง 10% ต่อปี ฝ่าทุกวิกฤติ

นางวันเพ็ญ มุ่งเพียรสกุล กรรมการผู้จัดการ บจ.อาร์ เอ็ม ไอ ในฐานะผู้จัดการกองทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์อิมแพ็ค โกรท (IMPACT) เปิดเผยว่า ปัจจุบันโครงสร้างการถือหน่วยทรัสต์ IMPACT การเสนอขายหน่วยทรัสต์ต่อประชาชนครั้งแรก (IPO) มีจำนวน 1,482.50 ล้านหน่วย ราคาหน่วยละ 10.60 บาท รวมมูลค่า 15,714.50 ล้านบาท เพื่อนำเงินไปลงทุนในกรรมสิทธิ์ในที่ดินและอาคารศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมของโครงการอิมแพ็คเมืองทองธานีจำนวน 4 อาคารรวมถึงระบบสาธารณูปโภคและอุปกรณ์ต่างๆ ของอาคารบนที่ดิน 192 ไร่ 1 งาน 30.1 ตารางวา รวมพื้นที่ใช้สอย 165,606 ตารางเมตร

"ในการเสนอขายหน่วยทรัสต์ครั้งนี้บริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ ถือ 50% หรือ 7,600 ล้านบาท ส่วนที่เหลืออีก 7,600 ล้านบาท เป็นนักลงทุนในประเทศส่วนใหญ่เป็นสถาบันและนักลงทุนรายใหญ่ โดยเป็นของนักลงทุนทั่วไปประมาณ 2,000 ล้านบาท”

นางวันเพ็ญ ยังกล่าวอีกว่า สำหรับการเข้าซื้อขายของหน่วยทรัสต์ในตลาดหลักทรัพย์เป็นวันแรกในวันที่ 1 ต.ค.ที่ผ่านมา ถือว่าน่าพอใจ สะท้อนให้เห็นว่านักลงทุนที่ได้จองซื้อหน่วยในครั้งแรกต้องการลงทุนเพื่อรอรับเงินปันผล โดยจากการประมาณการอัตราผลตอบแทนเงินปันผลในปีแรกจะอยู่ที่ประมาณ 6.63% ต่อปี ซึ่งสูงกว่าอัตราดอกเบี้ยเงินฝาก ทำให้นักลงทุนส่วนใหญ่ถือลงทุนระยะยาวเพื่อรอรับเงินปันผล โดย IMPACT มีนโยบายจ่ายเงินปันผลไม่เกิน 4 ครั้งต่อรอบปีบัญชีหรือทุกๆ ไตรมาส ในอัตราไม่น้อยกว่า 90% ของกำไรสุทธิที่ปรับปรุงแล้วของรอบปีบัญชี โดยแผนงานใน 1 ปีจากนี้ บริษัทยังไม่มีแผนเพิ่มขนาดสินทรัพย์ของหน่วยทรัสต์ IMPACT โดยจะเน้นบริหารสินทรัพย์ที่มีอยู่ในปัจจุบันให้มีผลดำเนินงานเติบโตขึ้นต่อเนื่อง

“สำหรับความเสี่ยงของ IMPACT มีน้อยและน่าจะสร้างผลตอบแทนที่ดีให้แก่นักลงทุนได้ ซึ่งผลงานที่ผ่านมาซึ่งผ่านวิกฤตการณ์มาหลายครั้งแต่สินทรัพย์เหล่านี้ก็ยังมีรายได้เติบโต โดย 5 ปีที่ผ่านมารายได้โตเฉลี่ย 10% จึงอยากให้นักลงทุนมั่นใจว่าจะสามารถให้ผลตอบแทนที่ดีในระยะยาว ”

วันเพ็ญ กล่าวเสริมว่า เงินกู้ที่ใช้ในการลงทุนในสินทรัพย์ในครั้งนี้ประมาณ 3,900 ล้านบาท หรือประมาณ 20% ของขนาดกองทรัสต์ จากเกณฑ์ที่เปิดให้กู้ไม่เกิน 35% ซึ่งในต่างประเทศกองทรัสต์มีการกู้เงินเพื่อใช้ในการลงทุนอยู่แล้ว โดยบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินแล้วเห็นว่าจะรักษาสัดส่วนเงินกู้ 20% ไว้ ในระดับนี้เพื่อผลตอบแทนที่ดีกว่าสำหรับนักลงทุนในระยะยาวเพราะเป็นเรื่องของโครงสร้างทุนที่ส่งผลดี เพราะหากนำเงินที่ได้จากสินทรัพย์ไปคืนเงินกู้ก็จะทำให้มีเงินจ่ายผลตอบแทนให้นักลงทุนได้น้อย ดังนั้นการคงสัดส่วนเงินกู้ไว้เมื่อมีรายได้จากสินทรัพย์แล้วก็ปันผลได้ทั้งหมด ดังนั้นเมื่อครบอายุเงินกู้ 5 ปี ก็จะกู้รอบใหม่ต่อไป

สำหรับราคาหน่วยทรัสต์ IMPACT เปิดตลาดที่ราคา 10.60 บาท เท่ากับราคาที่เสนอขายให้แก่ประชาชนทั่วไปครั้งแรก (ไอพีโอ) และขยับแตะสูงสุด 10.80 บาทและ ปิดที่ 10.50 บาท ลดลง 0.94%