คอลเกตทุ่ม100ล้านดอลล์ซื้อธุรกิจยาสีฟันพม่า

คอลเกตทุ่ม100ล้านดอลล์ซื้อธุรกิจยาสีฟันพม่า

"คอลเกต"ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคสหรัฐเข้าซื้อกิจการ"เลเซอร์"แบรนด์ยาสีฟันของพม่า100ล้านดอลล์

คอลเกต ปาล์มโอลีฟ โค ยักษ์ใหญ่แห่งอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภคของสหรัฐ เข้าซื้อกิจการ "เลเซอร์" แบรนด์ยาสีฟันชื่อดังของพม่า ในวงเงินเกือบ 100 ล้านดอลลาร์ ถือเป็นหนึ่งในการลงทุนขนาดใหญ่สุดของบริษัทสหรัฐ ในประเทศนี้ นับแต่ที่รัฐบาลวอชิงตันเริ่มผ่อนคลายการคว่ำบาตรเศรษฐกิจพม่ามาตั้งแต่ปี 2555

ขณะที่คอลเกตยืนยันว่า บริษัทได้เข้าซื้อยาสีฟันเลเซอร์ และผลิตภัณฑ์เพื่อการดูแลตนเองจากบริษัทชเว อยาร์ นาดี แต่ไม่ได้เปิดเผยเงื่อนไขของข้อตกลง กล่าวเพียงว่า การลงทุนครั้งนี้สะท้อนให้เห็นถึงพันธะสัญญาเรื่องการพัฒนาธุรกิจของบริษัทในพม่า ซึ่งเป็นประเทศตลาดเกิดใหม่ที่สำคัญในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ โดยบริษัทจะซื้อโรงงานผลิตและโรงงานบรรจุยาสีฟันเพื่อผลิตยาสีฟันแบรนด์เลเซอร์ ควบคู่กับการนำเข้าสินค้าแบรนด์คอลเกตจากไทยด้วย

ก่อนหน้านี้ บริษัทสหรัฐหลายแห่งต่างหลั่งไหลเข้ามาทำธุรกิจในพม่า ทั้งเจนเนอรัล อิเลกทริกส์ โค (จีอี) โคคา-โคลา โค และแก๊ป อิงค์ โดยโคคา-โคลา ประกาศว่าจะลงทุนกว่า 200 ล้านดอลลาร์ภายในห้าปีข้างหน้า

การเปิดประเทศของพม่า ถือเป็นโอกาสทำกำไรของบรรษัทข้ามชาติผู้ผลิตสินค้าอุปโภค-บริโภค เนื่องจากรายได้หลังหักภาษีของประชากรพม่า 51 ล้านคนเพิ่มสูงขึ้น

ข้อมูลจากยูโรมอนิเตอร์ อินเตอร์เนชันแนล บริษัทด้านการวิจัยตลาด แสดงให้เห็นว่า นับแต่ปี 2552 เป็นต้นมา สินค้าประเภทความงามและผลิตภัณฑ์ดูแลตนเองของพม่าขยายตัวปีละ 14% และในปีที่แล้ว สินค้าประเภทนี้มีมูลค่าตลาดถึง 318 ล้านดอลลาร์ ทำให้พม่าเป็น1ใน 20 ตลาดที่เปิดโอกาสทางธุรกิจแก่บริษัทสินค้าอุปโภค-บริโภคทั่วโลกมากที่สุด

นอกจากนี้ ยังมีแนวโน้มว่าตลาดพม่าจะเติบโตต่อไปอีก เห็นได้จากรายงานของกองทุนการเงินระหว่างประเทศ หรือไอเอ็มเอฟ ในเดือนนี้ ที่ระบุว่า ผลพวงจากการลงทุนของต่างชาติที่เพิ่มมากขึ้น ทำให้คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจพม่าจะเติบโตเฉลี่ยปีละ 8% ภายในไม่กี่ปีข้างหน้า

การเข้าซื้อกิจการของคอลเกต ถือเป็นการซื้อกิจการครั้งใหญ่สุดครั้งหนึ่งในตลาดน้องใหม่อย่างพม่า ที่บรรษัทข้ามชาติมักใช้วิธีร่วมทุนกับบริษัทท้องถิ่นมากกว่า ซึ่งบริษัทวิเคราะห์ด้านการตลาด "ดีลลอจิก" ระบุว่า ในปีที่ผ่านมา การควบรวมและเข้าซื้อกิจการ หรือเอ็มแอนด์เอในพม่ามีมูลค่า 50 ล้านดอลลาร์ ซึ่งรวมถึงบริษัทยูนิชาร์มของญี่ปุ่น ที่ซื้อกิจการเมียนมาร์ แคร์ โปรดัคท์ส ผู้ผลิตผ้าอ้อมและผลิตภัณฑ์สุขอนามัยผู้หญิง โดยไม่เปิดเผยวงเงินด้วย

ส่วนการลงทุนของสหรัฐในพม่า นับจนถึงขณะนี้ถือว่าล้าหลังประเทศอื่นรวมทั้งจีนอยู่มาก โดยจีน ได้ชื่อว่าเป็นประเทศที่เข้าไปลงทุนในพม่ามากที่สุด ข้อมูลล่าสุดจากรัฐบาลพม่า นับจนถึงเดือนสิงหาคม ระบุว่า การลงทุนจากบริษัทสหรัฐในพม่า ที่ผ่านการอนุมัติแล้วมีมูลค่ารวม 243.6 ล้านดอลลาร์ เทียบกับการลงทุนจากจีน ที่มีมูลค่ามากถึง 14,000 ล้านดอลลาร์ ไทย 10,000 ล้านดอลลาร์ และสิงคโปร์ 4,700 ล้านดอลลาร์