กรุงศรีควบรวมBTMUสาขากรุงเทพฯ

กรุงศรีควบรวมBTMUสาขากรุงเทพฯ

"แบงค์กรุงศรี" ประกาศความสำเร็จควบรวม "โตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ" หรือ BTMU สาขากรุงเทพฯ

"กรุงศรี" หรือ ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) ในเครือมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) หนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก วันนี้ประกาศความสำเร็จในการควบรวมกิจการธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ ซึ่งเป็นธนาคารในเครือ MUFG เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรี หลังจากใช้เวลา 1 ปี ในการเตรียมการและดำเนินงาน

นายโนริอากิ โกโตะ กรรมการผู้จัดการใหญ่และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “2558 เป็นปีแห่งการเริ่มต้นที่สำคัญของธนาคาร โดยกรุงศรีได้ฉลองประวัติศาสตร์หน้าใหม่ ซึ่งเป็นผลจากความสำเร็จในการควบรวมกิจการของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ เข้าเป็นส่วนหนึ่งของกรุงศรี อีกทั้งยังเป็นปีที่ธนาคารได้ดำเนินธุรกิจครบรอบ 70 ปีในอุตสาหกรรมธนาคารพาณิชย์ไทยอีกด้วย”

“กรุงศรีกับประวัติศาสตร์หน้าใหม่นี้จะเป็นก้าวแห่งความมุ่งมั่นสู่การเป็นธนาคารชั้นนำด้วยความแข็งแกร่งในฐานะธนาคารที่ให้บริการทางการเงินอย่างครบวงจร (Universal Banking) มีสัดส่วนสินเชื่อที่สมดุลระหว่างสินเชื่อเพื่อรายย่อยและสินเชื่อเพื่อธุรกิจ โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายของมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ซึ่งตั้งอยู่ในกว่า 40 ประเทศ และมีสำนักงานกว่า 1,100 แห่งทั่วโลก การควบรวมกิจการของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ เข้ากับกรุงศรีนี้ ถือเป็นโอกาสทางธุรกิจสำหรับกรุงศรีในการสนับสนุนทางการเงินให้กับบริษัทญี่ปุ่นที่ตั้งอยู่ในไทยกว่า 4,000 แห่ง และนำเสนอผลิตภัณฑ์ทางการเงินแก่พนักงานกว่า 700,000 คน ของบริษัทดังกล่าว นอกจากนี้การผนึกรวมกันในครั้งนี้ยังเป็นการผสานความแข็งแกร่งในระดับโลกและความเชี่ยวชาญในไทยเข้าด้วยกัน ทำให้กรุงศรีพร้อมที่จะเสริมสร้างความเป็นผู้นำในธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย และขยายส่วนแบ่งการตลาดในธุรกิจสินเชื่อ SME และธุรกิจขนาดใหญ่ต่อไป” นายโกโตะ กล่าว

“หลังจากการควบรวมกิจการธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ ซึ่งมีสินทรัพย์ 479 พันล้านบาท เข้ากับธนาคาร ทำให้ปัจจุบันกรุงศรีมีสินทรัพย์รวมสูงขึ้นถึง 1.716 ล้านล้านบาท (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2557) เทียบเคียงกับ 4 ธนาคารที่มีขนาดใหญ่ที่สุดของไทย โดยกรุงศรีมีสัดส่วนสินเชื่อเพื่อธุรกิจ อันประกอบด้วยสินเชื่อธุรกิจขนาดใหญ่และสินเชื่อธุรกิจ SME อยู่ที่ประมาณ 60% ขณะที่สินเชื่อเพื่อรายย่อยมีสัดส่วนอยู่ที่ประมาณ 40% ของสินเชื่อทั้งหมด” นายโกโตะ กล่าวเพิ่มเติม

เพื่อเป็นการฉลองประวัติศาสตร์หน้าใหม่ของกรุงศรี วันนี้ (5 มกราคม 2558) ธนาคารได้เปิดสาขากรุงเทพฯ สาทร ณ อาคารหะรินธร ถนนสาทร ซึ่งเคยเป็นที่ตั้งของธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) สาขากรุงเทพฯ

ปัจจุบันมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) ได้เพิ่มสัดส่วนการถือครองหุ้นในกรุงศรีจาก 72% มาอยู่ที่ 76.88% หลังการควบรวม ซึ่งเป็นผลจากการที่ธนาคารจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนแบบเฉพาะเจาะจงจำนวน 1,281,618,026 หุ้น ให้แก่ธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ จำกัด (BTMU) ขณะที่กลุ่มรัตนรักษ์ยังคงเป็นผู้ถือหุ้นที่สำคัญของธนาคารด้วยสัดส่วนการถือครองหุ้นประมาณ 20% จากจำนวนหุ้นทั้งหมด

สำหรับ มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ไฟแนนเชียล กรุ๊ป (MUFG) เป็นหนึ่งในกลุ่มสถาบันทางการเงินชั้นนำระดับโลก มีสำนักงานใหญ่ตั้งอยู่ ณ กรุงโตเกียว ด้วยประวัติศาสตร์อันยาวนานในการดำเนินธุรกิจกว่า 350 ปี MUFG มีเครือข่ายสำนักงาน 1,100 แห่งในกว่า 40 ประเทศทั่วโลก และมีพนักงานกว่า 140,000 คน ซึ่งนำเสนอบริการที่หลากหลายครอบคลุมทั้งธนาคารพาณิชย์ ทรัสต์ แบงก์กิ้ง ธุรกิจหลักทรัพย์ ธุรกิจบัตรเครดิต ธุรกิจสินเชื่อเพื่อรายย่อย ธุรกิจหลักทรัพย์จัดการกองทุน ธุรกิจเช่าซื้อ ซึ่งรวมทั้งธนาคารแห่งโตเกียว-มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ, มิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ทรัสต์ แอนด์ แบงก์กิ้ง คอร์เปอเรชั่น (ทรัสต์แบงก์ชั้นนำของญี่ปุ่น) และมิตซูบิชิ ยูเอฟเจ ซิเคียวริตี้ โฮลดิ้ง หนึ่งในบริษัทหลักทรัพย์ที่ใหญ่ที่สุดของญี่ปุ่น MUFG มีเป้าหมายที่จะเป็น “กลุ่มสถาบันทางการเงินที่ได้รับความไว้วางใจมากที่สุดของโลก” ตอบสนองทุกความต้องการทางการเงินของลูกค้า เป็นส่วนหนึ่งของสังคม และสร้างความเติบโตอย่างยั่งยืน MUFG จดทะเบียนซื้อขายในตลาดหลักทรัพย์โตเกียว ตลาดหลักทรัพย์นาโกยา และตลาดหลักทรัพย์นิวยอร์ก