จี้ตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษเสร็จใน 1 เดือน

พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหม เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการขับเคลื่อนเขตเศรษฐกิจพิเศษ ให้ทุกหน่วยงานรายงานถึงปัญหาต่าง ๆ ของการเดินหน้าจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ ทั้งเรื่องที่ดิน ข้อกฎหมาย การให้สิทธิประโยชน์ต่าง ๆ เพราะรัฐบาลต้องการเห็นการจัดตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษ และการลงทุนของภาคเอกชนในพื้นที่ เกิดขึ้นอย่างเป็นรูปธรรมภายในเดือน ก.ย.ที่จะถึงนี้ คาดว่าขั้นแรก จะเร่งตั้งเขตเศรษฐกิจพิเศษในพื้นที่ อ.แม่สอด จ.ตาก และเขตเศรษฐกิจพิเศษใน จ.สระแก้ว ให้เกิดก่อน เนื่องจากพร้อมมากกว่าพื้นที่อื่น ๆ

“เรื่องต่าง ๆ คืบหน้าไปมากพอสมควร แต่ก็ยังล่าช้า จึงให้มาคุยถึงปัญหา ว่ามีอะไร ที่ยังไม่ได้บูรณาการกัน จะแก้อย่างไร เรื่องปัญหาที่ต้องไปสอบถามข้อมูล ถามความเข้าใจ เรื่องเขตเศรษฐกิจพิเศษ ก็สั่งการให้ไปตั้งวันสต็อปเซอร์วิส ขึ้นมารองรับ ซึ่งเรื่องของภาครัฐต้องเร่งแก้เดือน มิ.ย.นี้ให้เรียบร้อย เพื่อให้เอกชนมีความมั่นใจในการมาลงทุน”

ขณะที่ความพร้อมของโครงสร้างพื้นฐาน ในพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษนั้น อาจยังไม่สนับสนุนการลงทุนของเอกชนอย่างเพียงพอ ดังนั้น ภาครัฐจะทยอยลงทุนโครงการต่าง ๆ เพิ่มเติม เช่น ระบบรางให้ลงไปในพื้นที่จะทำมากขึ้นในอนาคต และยังเร่งรัดให้กำหนดการส่งเสริมการผลิตสินค้าต่าง ๆในเขตเศรษฐกิจพิเศษ เพื่อสร้างความเชื่อมั่น และจูงใจเอกชนลงทุนมากขึ้น ส่วนการแก้ไขข้อร้องเรียนของเอกชน เกี่ยวกับการจัดหาที่ดิน ล่าสุดได้แก้ปัญหาไปแล้วโดยประกาศให้นำพื้นที่ที่อยู่ในการดูแลของหน่วยราชการมารวบรวม เพื่อจัดสรรใหม่ขณะนี้รอให้เจ้าหน้าที่เรียกคืนที่ดินในส่วนนี้มาเป็นของรัฐ เพื่อจัดสรรให้เอกชนเช่าที่ดิน เชื่อว่าทำได้ และไม่ต้องใช้กฎหมายมาตรา44

ทั้งนี้รัฐบาลประกาศพื้นที่เขตเศรษฐกิจพิเศษ ใน 5 จังหวัด ได้แก่ พื้นที่ จ.ตาก จ.สระแก้ว จ.ตราด จ.มุกดาหาร รวมทั้งจ.หนองคาย ครอบคลุมพื้นที่ 24,871 ไร่ ใน 10 อำเภอ 36 ตำบล โดยก่อนหน้านี้ที่ประชุมคณะกรรมการนโยบายเขตเศรษฐกิจพิเศษ (กนพ.) ได้มีมติให้จัดสรรพื้นที่ในการดูแลของราชการ เช่น พื้นที่ป่าไม้ พื้นที่อุทยาน หรือ พื้นที่ประเภทอื่น ๆ เช่น พื้นที่สำนักงานปฏิรูปที่ดินเพื่อการเกษตร (ส.ป.ก.) พื้นที่ของการรถไฟแห่งประเทศไทย (ร.ฟ.ท.) เพื่อให้เอกชนเช่าจากรัฐ การเช่าพื้นที่ของภาคเอกชนให้เป็นไปตาม พ.ร.บ.การเช่าอสังหาริมทรัพย์ เพื่อพาณิชยกรรมและอุตสาหกรรมพ.ศ.2542ให้สิทธิเอกชนในการเช่าพื้นที่สูงสุด 50 ปี และขยายระยะเวลาในการเช่าต่อได้อีก 49 ปีรวมสิทธิในการเช่ารวม 99 ปี