MTLS มั่นใจยอดปล่อยกู้ปีนี้แตะ1.65หมื่นลบ.

MTLS มั่นใจยอดปล่อยกู้ปีนี้แตะ1.65หมื่นลบ.

"เมืองไทยลิสซิ่ง" มั่นใจยอดปล่อยกู้ปีนี้แตะ 1.65 หมื่นลบ. โต 45-50% เผยยอดปล่อยสินเชื่อไตรมาส 2/58 ทะลุเป้า ขณะที่เอ็นพีแอลลดลงเหลือ 1.14%

นายชูชาติ เพ็ชรอำไพ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เมืองไทย ลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) (MTLS) เปิดเผยว่า แนวโน้มผลการดำเนินงานในช่วงครึ่งปีหลัง นายชูชาติ กล่าวว่า คาดว่าจะขยายตัวอย่างต่อเนื่อง หลังจากที่สถานการณ์ภัยแล้งคลี่คลาย ทำให้เชื่อมั่นว่าความต้องการสินเชื่อจะเพิ่มมากขึ้น และที่สำคัญบริษัทมีโปรดักท์การเงินใหม่ 2 อาทิ นาโนไฟแนนซ์ ที่ตั้งเป้าปล่อยกู้ 10 ล้านบาทต่อเดือน จากฐานลูกค้าเดิมที่มีกว่า 700,000 รายทั่วประเทศ และสินเชื่อที่ดิน ทำให้มั่นใจว่าเป้าหมายปล่อยสินเชื่อ 16,500 ล้านบาท ในปีนี้จะเป็นไปตามแผนได้อย่างแน่นอน

“จากยอดปล่อยสินเชื่อในช่วงไตรมาส 2/58 ที่มียอดปล่อยกู้เฉลี่ยสูงถึง 1.5 พันล้านบาท/เดือน สะท้อนถึงความต้องการสินเชื่อของคนในระดับรากหญ้ายังมีอยู่มาก ทำให้เรามั่นใจว่ายอดปล่อยสินเชื่อในปีนี้จะเติบโตกว่า 45-50% สูงกว่าเป้าหมายเดิมที่คาดว่าจะเติบโต 30% ซึ่งจะผลักดันให้รายได้และกำไรปรับตัวสูงกว่าที่ตั้งเป้าหมายไว้ในช่วงก่อนหน้า”นายชูชาติกล่าวในที่สุด

นอกจากนี้ บริษัทยังได้จัดแคมเปญช่วยเหลือลูกค้าในระดับรากหญ้า โดยถ้าหากลูกค้าคืนหนี้ทั้งหมดก่อนกำหนดบริษัทจะคิดอัตราดอกเบี้ยเพียง 60% ของดอกเบี้ยคงค้างทั้งหมด เพื่อแบ่งเบาภาระค่าใช้จ่าย และเพิ่มสภาพคล่องให้กับลูกค้า

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/2558 บริษัทมีกำไรสุทธิ 183.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 65.77 ล้านบาท หรือเพิ่มขึ้น 56% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนมีกำไรสุทธิ 117.65 ล้านบาท โดยได้รับปัจจัยหนุนจากยอดการปล่อยสินเชื่อที่ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ จากการเปิดสาขาเพิ่มตามยุทธศาสตร์ขยายตัวทั่วไทย โดยล่าสุดเปิดสาขาใหม่เพิ่ม 270สาขา และเตรียมเปิดเพิ่มอีก 80 แห่งในช่วงครึ่งปีหลัง ซึ่งจะทำให้บริษัทมีสาขาเพิ่มเป็น 850 สาขา ภายในปี 2558 และในปี 2559 และปี 2560 เตรียมเปิดเพิ่มปีละ 300 สาขาทั่วประเทศ เพื่อตอบสนองความต้องการสินเชื่อของประชาชนทั่วไปที่ยังมีข้อจำกัดในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน

“ยอดการปล่อยสินเชื่อในไตรมาส 2/58 เพิ่มขึ้นทะลุเป้าหมายที่วางไว้ โดยพอร์ตสินเชื่อเติบโตสูงถึง 50% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ปรับลดลงมาอยู่ที่ 1.14% จากไตรมาสก่อนอยู่ที่ 1.27% สะท้อนถึงการบริหารความเสี่ยงที่มีความเป็นเลิศ ภายใต้การบริหารงานของทีมงานที่มีความเป็นมืออาชีพ และมีประสบการณ์ในธุรกิจมายาวนาน”นายชูชาติกล่าว