แผนรบ 'ฮิวแมนิก้า' พิชิต HR Solution ที่หนึ่งในเอเชีย

แผนรบ 'ฮิวแมนิก้า' พิชิต HR Solution ที่หนึ่งในเอเชีย

พวกเขาคือผู้ให้บริการ HR Solution ที่ใช้นวัตกรรมและ“ความแตกต่าง” เอาชนะคู่แข่งจนเป็นรายใหญ่ที่สุดในประเทศ พร้อมพิชิตเป้าที่1ในเอเชียในปี 59

“เราต้องการครองประเทศไทย และปกป้องเอเชียจากชาติตะวันตก”

คำประกาศของ “สุนทร เด่นธรรม” กรรมการผู้จัดการ บริษัท ฮิวแมนิก้า จำกัด ผู้ให้บริการด้าน HR Solution รายใหญ่ที่สุดของไทย ระหว่างเข้ารับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin ครั้งที่ 11 ที่จัดโดยธนาคารไทยพาณิชย์ และสถาบันบัณฑิตบริหารธุรกิจศศินทร์ แห่งจุฬาลงกรณ์มหาวิทยาลัย เมื่อวันก่อน

ดึงความสนใจใครหลายคน ให้หันมามองธุรกิจ “ไม่ธรรมดา” ของพวกเขา

“ฮิวแมนิก้า” เกิดขึ้นเมื่อ 12 ปีก่อน โดย สุนทร อดีตพนักงาน บริษัท ไพรซ์วอเทอร์เฮาส์คูเปอส์ (PwC) บริษัทตรวจสอบบัญชีรายใหญ่ของโลก ที่ร่วมก่อตั้งธุรกิจด้านรับจ้างบริหารระบบธุรกิจ (Business Process Outsourcing : BPO) ให้กับ PwC จนเมื่อเกิดวิกฤติดอทคอมในปี 2002 บริษัทตัดสินใจยุบส่วนงานนี้ไป เขาเห็นว่ายังเป็นธุรกิจที่มีอนาคต จึงตัดสินใจออกมาตั้งบริษัทใหม่ใช้ชื่อ “ฮิวแมนิก้า” เพื่อให้บริการด้าน HR Solution แก่บริษัทในประเทศไทย โดยมีลูกค้าเริ่มต้นแค่ 3 ราย และพนักงานแค่ 20 คน

เริ่มธุรกิจในจังหวะที่ไม่ได้ดีมาก แต่พวกเขากลับไม่ได้รับผลกระทบนัก เนื่องจากโฟกัสแต่ลูกค้ารายใหญ่เป็นหลัก โดยมีลูกค้าอย่าง Minor Group, Unilever, Chevron และ Google SG เป็นต้น เขาเชื่อว่า ส่วนหนึ่งที่บริษัทขนาดใหญ่เลือกใช้ฮิวแมนิก้า เพราะเชื่อในประสบการณ์ของทีม และในเวลานั้นยังไม่ค่อยมีใครทำเรื่องนี้แข่งกับพวกเขา

“คนที่ให้บริการองค์กรขนาดใหญ่ได้ยังมีน้อย คู่แข่งส่วนใหญ่จะทำแต่รายเล็กๆ เนื่องจากเขาไม่มีเทคโนโลยี ไม่มีซอฟแวร์ของเขาเอง ขณะที่บริษัทอินเตอร์ก็มีนโยบายไม่พัฒนาซอฟแวร์เองอีก แต่เรามองว่าซอฟแวร์ต่างประเทศไม่เหมาะกับเมืองไทย เพราะ HR มีเรื่องที่เกี่ยวกับโลโคค่อนข้างมาก อย่าง กฎหมายภาษีอากร กฎหมายแรงงาน ระเบียบปฏิบัติเวลาทำงาน ฯลฯ พอเห็นช่องว่างนี้ เราเลยเริ่มพัฒนาซอฟแวร์ของเราเอง ตั้งแต่ปี 2006”

ผลผลิตจากการพัฒนาไม่หยุดนิ่ง คือ ระบบซอฟต์แวร์ Humatrix ของฮิวแมนิก้า ที่เน้นการทำระบบ HR & Payroll Outsourcing สำหรับบริษัทที่มีพนักงานมากกว่า 1,000 คนขึ้นไป ระบบ SaaS (Software as a Service) ระบบ ERP (Enterprise Resource Planning) เพื่อจัดการระบบภายในของบริษัท และกำลังพัฒนาต่อยอดสู่ซอฟต์แวร์ Humatrix Zen ที่ให้บริการแก่ลูกค้าเอสเอ็มที่มีพนักงานตั้งแต่ 100-1,000 คน ด้วย

“ซอฟแวร์เป็นอะไรที่ไม่มีต้นทุนในการผลิต ไม่เหมือนการผลิตสินค้าที่ต้องมีวัตถุดิบ มีเครื่องจักร ฯลฯ ปัญหาเดียวคือ คุณทำออกมาแล้วจะมีคนซื้อหรือเปล่า เหมาะสมกับเขาหรือเปล่า เพราะถ้าทำแล้วไม่มีคนซื้อก็ เจ๊ง แต่ถ้าทำออกมาแล้ว ใช่ ตอบโจทย์ได้ ก็ประสบความสำเร็จ” เขาบอกความท้าทาย

ผลจากความมุ่งมั่น และพัฒนาไม่หยุดนิ่ง ทำให้ได้ตัวซอฟแวร์ที่เขากล้าพูดว่า สู้กับซอฟแวร์ระดับโลกในไทยได้ทุกตัว และแข่งขันได้ ทั้งในเรื่องฟีเจอร์การใช้งาน ความใช้ง่าย น่าใช้ และเป็นมิตรกับผู้ใช้ ที่สำคัญทันสมัยกว่า เพราะเป็นการสร้างบนเทคโนโลยีที่ใหม่กว่า

ของดีไม่ต้องพูดเอง แต่วัดได้จากการตอบรับของลูกค้า โดยปัจจุบันพวกเขามีลูกค้าซึ่งเป็นบริษัทขนาดใหญ่ให้ดูแลกว่า 100 องค์กร มีมนุษย์เงินเดือน ที่อยู่ในความดูแลหลักแสนราย เป็นผู้ให้บริการด้าน HR Solution ที่ใหญ่ที่สุดในไทย โดยมีเป้าหมายที่จะดูแลมนุษย์เงินเดือนหลักล้านคนได้ภายใน 3 ปี ขณะที่ลูกค้าเอสเอ็มอีซึ่งเป็นตลาดใหม่ ก็คาดหวังว่าจะมีไม่ต่ำกว่า 1 หมื่นราย จากจุดขาย ใช้ง่าย ใช้ดี ทันสมัย และไม่แพง ที่สำคัญดีกว่าทำเองเป็นไหนๆ

“องค์กรใหญ่อาจใช้เวลา 3-9 เดือน ในการทำระบบ แต่บริษัทขนาดเล็ก ใช้เวลาแค่ 1-3 ชม.หรือ 2-3 วันก็ใช้ได้แล้ว ตัวเลขหมื่นรายไม่ยากเลย เรามองเป็นเหมือนไฟลามทุ่ง เพราะทุกบริษัทต้องมี HR กับระบบบัญชีเงินเดือนอยู่แล้วถูกไหม ปัญหาคือคุณจะทำเอง หรือให้คนอื่นทำ ถ้าจะให้คนอื่นทำ ใครที่ทำได้ดีกว่าฮิวแมนิก้า” เขาท้าทายไว้อย่างนั้น

ขณะปัจจุบันยังขยายธุรกิจไปในหลายประเทศ โดยจับมือกับบริษัทที่ปรึกษาโลโค ตั้งธุรกิจที่ สิงคโปร์ มาเลเซีย และญี่ปุ่น เป้าหมายต่อไป คือ เวียดนาม ออสเตรเลีย อินโดนีเซีย ฟิลิปปินส์ ฮ่องกง จีน และไต้หวัน ถึงวันนั้นพวกเขาจะครองเอเชีย

“ในเอเชียมีคู่แข่งไม่เยอะ นับนิ้วได้ ระดับโลกก็มีแค่นับนิ้วได้ แม้บริษัทระดับโลกถ้าจะเข้ามาแข่งกับเรา เขาก็ต้องเริ่มต้นพัฒนาซอฟแวร์ให้เหมาะกับประเทศต่างๆ เช่นกัน เพราะทุกอย่างต้อง ‘โลโคไลซ์’ ฉะนั้นแทนที่จะมาทำเอง เขาจับมือกับเราง่ายกว่าไหม ผมมองโอกาสนั้นนะ ไม่ใช่มาแข่ง แต่มาจับมือร่วมกันทำ”

ก็ถ้าพวกเขาคุมเอเชียได้ ในวันนั้นก็ไม่ต้องกลัวใครอีกแล้ว

“แผนปีหน้าเราจะเข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ MAI และตั้งเป้าเป็นบริษัท HR Solution ที่ใหญ่ที่สุดในเอเชีย ส่วนแผนระยะกลาง เราต้องการครองประเทศไทย แล้วปกป้องเอเชียจากชาติตะวันตก เราไม่เชื่อว่า อเมริกา หรือยุโรปจะทำได้ดีกว่า ไม่เชื่อว่าซอฟแวร์เขาจะดีกว่าเรา ไม่เชื่อว่าฝรั่งผมทองจะทำได้ดีกว่าคนไทย ผมต้องการพิสูจน์”

จากผลงานที่ทุกคนนิยามว่า “ความสำเร็จ” แต่เขากลับบอกว่า นี่แค่การเริ่มต้นเท่านั้น ถ้าเปรียบกับเครื่องบิน ก็แค่กำลังจะ “เทคออฟ” เพราะยังมีอะไรให้ทำอีกมาก และตลาดโลกก็ยังมีโอกาสอีกมหาศาลสำหรับพวกเขา

“ทุกบริษัทมีโอกาสเป็นลูกค้าเรา ถ้าเขามีพนักงาน เราจะไม่แข่งกับคู่แข่ง เราจะแข่งกับคนที่มีโอกาสเป็นลูกค้า ว่าคุณจะทำเอง หรือให้มืออาชีพอย่างเราทำให้”

แล้วอะไรคือหัวใจแห่งความสำเร็จ คนทำวิเคราะห์ให้ฟังว่า มาจากการมี “นวัตกรรม” ใช้เทคโนโลยีนำทางธุรกิจ มีความแข็งแกร่งทางด้านการเงิน ขณะที่กลยุทธ์หลักในการขับเคลื่อนองค์กร ก็ใช้ “ความแตกต่าง” เป็นตัวนำ

“ถ้าไปดูทฤษฎีตะวันตก เขาบอกว่า ธุรกิจรับจ้างบริหาร(Outsourcing) กลยุทธ์หลักคือต้องโฟกัสที่การลดต้นทุน การทำให้ราคาถูก ทำทุกอย่างให้ถูก แล้วเสนอสิ่งที่ถูก แต่พวกเราไม่เห็นด้วย เราเริ่มต้นด้วยการสร้างความแตกต่าง เพิ่มคุณค่าให้กับลูกค้า เพื่อทำให้ลูกค้าที่ใช้บริการ มีประสบการณ์ “wow factor” คือ โอ้โห! มีอย่างนี้ด้วยเหรอ ทำอย่างนี้ได้ด้วยหรือ นี่เป็นสิ่งที่เราได้ยินจากลูกค้า ก็รู้สึกภูมิใจและดีใจทุกครั้ง มันตอกย้ำว่า เรามาถูกทางแล้ว”

ปัจจุบัน ฮิวแมนิก้า มีพนักงาน 270 คน รายได้ในปีนี้อยู่ที่ประมาณ 250 ล้านบาท ส่วนปีหน้าตั้งเป้าที่ 400 ล้านบาท และปี 2017 จะไปสู่ 500 ล้านบาท เป็นบริษัทที่ได้รางวัลการันตีมากมาย ล่าสุดกับรางวัล Bai Po Business Awards by Sasin จากความโดดเด่นในมิติองค์กรที่มีการสร้างสรรค์นวัตกรรม การบริหารจัดการด้านสินค้าและบริการที่สร้างความพึงพอใจให้กับลูกค้า และมิติการบริหารจัดการด้านการเงิน

หนึ่งในหัวใจของความสำเร็จ เขายกให้เรื่อง “คน” ที่มีเป้าหมายในการทำงาน โดยไม่ใช่ทำเพื่อเงินอย่างเดียว แต่เพื่อทำสิ่งที่ยิ่งใหญ่กว่าตัวเอง ขณะที่ฮิวแมนิก้า ก็เน้นรับ “คนที่ใช่” ผู้มีความฝัน และแพสชั่นแบบเดียวกับพวกเขา

“ผมพูดเสมอว่า คน ไม่ใช่ทรัพยากรที่สำคัญที่สุด “คนที่ใช่” ต่างหากเป็นทรัพยากรที่สำคัญที่สุดของเรา”

เขาทิ้งท้ายความเชื่อไว้เช่นนั้น

...................................................

Key to success
สูตรพิชิตชัย ฉบับ ฮิวแมนิก้า


๐ ใช้เทคโนโลยี และนวัตกรรมสร้างธุรกิจ
๐ ให้บริการที่แตกต่าง ฉีกตัวเองจากตลาด
๐ เข้าใจตลาด พัฒนาบริการที่ใช่มาตอบสนอง
๐ ไม่แข่งกับคู่แข่ง แต่แข่งกับคนที่จะเป็นลูกค้าอนาคต
๐ เลือกคนที่ใช่ มีเป้าหมาย และมีแพสชั่น ร่วมงานกับองค์กร