ยังไม่ผ่าน 1,410

สรุปสภาวะตลาดสหรัฐและยุโรป (24-30 มี.ค. 2559)
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นสหรัฐและยุโรปปรับตัวขึ้น DJIA +1.2%, DAX +0.2%, CAC ฝรั่งเศส +0.5% และ FTSE +0.1% ตอบรับเชิงบวกหลังประธานเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังต่อการขึ้นอัตราดอกเบี้ย จากความกังวลต่อเศรษฐกิจโลก ทำให้บรรยากาศการลงทุนในตลาดหุ้นทั่วโลกเป็นบวก
สรุปสภาวะตลาดหุ้นจีน (24-30 มี.ค. 2559)
สัปดาห์ที่ผ่านมาตลาดหุ้นจีนปรับตัวลงเล็กน้อย 0.3% โดยปรับตัวลงก่อนในช่วงต้นสัปดาห์ นำโดยกลุ่มอสังหาฯ จากความกังวลต่อมาตรการเพื่อควบคุมราคา อาจส่งผลกระทบต่อยอดขาย อย่างไรก็ตามดัชนีพลิกมาปรับตัวขึ้นแรง หลังการส่งสัญญาณการไม่รีบขึ้นอัตราดอกเบี้ยของประธานเฟด นอกจากนี้การปรับตัวขึ้นยังนำโดยกลุ่มธนาคารและสินค้าโภคภัณฑ์ เมื่อ Bank of Communications และ China Petroleum & Chemical Corp. รายงานผลประกอบการดีกว่าที่ตลาดคาดทำให้ดัชนีลดช่วงลบลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา
สรุปความเคลื่อนไหวของตลาดหุ้นไทยสัปดาห์ที่ผ่านมา (24-31 มี.ค. 2559)
SET INDEX ปรับตัวลงสู่แนว 1,390 จุดช่วงต้นสัปดาห์ ก่อนที่จะปรับตัวขึ้นในทิศทางเดียวกับตลาดหุ้นทั่วโลกในสัปดาห์ที่ผ่านมา ด้วยกระแสเงินทุนต่างชาติที่ไหลเข้าสู่ตลาดหุ้นเอเชียเกิดใหม่ รวมถึงตลาดหุ้นไทยอย่างหนาแน่น หลังการแถลงของประธานเฟดส่งสัญญาณระมัดระวังในการขึ้นอัตราดอกเบี้ย รวมถึงกลุ่มรับเหมาก่อสร้างที่ขยับขึ้นเด่น เมื่อครม.อนุมัติโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู ทำให้ SET INDEX ปิดที่ระดับ 1,407.70 จุด ลดลง 4.46 จุด หรือ -0.32% ณ วันที่ 31 มี.ค.
สำหรับทิศทางตลาดหุ้นไทยสัปดาห์หน้า (1-7 เม.ย. 2559)
MBKET ปรับน้ำหนักการลงทุนขึ้นเป็น “กลางถึงบวก” อีกครั้ง จากสัปดาห์ก่อน “กลาง” หลังเงินทุนต่างชาติกลับมาลงทุนในตลาดเกิดใหม่อย่างหนาแน่น เมื่อประธานเฟดส่งสัญญาณการขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะเป็นไปอย่างระมัดระวัง เพราะเศรษฐกิจโลกดุมีความเสี่ยงที่มากขึ้น ส่งผลให้ทิศทางค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ กลับมาอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ เอื้อต่อการทำ US Dollar Carry Trade ในรอบสั้นนี้ เราประเมินว่า SET INDEX จะไต่ระดับขึ้นทดสอบด่าน 1,430-1,450 จุดในรอบนี้ ซึ่งจะเป็นบริเวณที่น่าสนใจขายทำกำไรเล่นรอบอีกครั้ง
กลุ่ม Domestic Play อย่างกลุ่มธนาคาร/กลุ่มรับเหมาก่อสร้าง/กลุ่มวัสดุก่อสร้าง/กลุ่มขนส่ง ดูมีความโดดเด่น เนื่องจาก
1. การเร่งผลักดันโครงการลงทุนขนาดใหญ่ของรัฐบาลอย่างต่อเนื่อง วันอังคารที่ 5 เม.ย. จะมีการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ 4 เส้นทาง หลังจากพิจารณาโครงการรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-ชมพู ในสัปดาห์นี้
2. แนวโน้มผลการดำเนินงานใน 1Q59 ของกลุ่ม Domestic Play ยังไม่น่าเกิดการปรับประมาณการลง
3. แม้ว่า SET INDEX จะซื้อขาย PER59 ที่บริเวณ 15x แต่หากเทียบกับตลาดหุ้นอินโดนีเซียที่ซื้อขาย 17x และ 18x สำหรับตลาดหุ้นฟิลิปปินส์ ถือว่าตลาดหุ้นไทยยังมี room สำหรับการขยับขึ้นได้เช่นกัน
4. เงินทุนต่างชาติมีแนวโน้มหนาแน่นต่อเนื่องในช่วงนี้ จากทิศทางค่าเงินดอลลาร์ที่ยังอ่อนค่าเทียบกับสกุลเงินหลักอื่นๆ
กลยุทธ์การลงทุน เราแนะนำ “นักลงทุนที่เก็งกำไรมาก่อนหน้านี้อาจเริ่มพิจารณาขายทำกำไรเล่นรอบบริเวณ 1,430-1,450 จุด” แต่หากจะเข้าเก็งกำไรรอบสั้นเราเน้นกลุ่มธนาคาร/รับเหมาก่อสร้าง/วัสดุก่อสร้าง
ปัจจัยสำคัญอื่นๆ ในสัปดาห์หน้า ได้แก่
1. ติดตามการประชุม ครม. วันที่ 5 เม.ย. คาดจะมีการพิจารณาโครงการรถไฟรางคู่ 4 เส้นทาง
2. ติดตามการทยอยประมาณการงบการเงิน 1Q59 ของกลุ่มธนาคาร
3. ติดตามตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ ได้แก่ ดัชนี PMI ภาคการผลิต-บริการ ของจีน/รายงาน Tankan ของญี่ปุ่น/อัตราการว่างงาน และ ดัชนี PMI ภาคการผลิต-บริการ ของอียู/ดัชนี PMI ภาคการผลิต-บริการ ของอังกฤษ