SYNTEC - ซื้อเก็งกำไร

SYNTEC - ซื้อเก็งกำไร

รายงานกำไรไตรมาส 1 เติบโต 16%QoQ และ 134%YoY

ประเด็นสำคัญในการลงทุน : 

รายงานกำไรไตรมาส 1 ที่ 230 ล้านบาท เติบโตทั้งรายปีและรายไตรมาส : กำไรได้รับแรงหนุนจากเงินโอนกลับค่าเผื่อหนี้สงสัยจะสูญและเงินค่าชดเชยจากลูกหนี้ราว 78 ล้านบาท หากไม่รวมรายการดังกล่าวจะมีกำไรปกติเพียง 152 ล้านบาท ลดลง 23%QoQ แต่เพิ่มขึ้น 55%YoY โดยอัตรากำไรขั้นต้นปรับตัวขึ้นจาก 11.64% สู่ระดับ 17.55% เนื่องจากค่าใช้จ่ายในการเก็บงานต่ำกว่าที่ประเมินไว้ในการก่อสร้างอาคารสำนักงาน ด้านรายได้จากการก่อสร้างปรับตัวลงราว 13%QoQ สู่ระดับ 1,688 ล้านบาท เนื่องจากเป็นช่วงใกล้ส่งมอบทำให้การก่อสร้างล่าช้ากว่างานก่อสร้างช่วงกลาง อย่างไรก็ตามรายได้จากการให้บริการห้องพักปรับตัวเพิ่มขึ้น 24%QoQ สู่ระดับ 46 ล้านบาท จากรับรู้รายได้จากเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์ที่ศรีราชาเต็มไตรมาสช่วยหนุนรายได้เพิ่มเติม

ปรับเพิ่มประมาณการปี 2559 ขึ้น 6% จากอัตรากำไรขั้นต้นที่สูงขึ้นและได้รับเงินชดเชย : ฝ่ายวิจัยปรับเพิ่มประมาณการกำไรปี 2559 จาก 488 ล้านบาทสู่ระดับ 520 ล้านบาท เนื่องจากอัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 1 สูงถึง 17% แต่คาดว่าจะอ่อนตัวลงในช่วงที่เหลือของปีนี้ โดยคาดว่าอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ยปี 2559 จะอยู่ที่ 13-14% ซึ่งสูงกว่าที่เราคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ที่ 12-13% นอกจากนี้ยังมีรายได้จากการโอนกลับหนี้สงสัยจะสูญและค่าชดเชยอีกราว 78 ล้านบาท เพิ่มเข้ามาซึ่งยังไม่ได้รวมในประมาณการ อย่างไรก็ตามในไตรมาส 2/59 คาดว่ารายได้จะอ่อนตัวลงเพราะมีโครงการก่อสร้างใหม่ที่เริ่มเข้ามาและมีโครงการใกล้แล้วเสร็จอีก 3-4 โครงการอีกทั้งมีวันทำงานน้อยกว่าไตรมาสที่ผ่านมา ด้านอัตรากำไรขั้นต้นมีแนวโน้มอ่อนตัวลงเนื่องจากงานที่ใกล้แล้วเสร็จเป็นงานก่อสร้างคอนโดมิเนียมซึ่งจะมีค่าเผื่อในการแก้ไขงานต่ำกว่างานก่อสร้างอาคารสำนักงาน

ขยายไปยังธุรกิจที่สร้างรายได้ประจำเพิ่มขึ้น : บริษัทมองว่าการพึ่งพิงรายได้จากการก่อสร้างอาคารและคอนโดมิเนียมมีความไม่แน่นอน จึงลงทุนในโครงการเอท ทองหล่อ เรสซิเด้นท์ ประกอบด้วยห้องพักจำนวน 137 ห้องและพื้นที่ให้เช่าประมาณ 5,000 ตารางเมตรเพิ่มเติม จากในปัจจุบันเป็นเจ้าของเซอร์วิส อพาร์ตเมนต์โครงการ Natural Ville ถนนหลังสวนและ Citadines Sriracha ซึ่งมีห้องพักรวม 303 ห้อง เพื่อสร้างรายได้ประจำเพิ่มขึ้น

คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร” ปรับเพิ่มราคาเหมาะสม 3.64 บาท : กำไรสุทธิในปี 2559 มีแนวโน้มลดลงเนื่องจากไม่มีสิทธิประโยชน์ทางภาษีทำให้กำไรปรับตัวลง จึงแนะนำเพียง “ซื้อเก็งกำไร” ประเมินมูลค่าด้วยวิธี PE ratio อิง Prospective PE ที่ 10 เท่าและรวมมูลค่าแฝงจากสินทรัพย์อีก 0.44 บาทต่อหุ้น (ที่ดินย่านรามอินทราและหลักทรัพย์ BEM) ทำให้ได้ราคาเหมาะสมปี 2559 เพิ่มขึ้นจาก 3.48 บาทต่อหุ้น เป็น 3.64 บาทต่อหุ้น