13ปีไทยแอร์เอเชีย จาก 'ทักษิณ-ธรรศพลฐ์' สู่มือ 'วิชัย'

13ปีไทยแอร์เอเชีย จาก 'ทักษิณ-ธรรศพลฐ์' สู่มือ 'วิชัย'

13 ปีไทยแอร์เอเชีย จาก "ทักษิณ-ธรรศพลฐ์" สู่มือ "วิชัย คิงเพาวเวอร์"

วันนี้มีการแถลงข่าวใหญ่ในแวดวงธุรกิจ คือการปิดดีลเทคโอเวอร์ ไทยแอร์เอเชีย โดยธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ขายหุ้นให้ วิชัย ศรีวัฒนประภา เจ้าของอาณาจักรคิงเพาเวอร์ และเจ้าของทีมเลสเตอร์ซิตี้ หลังจากที่ ”ธรรศพลฐ์” ถือหุ้นและบริหารมานานประมาณกว่า 10ปี  ก่อนไปติดตามรายละเอียดการแถลงข่าว เราไปติดตามรายงานเส้นทาง 13 ปี ของไทยแอร์เอเชีย ที่มีจุดกำเนิดมาจากอดีตนายกรัฐมนตรี ทักษิณ ชินวัตร

ไทยแอร์เอเชีย กับสโลแกน “ใคร ใคร ก็บินได้” คือผู้เปลี่ยนเกมธุรกิจการบินในไทยในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา  เพราะเป็นสายการบินที่บริหารโดยเน้นใช้ต้นทุนต่ำที่สุด เพื่อนำไปสู่การคิดราคาตั๋วถูกที่สุด ในยุคที่โลว์คอสต์แอร์ไลน์ คุมน่านฟ้าการบินของโลก จนทำให้การนั่งเครื่องบินเป็นเรื่องง่าย คุ้มค่าที่จะจ่ายเมื่อเทียบกับการประหยัดเวลาเดินทาง

ย้อนหลังเมื่อ 13 ปีที่แล้ว ไทยแอร์เอเชีย เริ่มเข้ามาบุกตลาดในไทย ด้วยพลังของ ”ทักษิณ ชินวัตร” ในยุคที่เขาเป็นนายกรัฐมนตรี ช่วงปี 2544-2548  ที่ “ชิน คอร์ปอเรชั่น” ที่ “ทักษิณ” ก่อตั้งขึ้น เริ่มขยายอาณาจักรจากธุรกิจสื่อสาร ไปสู่ธุรกิจอื่น ๆ ทั้งการเงิน สื่อ และการบิน

ปี 2546 2 ปี หลังจากทักษิณเป็นนายกรัฐมนตรี ได้เคลียร์ข้อกฎหมายให้ต่างชาติเข้ามาถือหุ้นในธุรกิจบินในไทยเพิ่มขึ้น จนเป็นที่มาของกลุ่มชินหุ้นกับแอร์เอเชีย มาเลเซีย ตั้งไทยแอร์เอเชียในไทย โดย “ธรรศพลฐ์  (ทัศพล) แบเลเว็ลด์” เคยร่วมงานกับ “โทนี่ เฟอร์นันเดส” ซีอีโอ และผู้ก่อตั้งแอร์เอเชีย มาเลเซีย เมื่อครั้งที่เขาทำงานที่ค่ายเพลงวอร์เนอร์มิวสิค “โทนี่” ชวนให้มาร่วมงาน และถือหุ้น 1% ในไทยแอร์เอเชีย เพื่อคานสัดส่วนหุ้นกับชินคอร์ปที่ถือ 50% และแอร์เอเชียมาเลเซียถือ 49%

แม้เที่ยวบินปฐมฤกษ์ ที่บินจากกรุงเทพไปเชียงใหม่ หลังเทคออฟจากดอนเมืองได้ไม่นาน ยังไม่พ้นเขตจังหวัดปทุมธานี ต้องยูเทิร์นกลับมาลงดอนเมือง เพราะระบบล้อมีปัญหา แต่ก็ไม่ได้ทำให้ไทยแอร์เอเชียขลุกขลัก แต่ตรงกันข้ามตลอด 13 ปีที่ผ่านมา ไทยแอร์เอเชียเติบโตอย่างต่อเนื่อง โดยจุดเริ่มต้นแคมเปญขายตั๋วบิน 9 บาท ที่สั่นสะเทือนวงการบิน

การเติบโตนี้น่าจะทำให้ชินคอร์ปยินดี แต่เมื่อทักษิณ ขายหุ้นชินคอร์ปให้เทมาเส็ก สิงคโปร์ ทำให้สัดส่วนหุ้นต่างชาติในไทยแอร์เอเชีย ทั้งทางตรงและทางอ้อมเกินที่กฎหมายกำหนด ที่ห้ามต่างชาติถือเกิน 50% เวลานั้น “ธรรศพลฐ์”  ที่นั่งเป็นผู้บริหารไทยแอร์เอเชียอยู่แล้ว ลุกขึ้นมาประกาศรวมกลุ่มกับเพื่อนซื้อหุ้นที่ชินคอร์ปถืออยู่ ท่ามกลางเสียงถามว่าเขาคือ ”นอมินี” หรือเปล่า แต่คำตอบจาก “ธรรศพลฐ์”ที่ชัดเจนคือไม่ใช่  ขณะเดียวกันเขาและกลุ่มเพื่อนธุรกิจมีภาระหนี้ที่กู้มาซื้อหุ้นนี้ถึง 980 ล้านบาท

13 ปี ที่ไทยแอร์เอเชียอยู่ในมือของ “ธรรศพลฐ์”  จากวันแรกที่ไม่มีลูกค้า จนสามารถครองส่วนแบ่งตลาดสูงสุดกว่า 28% เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2555  และมีอัตราเติบโตธุรกิจเฉลี่ยปีละ 20%  จากเครื่องบิน 2 ลำ จนมีเครื่องบินกว่า 50 ลำ รายได้ปี 2558 ทะลุ 3 หมื่นล้านบาท กำไรกว่า 1 พันล้านบาท นี่คือที่ “ธรรศพลฐ์” บอกว่าถึงจุดสูงสุด และถึงเวลาขายหุ้น 39% จากที่ตัวเองถืออยู่ 44% ให้กลุ่มทุนใหญ่ “วิชัย ศรีวัฒนประภา” ที่ยอมจ่ายให้เกือบ 8 พันล้านบาท

นี่คือ 13 ปีของเส้นทางของไทยแอร์เอเชีย จากนักธุรกิจการเมือง ทักษิณ ชินวัตร มาสู่มือของ ”ธรรศพลฐ์” อดีตลูกจ้างที่กลายเป็นเจ้าของ จนมาอยู่ในมือของผู้มากด้วยคอนเนคชั่น เจ้าของอาณาจักรคิงเพาเวอร์ และเจ้าของทีมบอลแชมป์พรีเมียร์ลีก อังกฤษ เลสเตอร์ ซิตี้ อย่าง “วิชัย ศรีวัฒนประภา” นี่คือจุดเปลี่ยน ที่เมื่อมีจังหวะใครมองเห็นโอกาส ก็ย่อมไม่ปล่อยให้หลุดมือ