เผยค่าใช้จ่ายครัวเรือนไทยอยู่ที่ 19,279 บาท/เดือน

นางอภิรดี ตันตราภรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ กล่าวว่า ค่าใช้จ่ายในการอุปโภคและบริโภคต่อครัวเรือนของไทยในเดือนพฤษภาคม 2559 มีมูลค่า 19,279 บาท ต่อเดือน ซึ่งประมาณร้อยละ 63.62 เป็นการจับจ่ายซื้อสินค้าที่ไม่ใช่อาหารและเครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ ขณะที่ร้อยละ 36.38 เป็นค่าใช้จ่ายสำหรับอาหารและเครื่องดื่มที่ไม่มีแอลกอฮอล์

ทั้งนี้ หากพิจารณาดูรายละเอียดของค่าใช้จ่ายแต่ละประเภทแล้ว พบว่า พฤติกรรมการใช้จ่ายของครัวเรือนประมาณร้อยละ 63.62 เป็นค่าอุปโภค โดย 2 ใน 3 หรือร้อยละ 46.81 ของค่าใช้จ่ายอุปโภคเกี่ยวข้องกับบ้าน (ค่าเช่าบ้าน วัสดุก่อสร้าง และเครื่องใช้ภายในบ้าน) ค่าไฟฟ้าและก๊าซหุงต้ม รองลงมาร้อยละ 22.75 เป็นค่าโดยสารสาธารณะ ค่าซื้อยานพาหนะ ค่าน้ำมันเชื้อเพลิง และค่าบริการโทรศัพท์มือถือ ถัดไปเป็นค่ารักษาพยาบาล (6.45%) ค่าหนังสือ ค่าเล่าเรียน และค่าสันทนาการ (5.86%) ค่าเครื่องนุ่งห่ม (2.99%) บุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ (1.50%) ตามลำดับ

ในส่วนของค่าใช้จ่ายสำหรับการบริโภคพบว่า ครอบครัวไทยยังบริโภคอาหารภายในบ้านมากกว่าคิดเป็นร้อยละ 9.76 ขณะที่ค่าใช้จ่ายในการบริโภคอาหารนอกบ้านคิดเป็นร้อยละ 5.85 รวมทั้งจะเลือกซื้อเนื้อสัตว์ร้อยละ 6.94 ผักและผลไม้ร้อยละ 5.13 ข้าว แป้ง และผลิตภัณฑ์จากแป้งร้อยละ 3.37 ทั้งนี้ ค่าใช้จ่ายสำหรับการซื้อไข่และผลิตภัณฑ์นมคิดเป็นร้อยละ 1.74 ใกล้เคียงกับค่าบุหรี่และเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ซึ่งคิดเป็นร้อยละ 1.50

นางอภิรดี กล่าวอีกว่า แม้ว่ามาตรการดูแลค่าครองชีพของประชาชนเกี่ยวข้องกับการควบคุมดูแลสินค้าและบริการของหลายหน่วยงาน ในส่วนของกระทรวงพาณิชย์ได้ให้ความสำคัญอย่างยิ่งที่จะดูแลค่าครองชีพให้เหมาะสมกับสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ และกำกับดูแลราคาที่เป็นธรรมสะท้อนถึงต้นทุนแท้จริงให้มากที่สุด รวมทั้งได้นำเสนอทางเลือกสำหรับผู้บริโภคที่มีรายได้ต่างกันผ่านการรณรงค์โครงการ “ฉลาดซื้อ ประหยัดใช้” การจัดมหกรรมลดค่าครองชีพร่วมกับภาคเอกชนทั้งในกรุงเทพฯ และจังหวัดต่างๆ ทั่วประเทศเป็นประจำตามเทศกาล โครงการ“หนูณิชย์ พาชิม”แนะนำร้านอาหารปรุงสำเร็จ ในราคาย่อมเยา 25-35 ต่อจาน/ถุง จำนวนกว่า 1 หมื่นแห่งทั่วประเทศ และกำลังจะขยายจำนวนร้านอาหารหนูณิชย์ฯ ไปยังพื้นที่โรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มเติมด้วย อีกทั้งกระทรวงพาณิชย์ได้พัฒนาเครือข่ายร้านค้าส่งค้าปลีกท้องถิ่นทั่วประเทศให้จำหน่ายสินค้าอุปโภคบริโภคในราคาถูกกว่าท้องตลาดเป็นประจำทุกวัน