'เธียรสุรัตน์' แตกไลน์ธุรกิจสู่สินเชื่อส่วนบุคคล

"เธียรสุรัตน์"แตกไลน์ธุรกิจสู่สินเชื่อส่วนบุคคล ตั้งเป้าลูกค้าปีแรก 300-400 ราย จับมือพันมิตรจากลาว ตั้งบริษัทร่วมทุนลุยธุรกิจเครื่องกรองน้ำ
นายวิรัช วงศ์นิรันดร์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท เธียรสุรัตน์ จำกัด (มหาชน) TSR กล่าวว่า บริษัทได้จัดตั้ง บริษัท เธียรสุรัตน์ ลีสซิ่ง จำกัด ทุนจดทะเบียน 50 ล้านบาท จำนวน 10 ล้านหุ้น ราคาหุ้นละ 5 บาท เพื่อทำธุรกิจสินเชื่อส่วนบุคคล ประเภทสินเชื่อรายย่อย Micro Finance และ Nano Finance , สินเชื่อส่วนบุคคล , สินเชื่อประเภทลีสซิ่ง และเช่าซื้อ , สินเชื่อทะเบียนรถ, กู้ยืมเงินโดยวิธีรับจำนองอสังหาริมทรัพย์ หรือรับซื้ออสังหาริมทรัพย์โดยวิธีขายฝาก และรับซื้อเอกสารทางการเงิน
ขณะนี้ อยู่ระหว่างยื่นขออนุมัติใบอนุญาตกับธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) คาดว่าจะได้รับอนุมัติภายใน 2 เดือน และจะเริ่มให้บริการในไตรมาส 4 ปีแรก ตั้งเป้าหมายให้บริการลูกค้าประมาณ 300-400 ราย เฉลี่ยรายละ 20,000-30,000 บาท คิดเป็นวงเงินประมาณ 12 ล้านบาท ทั้งนี้จะเน้นลูกค้าจากฐานลูกค้าที่ซื้อผลิตภัณฑ์ของบริษัทก่อน ซึ่งมีประมาณ 400,000 ราย
"การเพิ่มธุรกิจใหม่จะมาช่วยเสริมความแข็งแกร่งขายรายได้ในอนาคต โดยบริษัทมองเห็นโอกาสจากฐานลูกค้าที่มีจำนวนมาก และระบบการขายผ่านทางโทรศัพท์ รวมถึงระบบการติดตามหนี้ที่มีศักยภาพทำให้มีความพร้อมในธุรกิจการให้สินเชื่อมากพอสมควร”
บริษัทได้ร่วมมือกับกลุ่ม JB TRADING ซึ่งเป็นธุรกิจซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคและลิสซิ่งใน สปป.ลาว จัดตั้งบริษัทร่วมทุน ชื่อบริษัท ทีเอสอาร์ ลาว จำกัด ที่มีทุนจดทะเบียน 17.4 ล้านบาท บริษัทถือหุ้น 49% และกลุ่ม JB ถือหุ้น 51% คาดจะสามารถจัดตั้งบริษัทแล้วเสร็จ ก.ย. ปีนี้ และนำเครื่องกรองน้ำดื่มวางขายในตลาดได้ภายในเดือน ต.ค. นี้ ตั้งเป้ายอดขายปีนี้จาก สปป.ลาว30 ล้านบาท
“คาดหวังสัดส่วนรายได้จากต่างประเทศภายในปี 2561 จะเพิ่มเป็น 5% ของรายได้รวม นอกจากนี้ บริษัทยังศึกษาการเข้าไปทำตลาดในประเทศเวียดนาม คาดว่าจะชัดเจนในไตรมาส 4 ปีนี้ และกำลังศึกษาตลาดประเทศอินโดนีเซีย เพราะเป็นตลาดที่มีศักยภาพ ด้วยจำนวนประชากรที่มีมากถึง 300 ล้านคน ซึ่งก็เริ่มมีคู่แข่งเข้าไปเริ่มทำตลาด แต่เชื่อว่าบริษัทมีศักยภาพดีกว่าในด้านผลิตภัณฑ์และบริการหลังการขาย”
บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปีนี้อยู่ที่ 2,000 ล้านบาท เพิ่มขึ้นจากปีก่อนที่มีรายได้ 1,645.75 ล้านบาท โดยมาจากการขยายสาขาเพิ่มขึ้นจาก 14 สาขาในสิ้นปี 58 เป็น 21 สาขาในสิ้นปีนี้ ซึ่งปัจจุบันเริ่มขยาย