ทิสโก้ชี้ลูกค้าไม่ผ่านเกณฑ์สินเชื่อ

 ทิสโก้ชี้ลูกค้าไม่ผ่านเกณฑ์สินเชื่อ

ทิสโก้ชี้ดีลเลอร์กระหน่ำลดเงินดาวน์ล่อลูกค้าซื้อรถใหม่ ทำให้ลูกค้าไม่ผ่านเกณฑ์สินเชื่อ แนะลูกค้าเพิ่มเงินดาวน์-หาคนค้ำเพิ่ม

 มองรถคันแรกเริ่มทะยอยผ่อนหมดเดือนก.ย.ยังไม่ช่วยกระตุ้นยอดขายรถใหม่หรือสินเชื่อเช่าซื้อมากนัก เหตุลูกค้าระมัดระวังและชะลอซื้อรถใหม่ รับสินเชื่อหย่อนเป้า แต่น้นคุมคุณภาพหนี้

     นายรุ่งโรจน์ จรัสวิจิตรกุล ผู้ช่วยกรรมการผู้จัดการใหญ่ ธนาคารทิสโก้ เปิดเผยว่า ภาพรวมการขยายสินเชื่อเช่าซื้อในช่วงครึ่งปีแรกยังสอดคล้องกับยอดขายรถยนต์ใหม่  โดยในช่วง7เดือนที่ผ่านมายอดขายรถยนต์ใหม่เติบโตได้ตามประมาณการทั้งปีนี้ที่ตั้งไว้ว่าจะมียอดขายโดยรวม7.2แสนคัน โดยยอดขายต่อเดือนอยู่ที่ราว6หมื่นคัน หรือมียอดขายรถใหม่ช่วง7เดือน4.2แสนคันแล้วซึ่งแนวโน้มช่วงเดือนส.ค.-พ.ยอาจจะชะลอตัวลงบ้างแต่เดือนธ.ค.ที่มีงานมอเตอร์เอ็กซ์โปน่าจะทำให้ยอดขายทั้งปีน่าจะเป็นไปตามคาดไว้

    ในส่วนของทิสโก้ตั้งเป้าหมายที่จะมีส่วนแบ่งตลาด9%ของยอดขายรถใหม่ หรือประมาณ 5.4 พันคันต่อเดือน แต่ช่วง6เดือนที่ผ่านมายังปล่อยสินเชื่อได้ต่ำกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้เล็กน้อย โดยปล่อยได้ประมาณ5พันคันต่อเดือนทำให้ยอดรวมสินเชื่อเช่าซื้อลดลงจาก1.52แสนล้านบาทมาอยู่ที่1.45แสนล้านบาท เนื่องจากมียอดชำระคืนเดือนละ5,000ล้านบาทแต่สินเชื่อปล่อยใหม่ได้เดือนละ4,500ล้านบาทต่อเดือน ทำให้พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อลดลงเฉลี่ยเดือนละ500ล้านบาท

       “ช่วงที่เหลือของปียอดขายรถน่าจะทำได้ตามที่คาดไว้แต่ยอดสินเชื่อมีแนวโน้มว่ายังลดลง ซึ่งธนาคารจะให้ความสำคัญกับคุณภาพสินเชื่อเป็นหลัก”

         เขากล่าวว่าคุณภาพลูกหนี้มีแนวโน้มที่อ่อนตัวลงกว่าช่วงที่ผ่านมา โดยคุณสมบัติลูกค้าไม่ครบตามเกณฑ์ปัจจัยหลักมาจากรายได้ต่อค่างวดยังไม่มากพอ โดยธนาคารกำหนดว่าค่างวดที่ลูกค้าต้องผ่อนต้องไม่เกิน50%ของรายได้ เช่นรายได้20,000บาทค่างวดต่อเดือนไม่ควรเกิน10,000บาท ทำให้ยอดการอนุมัติของธนาคารปรับลดลง โดยในขณะนี้ธนาคารมียอดอนุมัติอยู่ที่80%ของยอดคำขอที่เข้ามา ส่วนที่เหลือนั้นหากลูกค้าสามารถปรับปรุงคุณสมบัติก็อาจได้รับการอนุมัติสินเชื่อ

    เช่นลูกค้าที่ไม่ใช่กลุ่มมนุษย์เงินเดือนธนาคารต้องเข้าไปตรวจสอบยอดขาย หรือปรับเงินดาวน์ของลูกค้าให้สูงขึ้น เนื่องจากที่ผ่านมายอดขายที่ลดลงทำให้ดีลเลอร์กระตุ้นยอดขายด้วยการเสนอเงินดาวน์ตำ่กว่าปกติให้กับกลุ่มลูกค้าที่ไม่มีกำลังซื้อมากพอ เช่นดาวน์10-15% หรือบางรายให้ดาวน์ต่ำถึง5%ก็มี ดังนั้นเมื่อมีใบสมัครยื่นเข้ามาคุณสมบัติไม่ผ่านธนาคารก็ต้องปฏิเสธสินเชื่อทันที โดยกลุ่มนี้ธนาคารจะให้ลูกค้าดาวน์เพิ่มเป็น25%  วิธีนี้จะช่วยลดเงินค่างวดต่อเดือนให้ลูกค้าต่ำลงด้วย หากลูกค้ายอมธนาคารก็สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ได้

     อย่างไรก็ตามในช่วงครึ่งปีหลังเหมือนว่าลูกค้าที่มีคุณสมบัติครบจะระมัดระวังการซื้อรถใหม่และยังไม่แน่ใจรายได้ในอนาคตจึงยังไม่ตัดสินใจซื้อรถใหม่ แต่ความต้องการที่มีเข้ามาในเวลานี้ส่วนใหญ่เกิดจากแรงกระตุ้นของโปรโมชั่นที่จูงใจ ดังนั้นธนาคารจะขอให้ลูกค้าเพิ่มเงินดาวน์เป็น20-25% หรือหาดยังไม่แน่ใจในความสม่ำเสมอของรายได้ก็ให้ลูกค้าหาคนค้ำประกันมาเพิ่ม ซึ่งกลุ่มนี้เป็นกลุ่มี่หากปรับปรุงเงื่อนไขได้ธนาคารก็อนุมัติสินเชื่อให้ได้ 

      เขายังกล่าวว่า ธนาคารยังไม่มีแผนที่จะปรับเป้าหมายสินเชื่อลงแม้ยอดปล่อยสินเชื่อใหม่ยังอ่อนกว่าเป้าหมายเล็กน้อย เนื่องจากต้องการควบคุมคุณภาพสินเชื่อ โดยหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้หรือเอ็นพีแอลสินเชื่อเช่าซื้อเริ่มนิ่งและปรับลดลงโดยล่าสุดอยู่ที่3.20%จากสิ้นปีก่อนที่3.4-3.5%

       นอกจากนี้แม้สินเชื่อจะไม่เติบโตแต่ในแง่ของรายได้ยังเติบโตได้ดีจากต้นทุนการเงินที่ลดลงขณะที่พอร์ตสินเชื่อเช่าซื้อมีดอกเบี้ยคงที่ เมื่อต้นทุนลดลงทำให้รายได้ของธนาคารปรับตัวดีขึ้นแม้พอร์ตสินเชื่อจะลดลงก็ตาม

      เขากล่าวอีกว่าแม้จะมีการคาดการณ์ว่าลูกค้าที่เข้าโครงการรถคันแรกจะเริ่มทะยอยครบกำหนดการผ่อนชำระค่างวด ในเดือนก.ย.ที่จะถึงนี้ แต่ธนาคารมองว่าจะไม่ส่งผลบวกต่อยอดสินเชื่อเช่าซื้อมากนัก เนื่องจากลูกค้าครบกำหนดยังมีไม่มากนัก ขณะที่ลูกค้าที่มีคุณภาพดียังระมัดระวังการซื้อรถใหม่และคาดว่าจะใช้รถคันเดิมต่อไปอีกระยะหนึ่ง

“ปี2553ที่เริ่มโครงการรถคันแรก มีระยะเวลาแค่ 3 เดือน ยอดขายรถในปีนั้นอยู่ที่8แสนคัน ปีถัดมา มียอดขายเพิ่มขึ้นเป็น 1.4 ล้านคัน และปี2555อยู่ที่1.3ล้านคัน  ดังนั้นในปีนี้ที่ลูกค้ารถคันแรกเริ่มครบกำหนดผ่อนรถมีไม่มากนักและยังไม่น่าเปลี่ยนรถใหม่เพราะลูกค้าเองยังระมัดระวังึ่อนข้างมาก”