ลีสซิ่งกสิกรฯสบช่อง สินเชื่อรถโตต่อ อัดแคมเปญดึงลูกค้าตจว.

ลีสซิ่งกสิกรฯสบช่อง สินเชื่อรถโตต่อ อัดแคมเปญดึงลูกค้าตจว.

"ลีสซิ่งกสิกร" เตรียมรุกตลาดหัวเมืองออกแคมเปญหนุนต่อเนื่อง พร้อมรุกสินเชื่อรถช่วยได้ หลังตลาดยังดี-หนี้เสียต่ำ

นายทวี ธีระสุนทรวงศ์ ประธานกรรมการบริหาร บริษัท ลีสซิ่งกสิกรไทย จำกัด เผยผลประกอบการ 6 เดือนแรกปีนี้ว่า บริษัทสามารถปล่อยสินเชื่อได้ 41,152 ล้านบาท เติบโตจากปีที่แล้ว 35.31% แบ่งเป็นสินเชื่อใหม่เช่าซื้อและลีสซิ่ง 18,069 ล้านบาท เติบโต 18.31 % และสินเชื่อผู้แทนจำหน่ายรถยนต์ (Floor plan) 23,082 ล้านบาท เติบโต 52.45% ทำให้มียอดสินเชื่อคงค้าง (Outstanding Loan) รวม 89,346 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.50% ทั้งนี้บริษัทมีเอ็นพีแอล 1.54% ดีกว่าเป้าหมาย 0.36% ส่งผลให้มีกำไรครึ่งปีแรก 2559 อยู่ที่ 335 ล้านบาท จากเป้าทั้งปีที่คาดมีกำไร 682 ล้านบาท

ช่วงครึ่งหลังปีนี้ ลีสซิ่งกสิกรไทย ยังคงรุกตลาดสินเชื่อเช่าซื้อรถด้วยแคมเปญการตลาดที่หลากหลาย และในทุกกลุ่มลูกค้า โดยเฉพาะตลาดต่างจังหวัดที่เป็นหัวเมืองหลัก และเน้นทำตลาดสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทยมากขึ้น เพราะเป็นตลาดที่ยังมีศักยภาพขยายตัวได้ มีคุณภาพหนี้ที่ดี 

ล่าสุดได้เปิดตัวแคมเปญ “สินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย แจกหนัก แจกจริง” แจกรถอีซูซุ 4  คัน และคูปองเติมน้ำมัน 100 รางวัล มูลค่ารวมกว่า 2.6 ล้านบาท เพียงลูกค้ามีรถยนต์ปลอดภาระ และต้องการเงินทุนหมุนเวียน สมัครใช้บริการสินเชื่อรถช่วยได้กสิกรไทย และผ่านการอนุมัติสินเชื่อ มีสิทธิ์ลุ้นรับรถกระบะตั้งแต่วันนี้-30 พ.ย.2559 โดยจับรางวัลตั้งแต่ก.ย.-ธ.ค.นี้  สมัครได้ที่ธนาคารกสิกรไทยทุกสาขาทั่วประเทศ หรือทาง KLeasing on Mobile Application 

ส่วนภาพรวมธุรกิจสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มีทิศทางฟื้นตัวขึ้นจากจุดต่ำสุดตั้งแต่กลางปี 2558 ที่ผ่านมา โดยช่วงที่เหลือของปีนี้ มีโอกาสปรับตัวดีขึ้นเล็กน้อย 0.5-2% จากปัจจัยหลักคือ ยอดขายรถยนต์ที่มีโอกาสขยับขึ้นจากช่วงครึ่งปีแรก สถานการณ์ยึดรถที่ลดลง การชำระคืนสินเชื่อเดิมที่อยู่ในระดับค่อนข้างสูง รวมถึงทิศทางดอกเบี้ยที่ยังคงทรงตัวในระดับต่ำในปีนี้ 

ส่วนตลาดรถแลกเงินในระบบธนาคารพาณิชย์ปีนี้ ยังขยายตัวได้ 12-14% ใกล้เคียงกับปี 2558 ที่ 5.1-5.3 หมื่นล้านบาท ขณะที่อัตราเอ็นพีแอลของสินเชื่อรถแลกเงินมีระดับต่ำกว่าสินเชื่อเช่าซื้อโดยทั่วไป และยังมีทิศทางปรับตัวที่ดีขึ้น

ส่วนสินเชื่อเช่าซื้อรถยนต์มือสองปีนี้ คาดฟื้นตัวต่อเนื่องจากครึ่งหลังของปีก่อน จากราคารถมือสองที่ปรับตัวดีขึ้น หลังจากที่มีทิศทางถดถอยลงอย่างต่อเนื่องในช่วงปี 2556-2557 ทำให้ผู้ประกอบการเต็นท์รถมีความมั่นใจที่จะกลับมาสต็อกรถอีกครั้ง เช่นเดียวกับสถาบันการเงินที่มีความเชื่อมั่นในการปล่อยสินเชื่อเงินทุนหมุนเวียน (Floor Plan) ให้กับธุรกิจเต็นท์รถ 

ขณะที่การปรับโครงสร้างภาษีสรรพสามิตที่มีผลตั้งแต่ต้นปี มีส่วนทำให้ราคาของรถใหม่ และรถมือสองบางรุ่น มีความแตกต่างกันมากขึ้น ประกอบกับอำนาจซื้อรถยนต์ใหม่ของผู้บริโภคยังถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ 

นอกจากนี้ ความต้องการรถมือสอง ยังได้รับแรงหนุนจากการที่ผู้ประกอบการรถมือสองหลายราย รวมตัวกันสร้างมาตรฐานด้วยการรับประกันคุณภาพสินค้า เพื่อสร้างความเชื่อถือต่อผู้บริโภค ขณะที่ความเสี่ยงของสินเชื่อรถมือสองลดลง หลังจากราคาหยุดไถลลง มีผลให้ผู้ให้บริการสินเชื่อเช่าซื้อ หันมาทำตลาดรถมือสองเพิ่มขึ้น เพื่อทดแทนความต้องการซื้อรถยนต์ใหม่ ที่ยังไม่มีสัญญาณฟื้นตัวติดต่อกันเป็นปีที่ 3 (2557-2559) ด้วยการเพิ่มวงเงินจัดสินเชื่อในรถบางรุ่น ส่วนตลาดรถจักรยานยนต์บิ๊กไบค์ มีแนวโน้มขยายตัวต่อไม่น้อยกว่า 30% และในปี 2560 คาดตลาดรถบิ๊กไบค์จะขยายตัวได้