บล.กสิกรไทยรุกเทรดตลาดต่างประเทศชูค่าคอมต่ำสุด
บล.กสิกรไทย เผยผลตอบรับเทรดต่างประเทศดีเกินเป้า เน้นกลยุทธ์ค่าคอมมิชชั่นต่ำเพียง 0.20% ซื้อขายอัตราแลกเปลี่ยนต่ำกว่าตลาด เล็งขยายตลาดเพิ่ม
นายสุทธิสิทธิ์ แจ่มดี รองกรรมการผู้จัดการ ฝ่ายพัฒนาผลิตภัณฑ์ธุรกิจหลักทรัพย์ บล.กสิกรไทย เปิดเผยว่า บริษัทเน้นขยายผลิตภัณฑ์ให้นักลงทุนซื้อขายตลาดหุ้นในต่างประเทศมากขึ้น ที่ผ่านมามีการตอบรับที่ดี มีนักลงทุนเข้ามาเปิดบัญชีกับบริษัทถึง 200 บัญชี สูงกว่าเป้าที่ 100 บัญชี มูลค่ารวมกว่า 200-300 ล้านบาท
“การเปิดให้ลูกค้าซื้อขายหุ้นในต่างประเทศได้รับการตอบรับที่ดีเกินคาด ทั้งที่ยังไม่ได้ใช่ช่องทางการเชื่อมต่อกับลูกค้าธนาคารกสิกรไทยมากนัก เพราะบริษัทให้โปรโมชั่นที่ดีดึงดูดความสนใจของลูกค้าได้ ซึ่งในอนาคตจะมีการเชื่อมต่อกับลูกค้าของแบงก์มากขึ้น”
สาเหตุที่ทำให้บริษัทเน้นการให้บริการซื้อขายตลาดหุ้นต่างประเทศมากขึ้น เกิดจากหุ้นไทยอาจใกล้เต็มมูลค่า ดังนั้นการกระจายความเสี่ยงลงทุนในต่างประเทศ ช่วยป้องกันความผันผวนดีกว่าการลงทุนเฉพาะในไทย
สำหรับโปรโมชั่นดึงดูดลูกค้า บริษัทใช้กลยุทธ์ค่าคอมมิชชั่นต่ำสุดในอุตสาหกรรมที่ 0.20% ต่อรายการ จากอุตสาหกรรม 0.30-0.35% ไม่มีกำหนดราคาขั้นต่ำต่อการส่งคำสั่งซื้อขาย
บริษัทมีแผนขยายตลาดที่เปิดให้นักลงทุนซื้อขายได้มากขึ้น จากปัจจุบันที่ ซื้อขายได้ 31 ประเทศ ครบคลุม 41 ตลาดหุ้น และ 22 สกุลเงิน โดยขยายไปกลุ่มประเทศใหม่ในเอเชีย โดยเฉพาะเวียดนาม ปัจจุบันตลาดที่นักลงทุนให้ความนิยม คือ ตลาดหุ้นสหรัฐ ญี่ปุ่น และฮ่องกง
นายกวี ชูกิจเกษม รองกรรมการผู้จัดการ บล.กสิกรไทย กล่าวว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยปี 2560 เชื่อเงินทุนต่างชาติจะไหลเข้าได้มากกว่า 1 แสนล้านบาท เพราะการเลือกตั้งมีการกำหนดเวลาชัดเจน ซึ่งดึงดูดให้เม็ดเงินกองทุนบำนาญต่างประเทศ และกองทุนที่มีนโยบายการลงทุนในประทเศที่เป็นประชาธิปไตยให้ความสนใจตลาดหุ้นไทยอีกครั้ง และดอกเบี้ยนโยบายของสหรัฐ ส่งผลบวกกับเงินทุนจะไหลออกจากตลาดตราสารหนี้มาตลาดหุ้นมากขึ้น
ตลาดหุ้นไทยปีนี้ มีโอกาสปรับฐานค่อนข้างสูง โดยเพราะดัชนีที่เหมาะสมจากปัจจัยพื้นฐานอยู่ที่ 1,530 จุด และปี 2560 ดัชนีอยู่ที่ 1,650 จุด ช่วงที่เหลือของปีนี้ ตลาดหุ้นไทยปรับตัวขึ้นได้จากเม็ดเงินแอลทีเอฟ ที่เข้ามาสนับสนุนตลาดทุนช่วง 2 เดือนสุดท้ายของปี