แนะหุ้น 'แบงก์เล็ก-แบงก์เน้นสินเชื่อบุคคล'

ฝ่ายวิจัย บล.เมย์แบงก์ กิมเอ็ง(ประเทศไทย) ระบุว่า ปัจจัยสำคัญสัปดาห์นี้ ให้น้ำหนักกับประมาณการผลการดำเนินงานไตรมาส3 ปี2559 ของกลุ่มธนาคาร ซึ่งเชื่อว่าธนาคารขนาดเล็ก และธนาคารที่เน้นกลุ่มผู้บริโภค (Consumer Loans) จะมีผลการดำเนินงานเติบโตโดดเด่น โดยเฉพาะธนาคารกรุงไทย, ไทยพาณิชย์ และทิสโก้ ที่ไตรมาส 3 ปีที่แล้ว มีแรงกดดันจากหนี้เสีย สหวิริยาสตีลอินดัสตรี (SSI) ขณะที่ธนาคารกสิกรไทย และทหารไทย ฐานลูกค้าธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) ยังคงเป็นที่น่าจับตามองว่าเอ็นพีแอลจะชะลอตัวลงหรือไม่

ฝ่ายวิจัย บล.เอเซียพลัส ระบุว่า ปัจจัยแวดล้อมกลุ่มแบงก์เป็นบวกมากขึ้น การแผ่วตัวของสินเชื่อเดือน ส.ค.2559 ไม่ได้ผิดไปจากความคาดหมาย สำคัญคือแนวโน้มการเติบโตจากนี้ที่เริ่มเห็นความชัดเจนของการลงทุนของประเทศที่จะทยอยเกิดขึ้น ภาพรวมคุณภาพสินทรัพย์ที่เข้าใกล้จุดต่ำสุดแล้ว

ธนาคารพาณิชย์ทั้ง 9 แห่งที่ฝ่ายวิจัยศึกษา (ขาดธนาคารกรุงไทย) นำส่งรายงาน ธ.พ.1.1 ประจำเดือน ส.ค.59 โดยมียอดสินเชื่อสุทธิ (หลังหักค่าเผื่อหนี้ฯ) คงค้างรวม 8.05 ล้านล้านบาท เติบโตแผ่วตัวมากเพียง 0.3% จากเดือนที่แล้ว และ 3.4% จากงวดเดียวกันปีก่อน ภาพรวมสินเชื่อรายใหญ่เป็นไปในทิศทางที่ค่อนข้างทรงตัวจากเดือนก่อนหน้า แม้จะเห็นการเติบโตของสินเชื่อใหม่ๆ แต่ก็ถูกหักล้างไปด้วยการชำระคืนในระดับที่ใกล้เคียงกัน โดยที่ยังไม่เห็นสินเชื่อระยะยาวเพื่อการลงทุนเกิดขึ้นชัดเจนเท่าใดนัก ส่วนสินเชื่อธุรกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SME) และรายย่อยค่อนข้างทรงตัวเช่นกันในเดือน ส.ค.59 ยกเว้นสินเชื่อเพื่อที่อยู่อาศัยกลับมาเติบโตสูงขึ้น

ฝ่ายวิจัยได้ปรับมุมมองภาพรวมธุรกิจของกลุ่มธนาคารเป็นบวกขึ้นในช่วงที่ผ่านมา สอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของเศรษฐกิจที่เห็นแรงขับเคลื่อนจากการลงทุนภาครัฐที่ทยอยเปิดประมูลมากขึ้นในช่วงครึ่งหลังปี 2559 กว่า 3 แสนล้านบาทและในปี 2560 สำหรับโครงการก่อสร้างสุวรรณภูมิเฟส 2 อีกราว 1 แสนล้านบาท ส่วนโครงการอื่นๆตามแผนลงทุนเร่งด่วน 20 โครงการของกระทรวงคมนาคม จะทยอยเกิดขึ้นในช่วงที่เหลือของปี ต่อเนื่องไปถึงปี 2560 เช่นกัน ซึ่งจะเริ่มเห็นเม็ดเงินการลงทุนของโครงการต่างๆ เข้ามาในปี 2560 ราว 1.5 แสนล้านบาท สำหรับระยะเวลาการลงทุนที่ประเมินไว้รวม 3 ปี

แนวโน้มผลการดำเนินงานงวดไตรมาส3 ปี2559 คาดว่าจะทรงตัวได้หรือเติบโตเล็กน้อยจากงวดไตรมาส 2 ปี 2559 โดยคาดสินเชื่อสุทธิจะเห็นการเติบโตที่สูงขึ้นเมื่อย่างเข้าสู่ช่วงฤดูกาล รวมถึงสินเชื่อรายย่อย ขณะที่คาดส่วนต่างอัตราดอกเบี้ย (NIM) ยังทรงตัวได้ ผลบวกของต้นทุนดอกเบี้ยจ่ายที่ยังลดลงได้อีกบ้าง ขณะที่แนวโน้มค่าใช้จ่ายสำรองหนี้ฯ มีโอกาสปรับตัวลดลงได้ต่อเนื่อง สอดคล้องกับภาพรวมคุณภาพสินทรัพย์ที่เริ่มเห็นสัญญาณบวกขึ้น อีกทั้ง ธ.พ.ส่วนใหญ่ได้กันสำรองหนี้ฯ อย่างเข้มงวดไปมากแล้วตั้งแต่งวดไตรมาส1 ปี2559 

ฝ่ายวิจัย บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุว่า แนวโน้มกำไรธนาคารทหารไทย (TMB) ไตรมาส 3 คาดว่าจะยังหดตัว 20% จากงวดเดียวกันปีก่อน แต่ฟื้น 5% จากไตรมาสที่แล้ว เพราะน่าจะตั้งสำรองลดลงจาก ไตรมาส 2 ที่มีการขายและตัดจำหน่ายหนี้เอ็นพีแอล มากกว่าปกติ แต่ภาพรวมของการตั้งสำรองยังสูงอยู่เพราะธนาคารมีแผนตัดจำหน่ายหนี้เอ็นพีแอลต่อเนื่อง แม้แนวโน้มกำไรครึ่งหลังปี 2559 จะดีกว่าครึ่งปีแรก เพราะบริหารส่วนต่างอัตราดอกเบี้ยได้ดี และต้นทุนเงินฝากลดลง แต่ฝ่ายวิจัยปรับกำไรปีนี้ลง 12% เป็น -6% จากปีที่แล้ว และลดกำไรปี 2560 ลง 15% เป็น +8% จากปีก่อนหน้า เพราะภาระการตั้งสำรองที่ยังสูง