วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน

วิเคราะห์สถานการณ์ราคาน้ำมัน  

หน่วยวิเคราะห์สถานการณ์พลังงาน บมจ.ไทยออยล์

ราคาน้ำมันดิบปรับลดต่อเนื่อง หลัง API เผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐเพิ่มมากกว่าคาด

- ราคาน้ำมันดิบปรับลดลงต่อ หลัง API เปิดเผยปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ ปรับเพิ่มขึ้นมากกว่าตัวเลขคาดการณ์โดยรอยเตอร์ถึง 9 เท่า

 - สถาบันปิโตรเลียมด้านพลังงานของสหรัฐ (API) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังของสหรัฐ รายสัปดาห์สิ้นสุด ณ วันที่ 28 ต.ค. ปรับตัวเพิ่มขึ้น 9.3 ล้านบาร์เรล ซึ่งมากกว่าการคาดการณ์ของสำนักงานรอยเตอร์ที่คาดว่าปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ จะปรับเพิ่มขึ้น 1 ล้านบาร์เรล อย่างไรก็ดี ตลาดยังคงจับตามองการรายงานปริมาณน้ำมันดิบของสหรัฐ จากสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) ที่จะประกาศในวันนี้

- กลุ่มประเทศผลิตน้ำมันดิบเพื่อการส่งออก (โอเปค) อาจไม่เต็มใจ และไม่สามารถลดกำลังการผลิตน้ำมันดิบตามแผนได้ ทำให้ตลาดมองว่าการประชุมกลุ่มโอเปคที่กรุงเวียนนา ในวันที่ 30 พ.ย. อาจไม่สามารถหาข้อสรุปได้

+/- สมาชิกในกลุ่มโอเปคได้ออกเอกสารอย่างเป็นทางการสำหรับการอนุมัติให้ผ่านร่างยุทธศาสตร์ระยะยาวในวันจันทร์ที่ผ่านมา ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณถึงการบริหารจัดการปริมาณการผลิตน้ำมันดิบของกลุ่ม อย่างไรก็ดี รายงานดังกล่าวไม่หนักแน่นพอที่จะทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นได้

+ ราคาน้ำมันดิบปรับขึ้นในช่วงแรกของการซื้อขาย เนื่องจากค่าเงินดอลลาร์สหรัฐ เทียบตะกร้าสกุลเงินอื่น อ่อนค่าลง ทำให้นักลงทุนที่ถือเงินสกุลอื่นมองว่าราคาน้ำมันดิบถูกลง

ราคาน้ำมันเบนซิน ปรับเพิ่มขึ้นสวนทางกับราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากราคาน้ำมันเบนซินปรับตามราคาน้ำมันเบนซินสหรัฐ (RBOB) หลังท่อขนส่งน้ำมันเบนซินของ Colonial ในภาคตะวันออกของสหรัฐ เกิดระเบิดและไฟไหม้ ส่งผลให้อุปทานลดลง อย่างก็ดี อุปทานในภูมิภาคเอเชียเหนือมีแนวโน้มปรับเพิ่มขึ้นหลังโรงกลั่นกลับมาดำเนินการหลังจากปิดซ่อมบำรุง

ราคาน้ำมันดีเซล ปรับตัวลดลงน้อยกว่าราคาน้ำมันดิบดูไบ เนื่องจากอุปทานมีแนวโน้มลดลง หลังโรงกลั่นจีนปรับลดสัดส่วนการผลิตน้ำมันดีเซล และกลับมาผลิตน้ำมันเบนซินมากขึ้น หลังส่วนต่างราคาน้ำมันเบนซินและน้ำมันดิบดูไบอยู่ในระดับสูง ทั้งนี้ราคาน้ำมันดีเซลได้รับแรงกดดัน หลังราคายังไม่คุ้มที่จะส่งออกจากภูมิภาคเอเชียไปยุโรปได้

ไทยออยล์คาดการณ์ราคาน้ำมันดิบในสัปดาห์นี้                        

 ราคาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัสเคลื่อนไหวในกรอบ 46-51 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

 ราคาน้ำมันดิบเบรนท์เคลื่อนไหวในกรอบ 48-53 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

"ปัจจัยที่น่าจับตามอง

-ปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ มีแนวโน้มปรับลดลงต่อเนื่อง หลังโรงกลั่นน้ำมันดิบกลับมาจากการปิดซ่อมบำรุงและปริมาณการนำเข้าน้ำมันดิบของสหรัฐ คาดว่าจะยังคงอยู่ในระดับต่ำ โดยสำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานสหรัฐ (EIA) รายงานปริมาณน้ำมันดิบคงคลังสหรัฐ สิ้นสุด ณ วันที่ 21 ต.ค. ปรับตัวลดลง 0.5 ล้านบาร์เรล สวนทางกับที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ว่าจะปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.7 ล้านบาร์เรลต่อวัน

-จับตาการประชุมธนาคารกลางสหรัฐ ในวันที่ 1 – 2 พ.ย. นี้ ว่าเฟดจะปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยหรือไม่ โดยตลาดคาดว่าในการประชุมครั้งนี้เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับเดิม เนื่องจากยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอนเรื่องการเลือกตั้งประธานาธิบดีของสหรัฐ ซึ่งจะจัดขึ้นในวันที่ 8 พ.ย. โดยการขึ้นอัตราดอกเบี้ยคาดจะเป็นการประชุมครั้งถัดไปในเดือน ธ.ค.

ที่มา : บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน)
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม โทร.02-797-2999