ทัวร์ศูนย์เหรียญหนีไทย ระบาดเกาหลี-ญี่ปุ่น-ยุโรป

ทัวร์ศูนย์เหรียญ ขนนักท่องเที่ยวหนีไทยเข้าเกาหลี-ญี่ปุ่น-ยุโรป หลังเจอปราบหนัก เผยทัวร์จีนยกเลิกเที่ยวบิน "แอร์เอเชีย" กว่า 6 หมื่นคน/เดือน
หลังไทยปราบปรามทัวร์ราคาต่ำกว่าทุน หรือทัวร์ศูนย์เหรียญ ส่งผลกระทบให้ตลาดจีนชะลอตัว โดยหน่วยงานภาครัฐและเอกชนประเมินว่า เป็นผลกระทบระยะสั้น ช่วงของการปรับตัว ปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้นยังส่งผลให้ทัวร์จีนบางรายหันรุกทำตลาดทัวร์ต่ำกว่าทุนในประเทศอื่นๆ แทนไทย
แหล่งข่าวจากผู้ประกอบการนำเที่ยว กล่าวว่า หลังจากรัฐบาลออกมาปราบปรามทัวร์ศูนย์เหรียญ ได้ส่งผลกระทบโดยตั้งแต่เดือน ต.ค.-พ.ย.มีบริษัททัวร์จีนได้ขอยกเลิกเที่ยวบิน กับสายการบินแอร์เอเชียแล้ว 6.4 หมื่นรายต่อเดือน ยังไม่นับสายการบิน หรือโรงแรมระดับ3-4ดาว ที่ได้รับผลกระทบจากที่เคยส่งนักท่องเที่ยวจีนเข้าพัก
จากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นส่งผลทำให้นักท่องเที่ยวจีนที่เดินทางเข้าไทยขณะนี้หายไปแล้ว 65% จากที่เคยเข้ามาเกือบ 90% เนื่องจากบริษัททัวร์กว่า200 ราย ไม่กล้าที่จะดำเนินธุรกิจต่อเพราะกลัวว่าจะถูกข้อครหาเหมือนกับบริษัทบริษัท โอเอทรานสปอร์ต จำกัด
หนีไทยจัดทัวร์ถูกเข้าปท.อื่น
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่ไทยไม่สามารถทำทัวร์ราคาต่ำกว่าทุนได้ ทำให้บริษัททัวร์หลายประเทศใช้โอกาสนี้จัดแพ็กเกจท่องเที่ยวในราคาถูก เช่น จีน-เกาหลี 5 วันราคาอยู่ที่1,700 หยวน ,จีน-ญี่ปุ่น 6 วัน ราคา 3,499หยวน ,จีน-ฝรั่งเศส-อิตาลี 12 วัน ราคา4,194 หยวน ,จีน-เยอรมัน-สวิตเซอร์แลนด์ 12 วัน ราคา 3,564 หยวน เท่ากับว่าหลายประเทศยังคงทำทัวร์ศูนย์เหรียญ จะเห็นว่านักท่องเที่ยวจีนเป็นที่ต้องการของหลายตลาดในเวลานี้
“ผมว่านับจากนี้นักท่องเที่ยวจีนก็จะเข้าไทยลดลงเรื่อยๆ ผลที่ตามมาบริษัททัวร์ โรงแรมและร้านขายสินค้าต่างได้รับผลกระทบ อยากให้การท่องเที่ยวหรือผู้มีอำนาจทำความเข้าใจเกี่ยวกับทัวร์ศูนย์เหรียญใหม่ก่อนที่ไทยจะสูญเสียนักท่องเที่ยวไป ซึ่งถือเป็นรายได้หลักที่จะเข้าประเทศในขณะนี้” แหล่งข่าวระบุ
รับตลาดจีนโตต่ำกว่าแนวโน้ม
ด้านนางกอบกาญจน์ วัฒนวรางกูร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา แถลงรายงานภาวะเศรษฐกิจท่องเที่ยวว่า กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ระบุว่าในช่วง 9 เดือนแรก ไทยมีรายได้จากต่างชาติ 1.23 ล้านล้านบาท และจากการพยากรณ์โดยใช้แบบจำลอง Stochastic simulationโดยรวมผลกระทบจากการจัดระเบียบทัวร์ศูนย์เหรียญส่งผลให้นักท่องเที่ยวจีนขยายตัวต่ำกว่าแนวโน้มเดินที่คาดการณ์ไว้
ส่งผลให้นักท่องเที่ยวต่างชาติในไตรมาสที่ 4 มีจำนวน 7.61 ล้านคน สร้างรายได้ราว 3.89 แสนล้านบาท ส่วนสถานการณ์ท่องเที่ยวภายในประเทศ คาดว่าจะมีจำนวนการเดินทาง 41.20 ล้านคน/ครั้ง และสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 2.2 แสนล้านบาท ทำให้รายได้รวมไตรมาส 4 อยู่ที่ 6.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.28%
คาดกลับสู่ปกติตรุษจีนปีหน้า
อย่างไรก็ตาม ยังประเมินว่าตลาดจีนจะกลับสู่ภาวะปกติได้ในช่วงเทศกาลตรุษจีนในปี 2560 โดยขณะนี้อยู่ระหว่างการดำเนินมาตรการแก้ไขผลกระทบ และยังมีอีกหลายมาตรการที่ยังอยู่ระหว่างการพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมเพื่อให้มีความชัดเจนมากขึ้น
ส่วนประมาณแนวโน้มนักท่องเที่ยวต่างชาติตลอดปี2559คาดว่าจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติจะมีจำนวน 32.4 ล้านคน เพิ่มขึ้น 8.37%และคาดรายได้ 1.63 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 11.66%และมีรายได้จากตลาดในประเทศ 8.6 แสนล้านบาท ขยายตัว 6.96%ส่งผลให้รายได้รวมจากการท่องเที่ยวของไทยในปีนี้จะอยู่ที่ 2.49 ล้านล้านบาท เติบโตกว่า 9.9%จากปี 2558 ทั้งนี้ การประเมินจำนวนที่ 32.4 ล้านคนดังกล่าว เป็นการปรับปรุงจากเดิมที่เคยประเมินไว้ราว 33 ล้านคน
ไตรมาส3รายได้ท่องเที่ยว4.1แสนล.
นางกอบกาญจน์ กล่าวด้วยว่า จากการสำรวจสถานการณ์ท่องเที่ยวต่างประเทศในช่วงไตรมาสที่ 3 มีนักท่องเที่ยวเข้ามาทั้งหมด 8.2 ล้านคน เพิ่มขึ้น 13.09%สร้างรายได้ราว 4.1 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 14.77%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งตลาดสำคัญของไทยอย่าง จีน ยังมีจำนวนเข้ามากว่า 2.41 ล้านคน เติบโตกว่า 14.53%เทียบกับปี 2558 และสร้างรายได้ 1.23 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.67%ส่วนตลาดยุโรป มีจำนวน 1.2 ล้านคน ขยายตัว 12.11%สร้างรายได้ 8.6 หมื่นล้านบาท เพิ่ม 15.6%และนักท่องเที่ยวอาเซียนมีจำนวน 2.2 ล้านคน เติบโต 14.63%ทำรายได้ 6.7 หมื่นล้านบาท ขยาย 18%
ส่วนตลาดคนไทยในช่วงไตรมาส 3 จะมีจำนวน 36.48 ล้านคน-ครั้ง เพิ่มขึ้น 5.55%จากช่วงเดียวกันของปีที่ผ่านมา สร้างรายได้แล้ว 2.16 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.69%
นางกอบกาญจน์ กล่าวว่า ตลอดปีนี้ยังเชื่อมั่นว่าแม้ตลาดจีนจะมีคาดการณ์ต่ำลงกว่าเป้าหมาย แต่ยังอยู่ในสถานการณ์ที่รับได้ และเชื่อว่าจะเป็นผลดีในการสร้างตลาดคุณภาพ ซึ่งไม่ได้หมายถึงการโฟกัสแต่ตลาดคนที่มีฐานะสูงเท่านั้น แต่หมายถึงการกระตุ้นให้เกิดการใช้จ่ายที่สมเหตุสมผล
โดยจากการสำรวจค่าใช้จ่ายเฉลี่ยต่อหัวของตลาดจีน ม.ค.-ก.ย. เท่ากับ 6,103.45 บาท เพิ่มขึ้น 5.51% แสดงให้เห็นว่าไทยมีโอกาสสร้างรายได้เพิ่มขึ้น
“แอตต้า”เผย10ด.ตลาดจีนยังบวก
นายเจริญ วังอนานนท์ นายกสมาคมไทยธุรกิจการท่องเที่ยว (แอตต้า) กล่าวว่า จากการเก็บสถิติล่าสุดของนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เดินทางผ่านบริษัทนำเที่ยวสมาชิกแอตต้าในช่วง 10 เดือนแรก (ม.ค.-ต.ค.) พบว่า ตลาดจีนเดินทางเข้ามาราว 2.9 ล้านคน เพิ่มขึ้น 18.5% ทำให้ตลอดปียังประเมินว่าการเดินทางผ่านทัวร์จะอยู่ที่ 3.5 ล้านคน หรือเติบโตราว 18% เมื่อเทียบกับปีก่อนทำไว้ที่ราว 3 ล้านคน
ต.ค.จีนเที่ยวผ่านทัวร์ลดแสนคน
แม้ว่าในเดือน ต.ค.จะมีผลกระทบจากการจัดระเบียบทัวร์ราคาต่ำกว่าทุนทำให้ตลาดผ่านทัวร์ลดลงไปกว่า 46.92% หรือคิดเป็นจำนวน 1.08 แสนคน
ส่วนคาดการณ์นักท่องเที่ยวจีนในภาพรวมทุกกลุ่มรวมตลาดเดินทางด้วยตัวเอง (FIT) ประเมินว่าจะได้ 9.5 ล้านคน จากนั้นในปี 2560 เมื่อสถานการณ์เข้าสู่ภาวะปกติจะมีนักท่องเที่ยวทั้งหมด 11 ล้านคน
เล็งโรดโชว์ดึงนักท่องเที่ยวจีน
ทั้งนี้ เพื่อสร้างความเข้าใจระหว่างภาคธุรกิจนำเที่ยวระหว่างไทยกับจีนมากขึ้น แอตต้ามีแนวคิดว่าภายใน 2 เดือนสุดท้ายของปีนี้จะจัดโรดโชว์นำผู้ประกอบการทัวร์ไทยเดินทางไปยังประเทศจีนอีก 1 เมือง โดยพิจารณาการเข้าไปทำตลาดซื้อ-ขายในเมืองใหญ่ทางตอนใต้ เนื่องจากสามารถเดินทางมาไทยได้สะดวกและมีเที่ยวบินเชื่อมต่อจำนวนมาก อีกทั้งเป็นกลุ่มลูกค้าหลักของธุรกิจนำเที่ยว อาทิ กวางเจา เป็นต้น พร้อมกับร่วมมือกับการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) เดินทางไปโรดโชว์ที่ฉงชิ่ง และเฉินตู เป็นต้นซึ่งขณะนี้ประเมินสถานการณ์ยอดจองล่วงหน้าเริ่มเห็นแนวโน้มกระเตื้องในทิศทางที่ดีขึ้น
โบรกฯชี้ฉุดรายได้ไทยแอร์ฯไตรมาส4
นักวิเคราะห์บล.ฟิลลิป กล่าวว่า ผลประกอบการของบริษัทเอเชีย เอวิเอชั่น จำกัด(มหาชน) AAV ซึ่งเป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ถือหุ้นใหญ่ในสายการบินไทยแอร์เอเชีย สายการบินราคาประหยัดกล่าวว่าในไตรมาส 4ปี2559 จะได้รับผลกระทบจากการคุมเข้มทัวร์ศูนย์เหรียญจากจีนชัดเจนขึ้น
โดยในไตรมาส 3 ไตรมาส 2559รายได้เฉลี่ย/ตั๋วยังคงไม่ได้ปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสที่แล้วแม้การเติบโตของผู้โดยสารจะค่อนข้างสูง เพราะในเดือน ก.ย. เริ่มมีผลกระทบจากการคุมเข้มทัวร์ศูนย์เหรียญจากจีน ทำให้มีการยกเลิกการเช่าเหมาลำ (Charter Fight) บางส่วน อีกทั้งมาตรการต่าง ๆ ของรัฐที่ออกมาเกี่ยวกับทัวร์ศูนย์เหรียญก็ทำให้ชะลอการเดินทาง เพื่อปรับรูปแบบการท่องเที่ยวให้เป็นไปตามข้อกำหนด
ทาง AAV จึงได้ออกโปรโมชั่นลดราคาตั๋ว เพื่อดึงผู้โดยสารกลุ่มอื่นมาชดเชยจีนที่ชะลอตัว การทำโปรโมชั่นจะยังใช้ในไตรมาส 4 ปี2559 ทำให้ในเดือน ต.ค. ผู้โดยสารยังคงเติบโตได้ในอัตราที่ชะลอลง และไตรมาส 4 ปี2558ยังเก็บค่า Fuel Surcharge เฉลี่ย 10 บาท/ตั๋ว คาดว่ารายได้เฉลี่ย/ตั๋วในไตรมาส 4 ปี2559ยังลดลงเทียบกับไตรมาสเดียวกันปีที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากทัวร์ศูนย์เหรียญคาดจะยังมีเข้ามาในไตรมาส 1 ปี2560แต่ก็จะค่อย ๆ ลดลง โดยจำนวนเครื่องที่เพิ่ม 6 ลำในปี 2559 และอีก 5 ลำในปี 2560 ซึ่งจะเป็นรุ่น NEOs ทั้งหมด แผนการเปิดเส้นทางบินใหม่และการเพิ่มความถี่ในอาเซียน จีน อินเดียที่มีประชากรรวมกันกว่า 2,880 ล้านคน การได้ผู้ถือใหม่จากกลุ่มคิงพาวเวอร์ ที่มีความสัมพันธ์ที่ดีกับบริษัทท่องเที่ยวในจีนและยังสามารถทำโปรโมชั่นร่วมกัน จะช่วยหนุนผู้โดยสารให้กับ AAV ได้