ห้าม!ปล่อยโคมลอย-ลูกโป่ง-พลุไฟช่วงลอยกระทง

ห้าม!ปล่อยโคมลอย-ลูกโป่ง-พลุไฟช่วงลอยกระทง

"ผอ.สุวรรณภูมิ"กำชับปชช.ห้ามปล่อยโคมลอย-ลูกโป่ง-จุดพลุไฟ-ยิงลำแสงขึ้นท้องฟ้าช่วงลอยกระทง ชี้หากทำเครื่องบินเกิดอุบัติเหตุ มีโทษประหารชีวิต

ที่สำนักงานท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายศิโรตม์ ดวงรัตน์ ผอ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ กล่าวว่า ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิตระหนักถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยโคมลอย ลูกโป่ง พลุไฟ และการยิงลำแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าในช่วงเทศกาลลอยกระทง จึงได้จัดเจ้าหน้าที่ชุมชนสัมพันธ์ลงพื้นที่แจกจ่ายแผ่นพับ 3,000 แผ่น ทำความเข้าใจและประชาสัมพันธ์ให้ประชาชนโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิทราบถึงอันตรายที่จะเกิดขึ้นจากการปล่อยสิ่งต่างๆ เหล่านี้ และบทลงโทษตามกฎหมายหากมีการฝ่าฝืน พร้อมทั้งขอความร่วมมือให้ประชาชน ร้านอาหาร โรงแรม สถานบันเทิง งดปล่อยโคมลอย ลูกโป่ง จุดพลุไฟ หรือการยิงลำแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าในช่วงเทศกาลลอยกระทงภายในรัศมี 8 กิโลเมตรโดยรอบท่าอากาศยานสุวรรณภูมิด้วย
          
นอกจากนี้ ยังได้จัดเจ้าหน้าที่ติดตาม เฝ้าระวัง ตรวจสอบการปล่อยโคมลอย ลูกโป่งในช่วงเทศกาลลอยกระทงโดยเฉพาะ หากพบซากโคมลอย หรือลูกโป่งลอยตกเข้ามาในเขตพื้นที่การบิน จะดำเนินการเร่งเก็บกู้ซากดังกล่าวทันที เพื่อไม่ให้กลายเป็นวัตถุแปลกปลอมในเขตการบิน และป้องกันไม่ให้เกิดอุบัติเหตุต่ออากาศยาน ทั้งนี้ในช่วงเทศกาลลอยกระทงปีที่ผ่านมา ไม่พบซากโคมลอยเข้ามาตกในพื้นที่เขตการบินของท่าอากาศยานสุวรรณภูมิเลยแม้แต่โคมเดียว
          
ด้านพล.ต.ต.ธนา ชูวงศ์ รองผู้บัญชาการตำรวจภูธร ภาค 1 กล่าวว่า ผู้ที่ฝ่าฝืนปล่อยโคมลอย ลูกโป่ง พลุไฟ และยิงลำแสงขึ้นสู่ท้องฟ้าจนทำให้เครื่องบินประสบอุบัติเหตุจากการกระทำดังกล่าว จะมีความผิดตาม มาตรา 18 และ 19 แห่งพ.ร.บ.ว่าด้วยความผิดบางประการต่อการเดินอากาศ พ.ศ.2558 โดยต้องระวางโทษถึงประหารชีวิต หรือจำคุกตลอดชีวิต นอกจากนี้ยังมีความผิดตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 229 ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 10,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ และมาตรา 232 ต้องระวางโทษจำคุกตั้งแต่ 6 เดือนถึง 7 ปี หรือปรับไม่เกิน 1,000-40,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ดังนั้นจึงขอให้ประชาชนทุกคนร่วมมือเรื่องดังกล่าวด้วย