ทำความรู้จัก ‘dot plot’ เข็มทิศชี้วัดดอกเบี้ยเฟด

ทำความรู้จัก ‘dot plot’ เข็มทิศชี้วัดดอกเบี้ยเฟด

ในช่วงที่ผ่านมาเราจะได้ยินคำว่า dot plot ค่อนข้างมากจากข่าวการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยของธนาคารกลางของสหรัฐฯ(FED) ซึ่ง Fed’s dot plotหรือประมาณ

 การการปรับอัตราดอกเบี้ยนโยบายของFed   คือ  แผนภาพที่แสดงถึงประมาณการอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ผู้แทน Fed คิดว่าควรจะเป็น ณ เวลาต่างๆ ในอนาคต 

dot plot ได้มาจากการสำรวจความเห็น ของผู้แทน Fed  17 คน โดย 5 คนเป็นคณะกรรมการบริหารของ Fed และอีก 12 คนเป็นผู้แทนจาก Fed ใน 12 เขต โดยมีการจัดทำและเผยแพร่รายไตรมาสพร้อมกับประมาณการเศรษฐกิจของ Fed  

    การเผยแพร่ dot plot เริ่มขึ้นในปี 2555  ซึ่งในขณะนั้นเศรษฐกิจสหรัฐฯ อยู่ในช่วงที่ยังไม่ฟื้นตัว  จำเป็นต้องรักษาดอกเบี้ยนโยบายให้อยู่ในระดับต่ำเพื่อเอื้อต่อการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ แม้ Fed จะประกาศอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 0.25%-0.50% ซึ่งเป็นระดับที่ต่ำที่สุดเป็นประวัติการณ์ แต่ตลาดคาดการณ์ว่า ในระยะต่อไป Fed จะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้หากเศรษฐกิจเริ่มฟื้นตัว 

การจัดทำและเผยแพร่ dot plot จึงเป็นเหมือนการแสดงให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องเข้าใจตรงกันว่า Fed มีความคิดเห็นเกี่ยวกับการตรึงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ในระดับต่ำแบบนี้นานเพียงใดและจะมีทิศทางอย่างไรต่อไป ซึ่งจะช่วยบรรเทาความแตกต่างของการคาดการณ์ตลาดเงินโดยรวมเกี่ยวกับการเปลี่ยนแปลงอัตราดอกเบี้ยนโยบาย

        วิธีการอ่านค่า Fed’s dot plot นั้น จุดแต่ละจุดของ dot plot เป็นการแทนความคิดเห็นของกรรมการแต่ละคน ตัวอย่างเช่น dot plot ณ วันที่ 25 ม.ค. 2555   ผู้แทน 14 คนคิดว่าควรคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 0.25% - 0.50% ในปี 2555  ในขณะที่อีก 3 คนเห็นว่าควรปรับเพิ่ม โดยค่ามัธยฐาน (median) ของความเห็นของผู้แทน  มองว่าดอกเบี้ยนโยบายอยู่ที่ 0.25% - 0.50% ในปี 2555 และ 2556 และอยู่ที่ 0.50% - 0.75% ในปี 2557 

     นอกจากนี้ พิสัย (range) ของการลงคะแนนยังเป็นสิ่งที่แสดงถึงทิศทางของความเห็นของผู้แทนในการลงคะแนนในปี 2557 มีความกว้างกว่าปี 2555  และ 2556  มาก สะท้อนว่า ณ ขณะนั้นผู้แทนมีความเห็นที่ต่างกันอย่างมากในทิศทางของเศรษฐกิจปี 2557    เป็นที่สังเกตว่า ในส่วนสุดท้ายของ dot plot ยังมีการให้ความเห็นต่อดอกเบี้ยนโยบายในระยะไกลออกไป ซึ่งประเมินถึงดอกเบี้ยที่เหมาะสมในการรักษาสมดุลของเศรษฐกิจในระยะยาว ซึ่งมีการจ้างงานเต็มที่และอัตราเงินเฟ้อเป็นไปตามเป้าหมาย 

ทั้งนี้ นอกจาก dot plot แล้ว ยังมีเครื่องมืออีกหลายชนิดด้วยกันซึ่งสามารถนำมาใช้ในการประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยนโยบายได้ เช่น อัตราดอกเบี้ยที่คาดการณ์ตามโครงสร้างอัตราดอกเบี้ย (implied forward rate) การเคลื่อนไหวของอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลระยะสั้น และอัตราผลตอบแทนที่มีการซื้อขายในตลาดซื้อขายล่วงหน้า (interest rate future) โดย interest rate future นี้มักเป็นเครื่องมือที่ถูกกล่าวถึงบ่อยที่สุด เนื่องจากสะท้อนความเห็นที่แตกต่างกันของผู้ซื้อขายได้อย่างชัดเจนว่าในปีนั้นๆ ตลาดประเมินว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายจะอยู่ที่เท่าไหร่ ในการประชุมครั้งใด ด้วยความน่าจะเป็นมากน้อยเพียงใด 

อย่างไรก็ตาม หากเปรียบเทียบกับ dot plot จะพบว่าการคาดการณ์ดอกเบี้ยในตลาด interest rate future จะมีความผันผวนกว่ามาก เนื่องจากอ่อนไหวต่อข้อมูลเศรษฐกิจที่เผยแพร่ค่อนข้างถี่ ในขณะที่ dot plot จะพิจารณาพัฒนาการของเศรษฐกิจในระยะที่ยาวกว่า    นอกจากนี้ dot plot เป็นมุมมองที่เป็นทางการของ Fed ในขณะที่ interest rate future เป็นมุมมองของนักลงทุนในตลาด   ดังนั้น จึงควรเลือกใช้ข้อมูลอย่างระมัดระวัง 

สำหรับ มุมมองต่อทิศทางอัตราดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ  ในปี 2560 นั้นจาก dot plot ณ วันที่ 21 ก.ย. 2016 เห็นได้ชัดว่า Fed มีความเห็นค่อนข้างเป็นไปในทิศทางเดียวกัน ว่าดอกเบี้ยนโยบาย ปลายปี 2560 ควรที่อยู่ระดับ 0.50% - 0.75% จึงตีความได้ว่า Fed น่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ย 1 ครั้ง ในขณะปี 2560 นั้น Fed มีความเห็น ณ ขณะนี้ว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายน่าจะอยู่ที่ระดับ 1.00% - 1.25% หรือก็คือ Fed มองว่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายไปจากสิ้นปีนี้ไปอีก 0.50%ในขณะที่ตลาดเงินก็มองดอกเบี้ยนโยบายสหรัฐฯ ในเชิงขาขึ้นเช่นกัน แต่ต่ำกว่า dot plot เล็กน้อย

 อีไอซีมองว่าแนวโน้มการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายดังกล่าวเป็นสิ่งที่สมเหตุสมผล เนื่องจากตลาดแรงงานสหรัฐฯ มีความแข็งแกร่งอย่างมากและมีอัตราการว่างงานต่ำกว่า 5% อย่างต่อเนื่อง ในขณะที่แนวโน้มเงินเฟ้อทยอยเข้าใกล้เป้าหมายที่ 2% มากขึ้น ในปี 2560 จึงน่าจะมีการปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยนโยบายอีก 0.25 – 0.50% หากเศรษฐกิจสหรัฐฯ สามารถฟื้นตัวได้อย่างต่อเนื่อง