‘แอดยิ้ม’ชี้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งบูมวางเป้าโกย‘พันล้าน’

‘แอดยิ้ม’ชี้ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งบูมวางเป้าโกย‘พันล้าน’

“แอดยิ้ม”โชว์ผลงาน 5ปี โต 1,200% ขึ้นแท่น “ดิจิทัลมาร์เก็ตติ้ง”สัญชาติไทยระดับแนวหน้า ชูบริการ “Digital Marketing Solutions” ครบวงจร

ปัจจุบันตลาด “ดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง”ในประเทศไทยมีมูลค่าสูงถึง 11,200 ล้านบาท และเติบโตเฉลี่ย 30-40% ทุกปี เนื่องจากทุกองค์กรและภาคธุรกิจมีการใช้งบประมาณทางการตลาดในช่องทางดิจิทัลมากขึ้น เพื่อสอดรับกับการปรับตัวของผู้บริโภค

นายธนพล ทรัพย์สมบูรณ์ ประธานกรรมการบริหารและผู้ก่อตั้ง “แอดยิ้ม” (Adyim) ผู้ให้บริการด้านดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง โซลูชั่นส์ ครบวงจรระดับแนวหน้าของเมืองไทย กล่าวว่าแอดยิ้มได้พัฒนาแนวทางการทำดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งอย่างต่อเนื่องตลอด 8 ปีที่ผ่านมา ด้วยการนำเอาศาสตร์ความรู้ 3 ด้าน คือ การตลาด การทำโฆษณา และเทคโนโลยี (Marketing + Advertising + Technology) มาผสมผสานสร้างสรรค์ทางเลือกใหม่ที่ตอบโจทย์ความต้องการให้กับลูกค้าในทุกประเภทของธุรกิจ

โดยให้ความสำคัญเรื่องผลลัพธ์ทางธุรกิจของลูกค้าเป็นหลัก ไม่ใช่แค่การสร้างกระแสให้ “ว้าว” อยู่บนโลกโซเชียล แต่ไม่ตอบโจทย์หรือวัตถุประสงค์ทางธุรกิจของลูกค้า จนได้รับการยอมรับจากลูกค้ามากกว่า 500 แบรนด์ชั้นนำในประเทศไทย เช่น ปตท., SCG, Sony, Nissan, Panasonic, ไทวัสดุ, Line, การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย, ไทยประกันชีวิต และธนาคารไทยพาณิชย์ เป็นต้น

“เราจะเข้าไปแก้ปัญหาหลักของธุรกิจให้กับลูกค้า ซึ่งจะแก้ในระดับ Business Level เพราะไม่ว่าจะเป็นบริษัทเล็ก หรือบริษัทใหญ่ ต่างก็มีเป้าหมายทางธุรกิจอยู่ 3 อย่าง คือ 1.กำไร 2.เติบโต 3.ยั่งยืน เราไม่ได้คิดแค่ทำแอดเวอร์ไทซิ่ง แต่เราคิดถึงเป้าหมายทั้ง 3 ด้าน เราจะมีโซลูชั่นส์ ในการตอบโจทย์ที่ลูกค้าต้องการครบทุกด้าน ผมเรียกมันว่า A – Z Digital Marketing Solution ไม่ว่าจะมีโจทย์หรือปัญหาอะไรก็ตาม เราจะมีโซลูชั่นส์ ครบทุกอย่าง ทำจบครบวงจร”

ส่วนใหญ่ โซลูชั่นส์ ของแอดยิ้ม จะเป็น In-house ทั้งหมด ทุกอย่างจึงควบคุมได้ ซึ่งเป็นอีกหนึ่งจุดแข็งที่ทำให้ไม่เหมือนใคร และอาจจะเป็นบริษัทเดียวในประเทศที่สามารถบูรณาการ 3 สิ่งที่สำคัญมาไว้ด้วยกัน คือ Advertising, Marketing และ Technology เพื่อมาประยุกต์ใช้กับการทำธุรกิจให้สร้างกำไรและเติบโตอย่างยั่งยืน

สำหรับบริการที่ครอบคลุมทุกความต้องการของลูกค้าแบบ A- Z ของแอดยิ้ม เริ่มตั้งแต่การตั้งต้นคิดวิเคราะห์ด้วยดิจิทัล รีเสิร์ช เก็บข้อมูลบนโลกออนไลน์ทั้งหมดด้วยระบบ Big Data ผนวกกับข้อมูลอื่นๆ ที่ลูกค้ามีอยู่แล้ว เช่น เว็บไซต์, โซเชียล มีเดีย, ระบบCRM รวมถึงการซื้อมีเดียที่ผ่านๆ มาของลูกค้าเอง นำมาประเมินรวมกับข้อมูลของคู่แข่ง เพื่อวางรูปแบบกลยุทธ์ออนไลน์ นำไปสู่การพัฒนาธุรกิจให้กับลูกค้า พร้อมทั้งสร้างสรรค์นำเสนอแนวทางการทำตลาดใหม่ๆ

อีกทั้งให้คำปรึกษา, ปรับปรุงและบริการออกแบบสื่อดิจิทัลของลูกค้า ทั้งเว็บไซต์, โมบายแอพพลิเคชั่น, กราฟฟิค, ผลิตเนื้อหาและผลิตวีดีโอ (Content Marketing) แนะนำการเลือกใช้ Influencer ที่เหมาะสม, ครีเอทมาร์เก็ตติ้งแคมเปญ และมีบริการดูแลช่องทางโซเชียลมีเดียให้กับลูกค้าทั้งในรูปแบบ Facebook Fanpage, Line, IG, Youtube ฯลฯ เพื่อดูแลภาพลักษณ์ของแบรนด์ให้เป็นไปในเชิงบวก และบริการซื้อสื่อดิจิทัลทุกประเภทโดยใช้เทคโนโลยีระดับโลก และทีมงานมืออาชีพ และยังเพิ่มความมั่นใจให้กับบริษัทและองค์กรขนาดใหญ่ด้วยโปรแกรมการฝึกอบรมดิจิทัล มาร์เก็ตติ้ง ให้กับลูกค้าอีกด้วย

ทั้งนี้ ผลงานการสร้างสรรค์งานของแอดยิ้มได้รับการยอมรับจากลูกค้าและองค์กรชั้นนำสามารถคว้ารางวัลสำคัญๆ มาได้หลายรายการ อาทิ รางวัลจากแคมเปญ Best Digital Campaign L’Oreal World Wide 2011 & 2013, แคมเปญ L’Oreal สนับสนุน ชมพู่-อารยา เอฮาร์เก็ต ร่วมเดินพรมแดงในงาน “Cannes Film Festival” จนเกิดกระแสในโลกออนไลน์อย่างต่อเนื่อง, การสร้าง Mobile Application เพื่องาน CRM และต่อยอดให้ธุรกิจมียอดขาย เช่น สีเบเยอร์มียอดขายมากกว่า 80 ล้านบาท ผ่าน Solution ที่บริษัทคิดขึ้นในระยะเวลาไม่ถึงปี, ระบบประมูลรถยนต์ออนไลน์ให้กับ Manheim บริษัทประมูลรถยนต์ออนไลน์ที่ใหญ่สุดในโลก ฯลฯ

ด้านผลประกอบการของแอดยิ้ม นับว่าเติบโตอย่างก้าวกระโดด โดยปรับตัวเพิ่มสูงขึ้นถึง 1,200% ในระยะ 5 ปีที่ผ่านมา โดยปี2559 รายได้อยู่ที่ 225 ล้านบาท ปีนี้ตั้งเป้าไว้ที่ตัวเลข 350 ล้านบาท และในอีก 3 ปีข้างหน้าจะทำให้ได้ถึง1,000 ล้านบาท เพื่อจะนำบริษัทฯ เข้าสู่ตลาดหลักทรัพย์ (SET)

นอกจากนี้ ในฐานะเป็นผู้เชี่ยวชาญและคร่ำหวอดในแวดวงการตลาดดิจิทัล นายธนพล ยังระบุถึงเทรนด์ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในประเทศไทย ปีนี้ว่า ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในเอเชีย ยังมีช่องทางการเติบโตอีกมากมาย โดยดูจากสถิติจำนวนประชากรควบคู่กับจำนวนผู้ใช้สมาร์ทโฟนในแต่ละประเทศ เช่น ประเทศจีนมีประชากรประมาณ 1.37 พันล้านคน มีอัตราการใช้สมาร์ทโฟน 41% ตัวเลขนี้มูลค่า Digital Marketing ของจีนอยู่ที่ 66 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ

หากเปรียบเทียบกับจำนวนประชากรในอาเซียน ทุกประเทศรวมกันจะมีประมาณ 623 ล้านคน มีอัตราการใช้ สมาร์ทโฟน อยู่ที่ 33.2% โดยในตัวเลขนี้มูลค่า Digital Marketing ในอาเซียน กลับมีมูลค่าแค่ 3.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ เท่านั้น

จะเห็นว่าจีนมีประชากรมากกว่าอาเซียนประมาณ 2.19 เท่า แต่มูลค่าตลาด Digital Marketing ในจีนกลับโตกว่าอาเซียนถึง 20 เท่า หากเทียบกับประเทศที่พัฒนาแล้วอย่างเกาหลีใต้ ที่มีประชากรเพียง 50.9 ล้านคน แต่กลับมีมูลค่าตลาด Digital Marketing สูงถึง 4.3 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ สูงกว่ามูลค่า Digital Marketing ของทุกประเทศในอาเซียน รวมกันเสียอีก

จึงเชื่อว่าในเวลาอีกไม่นานนัก ตลาดดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในอาเซียนจะเติบโตเช่นเดียวกับประเทศที่พัฒนาแล้ว และจะมีมูลค่าตลาดสูงกว่าเสียอีก โดยประเทศที่มีมูลค่าทางด้านดิจิทัลมาร์เก็ตติ้งในอาเซียนสูงสุด ได้แก่ อินโดนีเซีย, ไทย, ฟิลิปปินส์ , สิงคโปร์ และเวียดนาม ตามลำดับ