‘เอ็มเค’ ดันเจน3 เคลื่อนทัพมัลติแบรนด์ขยายตลาดไทย-ตปท.

กระแสไลฟ์สไตล์และพฤติกรรมผู้บริโภคยุคใหม่เป็นตัวแปรสำคัญต่อการขับเคลื่อนธุรกิจ โดยเฉพาะกิจการกว่า 3 ทศวรรษ เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป ยักษ์ใหญ่ด้านธุรกิจอาหารเมืองไทย กำลังเผชิญความท้าทายครั้งใหญ่ในการผลักดันแบรนด์ที่อยู่มายาวนาน เป็นร้านในใจลูกค้า โดยเฉพาะอาหารสุขภาพ การันตีจากทุกปีแบรนด์เอ็มเค กวาดรางวัลทางด้านอาหารแทบทุกเวที จะ “ส่งไม้ต่อ” ธุรกิจจากรุ่นสู่รุ่นสานการเติบโตมั่นคงและยั่งยืนอย่างไร ท่ามกลาง “โอกาสมหาศาล” ที่รอให้เก็บเกี่ยวทั้งในและต่างประเทศ

ฤทธิ์ ธีระโกเมน ประธานกรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอ็มเค เรสโตรองต์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ผู้ดำเนินธุรกิจร้านอาหารเอ็มเคสุกี้, ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ, ฮากาตะ, มิยาซากิ ฯลฯ กล่าวว่า เอ็มเค กรุ๊ป เป็น “มัลติแบรนด์ คอมปะนี” ที่มุ่งขยายอาณาจักรธุรกิจอาหารต่อเนื่่องเพื่่อสร้างการเติบโต ทั้งการลงทุนเอง พันธมิตรผ่านระบบแฟรนไชส์ และการซื้อและควบรวมกิจการ (Mergers and Acquisitions :M&A)

การซื้อและควบรวมกิจการจะทำให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างรวดเร็ว ที่ผ่านมาบริษัทเจรจาธุรกิจหลายสิบรายทั้งในและต่างประเทศแต่ยังไม่มีข้อสรุป 

"การซื้อกิจการเน้นแบรนด์ต่างประเทศทุกประเภทที่น่าสนใจ ไม่ว่าจะฟาสต์ฟู้ด กาแฟ ขนม เพราะจะได้แบรนด์และความเป็นอินเตอร์เนชั่นแนลมาต่อยอดธุรกิจ  ซึ่งอาจใช้เวลาคุยนานจนกว่าจะมั่นใจว่าได้แบรนด์ที่มีคุณภาพ เสี่ยงสูง หรือมีปัญหาต้องดูแลก็ไม่เอา" 

ทั้งนี้ ตลาดต่างประเทศไม่เพียงเป็น "โอกาส" ที่สำคัญของ เอ็มเค กรุ๊ป แต่ในฐาน "แบรนด์แห่งชาติ" หรือ "แบรนด์ของประเทศ" คือภาระหน้าที่นำพาแบรนด์ไทยขยายตลาดสร้างชื่อ 

ปัจจุบัน เอ็มเค กรุ๊ป  สร้างฐานตลาดในเวียดนาม เปิดบริการ 5 สาขา ญี่ปุ่น 32 สาขา ลาว 2 สาขา สิงคโปร์ 7 สาขา   

จะเห็นว่า โรดแมพธุรกิจที่มุ่งขยายเครือข่ายต่อเนื่องทั้งในประเทศไทยและ "นอกบ้าน"  จำเป็นต้องเตรียมพร้อมสรรพกำลังที่จะมา “รับไม้ต่อ” 

ฤทธิ์ ในฐานะผู้ร่วมก่อตั้งและกุมบังเหียนในรุ่น 2  วางแนวทางสร้าง “คนรุ่นใหม่” ทดแทนคนรุ่นเก่าที่เริ่มผันบทบาทสู่ “ที่ปรึกษาทางความคิด” มากขึ้น เรียกว่า เอ็มเค กรุ๊ป ในยุคต่อไปต้องมาจากพลังคนหนุ่มสาวเพื่อให้ธุรกิจเติบโตต่อไปอย่างมีศักยภาพ 

โดย 5 ปีที่ผ่านมา ทายาทรุ่น 3 ราว 5-6 คน ทยอยเข้ามาร่วมบริหารงานกระจายในสายงานต่างๆ ไล่ตั้งแต่ ทานตะวัน ธีระโกเมน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด สมาชิก หาญจิตต์เกษม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสาขา พิฑูรย์ มณีไพโรจน์ ผู้จัดการสถาบันฝึกอบรมเอ็มเค ธีร์ ธีระโกเมน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายสาขา  แคทลียา ธีระโกเมน ผู้จัดการฝ่ายทรัพยากรมนุษย์ วรากร หาญจิตต์เกษม ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่าย Research and Development

“คนรุ่นใหม่มาทำงานที่คนรุ่นเก่าทำอยู่ ขณะที่คนรุ่นเก่าทำหน้าที่ที่ปรึกษาทางความคิดมากขึ้น และทั้งรุ่นเก่าและรุ่นใหม่ทำงานร่วมกันระหว่างครอบครัวและมืออาชีพ คือ ทีมเวิร์คของเอ็มเค กรุ๊ป" 

ธุรกิจร้านอาหารมีความเกี่ยวเนื่องหลายส่วนทั้งด้านสาขา พนักงาน การตลาด วัตถุดิบ ดังนั้น การทำงานต้องมาจากการระดมหลายๆ สมอง

อย่างไรก็ดี แนวโน้มเศรษฐกิจและกำลังซื้อที่กำลังไต่ระดับขาขึ้น จากนี้เป็นจังหวะของการเปิดเกมรุกอีกระลอกของ เอ็มเค กรุ๊ป หลังเผชิญมรสุมเศรษฐกิจตกต่ำช่วง 3-4 ปีก่อนหน้านี้ ส่งกระทบภาคธุรกิจแทบไม่มีการเติบโต ปีที่ผ่านมา เอ็มเค กรุ๊ป กลับมา “ฟื้นตัว” เติบโต 4% มียอดขาย 15,498 ล้านบาท กำไร 2,100 ล้านบาท เติบโต 13%

ปัจจุบัน เอ็มเค กรุ๊ป มีร้านอาหารในเครือ 8 แบรนด์ ได้แก่ ร้านเอ็มเคสุกี้ ร้านเอ็มเคโกลด์ ร้านอาหารญี่ปุ่นยาโยอิ ร้านมิยาซากิ เทปปันยากิ ร้านฮาคาตะราเมน ร้านอาหารไทย ณ สยาม ร้านอาหารไทยเลอสยาม และร้านกาแฟ-เบเกอรี่ อาหารไทยสไตล์ตะวันตก เลอเพอทิท คาเฟ่ มีสาขารวมกว่า 600 แห่งทั่วประเทศไทย 

ปี 2560 จะมีการขยายสาขากว่า 40 แห่ง เป็นร้านยาโยอิ 25 สาขา เอ็มเค 15 สาขา มิยาซากิ 5 สาขา ภายใต้งบลงทุน 400-500 ล้านบาท ตั้งเป้าหมายยอดขายเติบโต 7-9% หากเอ็มเค กรุ๊ป สามารถเติบโตในอัตรานี้ต่อเนื่อง 7 ปี จะทำให้บรรลุเป้าหมายมีเครือข่ายสาขาไม่ต่ำกว่า 1,000 แห่งในเวลานั้น เป็นเชนร้านอาหารขนาดใหญ่สุดในไทย

‘เอ็มเคไลฟ์’นอกกรอบหม้อไฟ

ไลฟ์สไตล์ผู้บริโภคที่มองหาทางเลือกและประสบการณ์ใหม่เป็นที่มาของโมเดลธุรกิจใหม่ เอ็มเค ไลฟ์ (MK Live) ปรากฎการณ์ใหม่ในวงการ “หม้อไฟ” ที่ออกนอกกรอบ!!  และเป็นผลผลิตของผู้บริหารเลือดใหม่ เอ็มเค กรุ๊ป 

เอ็มเค ไลฟ์ เป็นแฟลกชิพ สโตร์ ที่จะมาสร้างประสบการณ์ใหม่ๆ ของมื้ออาหารให้ผู้บริโภค รองรับกลุ่มลูกค้าสมัยใหม่ที่ประยุกต์ไลฟ์สไตล์เข้ากับมื้ออาหาร โดยยึดเอกลักษณ์ของแบรนด์เอ็มเคเป็นหัวใจ

ทานตะวัน ธีระโกเมน ผู้ช่วยผู้อำนวยการฝ่ายการตลาด กล่าวว่า เอ็มเค ไลฟ์ ร้านสุกี้รูปแบบใหม่ เกิดขึ้นเพื่อรองรับกลุ่มวัยรุ่น คนรุ่นใหม่ วัยทำงานตอนต้น และครอบครัวผู้ชื่นชอบการลองสิ่งใหม่ๆ โดยนำความหมายของคำว่า LIVE คือความสดใหม่ ความมีชีวิตชีวา มาเป็นคอนเซปต์หลักในการรังสรรค์ส่วนต่างๆ ของร้าน อาทิ การออกแบบร้านที่นำรูปแบบเรือนกระจกของฟาร์มปลูกผักมาเป็นแรงบันดาลใจในการตกแต่ง เน้นวัสดุจากธรรมชาติในการนำมาตกแต่ง ไม่ว่าจะเป็น ไม้ ต้นไม้ หิน รวมถึงดิสเพลย์ปลูกผักไฮโดรโพนิกส์ที่ผนังร้าน

ส่วน Live Showcase หรือครัวเปิด โชว์ให้เห็นเมนูที่เชฟทำสดภายในร้าน อาทิ ลูกชิ้นปั้นสด ติ่มซำ พร้อมคัดสรรวัตถุดิบ เช่น ลอปสเตอร์จากแคนาดา หอยเชลล์ยูเอส เนื้อวากิวญี่ปุ่น เพื่อพัฒนามาเป็นเมนูเอ็กซ์คลูซีฟ

โดยภาพรวมของธุรกิจอาหารในไทยยังมีศักยภาพเติบโตและมูลค่ารวมในตลาดมีแนวโน้มขยายเพิ่มขึ้นได้อีก เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหม่ๆ เข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นทุกปี ขณะที่กลุ่มลูกค้าระดับพรีเมียมไม่ได้รับผลกระทบจากภาวะเศรษฐกิจ

กลุ่มคนรุ่นใหม่ที่ต้องการเลือกสรรอาหารที่มีคุณภาพ สอดคล้องกับไลฟ์สไตล์ที่ใส่ใจสุขภาพและเชื่อมั่นในความเป็นแบรนด์มากขึ้นที่จะมี เอ็มเค ไลฟ์ รองรับ