‘แอร์บีแอนด์บี’ต่อยอดธุรกิจทัวร์เจาะเอเชีย

‘แอร์บีแอนด์บี’ต่อยอดธุรกิจทัวร์เจาะเอเชีย

ในปีที่ผ่านมา “แอร์บีแอนด์บี” (AIRBNB) สร้างสถิติผู้เข้าพักในเครือข่ายกว่า 2 ล้านคนทั่วโลก

แม้จะยังไม่เท่ากับเชนโรงแรมใหญ่ที่สุดในโลก แต่ก็ถือเป็นอัตราเติบโตก้าวกระโดด จากวันแรกที่เริ่มต้นธุรกิจในปี 2550  

โดยช่องทางโดดเด่นในการเข้าถึงลูกค้าของ แอร์บีแอนด์บี จะใช้ “แพลตฟอร์มออนไลน์” เป็นตัวกลางเชื่อมต่อระหว่าง “นักเดินทาง” และ “เจ้าของที่พัก” แปลงบ้านพักทั่วโลก เป็นโรงแรม หัวคิดของ 3 หนุ่มอเมริกันรุ่นใหม่ ที่เริ่มต้นเปิดห้องนั่งเล่นในอพาร์ตเมนต์ของตัวเองในซานฟรานซิสโกเป็นที่พักนักเดินทาง จนสามารถขยายเครือข่ายที่พัก ในรอบ 9 ปีที่ผ่านมากว่า 6.5 หมื่นเมืองใน 191 ประเทศทั่วโลก จนถึงปัจจุบันมีจำนวนผู้เข้าพักสะสมแล้วกว่า 160 ล้านคน

ผ่านคำบอกเล่าของ โจ เกบเบีย ผู้ร่วมก่อตั้ง และประธานเจ้าหน้าที่บริหารฝ่ายผลิตภัณฑ์ แอร์บีแอนด์บี ที่เดินทางมาเยือนไทย เล่าว่า นับตั้งแต่วันแรกที่เริ่มต้นธุรกิจ เขาและทีมงานมองเห็นถึงความเป็นไปได้ในการสร้างเครือข่ายธุรกิจทั่วโลก โดยเฉพาะการเข้ามาจับ “ตลาดเอเชีย” ในฐานะที่เป็นจุดหมายการเดินทางที่มีศักยภาพระดับโลก จากความนิยมของนักท่องเที่ยวจากหลายภูมิภาค อาทิ อเมริกา, ยุโรป ที่ต้องการสัมผัสประสบการณ์ที่แตกต่างของการท่องเที่ยวและที่พัก ประกอบกับภูมิภาคเอเชีย มีความพร้อมด้านสาธาณูปโภคมากขึ้น เช่น มีสายการบินต้นทุนต่ำ มีการพัฒนาเทคโนโลยีผ่านโทรศัพท์เคลื่อนที่ ฯลฯ เหล่านี้กลายเป็น“แรงบันดาลใจ”ในการเดินทาง ทำให้การไปเยือนจุดหมายต่างๆ เป็นไปได้มากขึ้น

ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้น สะท้อนว่าเขามองไม่พลาด เนื่องจากปีที่ผ่านมาธุรกิจแอร์บีแอนด์บีในเอเชีย ถือว่า“เติบโตเร็วที่สุด” ในแง่จำนวนลูกค้ากว่า 117% ด้วยจำนวนลูกค้ารวมกว่า 10.8 ล้านคน และหากเจาะลึกเฉพาะ“ตลาดไทย” ยังพบว่า ในจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เข้ามาทั้งหมด (อินบาวด์) ในปีที่ผ่านมา ใช้บริการจองที่พักในเครือข่ายแอร์บีแอนด์บีถึง 7.74 แสนคน อัตราเติบโตกว่า 150% มีตลาดหลัก ได้แก่ จีน, อเมริกา, ฝรั่งเศส, สหราชอาณาจักร และเยอรมนี ขณะที่คนไทยที่เดินทางไปต่างประเทศ (เอาท์บาวด์) แล้วใช้บริการแอร์บีแอนด์บีมีจำนวนกว่า 3.04 แสนคน เติบโตกว่า 149%

ในด้านการสร้างผลแรงกระเพื่อมทางเศรษฐกิจ พบว่า สามารถช่วยให้เจ้าของบ้านมีรายได้เพิ่มกว่า 2,100 ดอลลาร์ต่อปี (ราว 7.3 หมื่นบาท) ขณะที่การพักเฉลี่ยอยู่ที่ 5 วัน มีจุดประสงค์ที่หลากหลายทั้งการพักผ่อนและเชิงธุรกิจ รวมถึงตลาดดาวรุ่ง เช่น การเดินทางแบบครอบครัว ที่เริ่มใช้บริการมากขึ้น โดยในไทยมีที่พักซึ่งมาจดทะเบียนในเครือข่ายกว่า 43,223 แห่ง เติบโตกว่า 93% ในปี 2559

“ที่ไหนก็แล้วแต่ ที่อยู่ในแผนที่โลก หรือกูเกิ้ลแมฟ สามารถมาขึ้นทะเบียนเป็นที่พักในเครือข่ายแอร์บีแอนด์บีได้ นี่เป็นสิ่งที่เราคิดไว้ตั้งแต่แรก หากจะตอบสนองนักเดินทางทั่วโลก เราก็จะต้องสร้างเครือข่ายไว้ทั้งหมด โดยที่ผ่านมาตลาดเอเชียยังมีช่องทางในการเจริญเติบโตได้อีกมาก”

นอกจากนั้น เพื่อเป็นการตอบสนองต่อแนวโน้มการเดินทางของนักท่องเที่ยวโลก ซึ่งในรอบ 10 ปีต่อนี้จะเห็นการเปลี่ยนผ่านจากการท่องเที่ยวแบบมวลชน (Mass Tourism) ทั่วไป สู่การท่องเที่ยวเชิงประสบการณ์ที่เป็นเอกลักษณ์ และเข้าถึงวิถีชีวิตของท้องถิ่นมากขึ้น ไม่ได้จำกัดแต่การไปเยือนแล้วถ่ายรูปแหล่งท่องเที่ยวที่เป็นแลนด์มาร์กซ้ำกับคนอื่นเท่านั้น

ในฐานะที่แอร์บีแอนด์บี มีธุรกิจดั้งเดิมเรื่องการสร้างชุมชนที่พักที่เน้นประสบการณ์ท้องถิ่นอยู่แล้ว จึงวางแผน “ต่อยอดธุรกิจสนับสนุน”ความแข็งแกร่งของที่พัก ด้วยการเปิดตัวบริการ “ทริปส์” หรือ บริการนำเที่ยวโดยผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในชุมชุนเอง ซึ่งในการเดินทางมาไทยครั้งนี้ ถือโอกาสมาเปิดตัวธุรกิจที่เริ่มให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 16 มี.ค.ที่ผ่านมา หลังจากเพิ่งแนะนำบริการนี้ครั้งแรกที่ลอสแองเจลิส สหรัฐอเมริกา ไปเมื่อเดือน พ.ย. ที่ผ่านมา

โดยมีเป้าหมายว่าตลอดปี 2560 นี้ จะขยายบริการทริปส์ ไปยัง 50 ประเทศทั่วโลก

นอกจากนั้น ยังวางเป้าหมายด้วยว่า 10% ของกิจกรรมท่องเที่ยวที่เกิดจากทริปส์ จะเป็นรายได้กลับคืนสู่สังคม เพราะจะเปิดโอกาสให้องค์กรที่ไม่แสวงหากำไร (เอ็นจีโอ) เข้าร่วมการจัดบริการนำเที่ยวเพื่อเชื่อมต่อสังคมให้มีรายได้จากการรับนักท่องเที่ยว

เกบเบีย ย้ำความเชื่อมั่นที่ว่า รูปแบบของ“เศรษฐกิจเชิงแบ่งปัน”หรือ Sharing Economy จะมีแต่การ “เติบโต”ต่อเนื่อง และในการเข้าไปในตลาดใดก็ตาม พร้อมจะทำตามกฎระเบียบที่รัฐบาลประเทศนั้นๆเห็นสมควร เพื่อเอื้อให้เกิดประโยชน์ร่วมกันให้มากที่สุด

โดยหากในอนาคตไทยจะกำหนดกฎเกณฑ์เหมือนหลายประเทศ ที่เริ่มจำกัดให้เจ้าของที่พักปล่อยเช่าต่อปีโดยกำหนดเพดานจำนวนวันเข้าพัก ก็พร้อมจะดำเนินการตาม

“ธุรกิจแนวแชริ่ง อีโคโนมี เปรียบเทียบเหมือนกับยักษ์จีนี่ในตะเกียงที่ถูกปลดปล่อยออกมาแล้ว และคงจะกลับเข้าไปอีกยาก ที่ผ่านมาแอร์บีแอนด์บีมีโอกาสทำงานร่วมกับเทศบาลและเมืองต่างๆ กว่า 200 แห่งทั่วโลก ในการหาวิธีการและกฎระเบียบต่างๆ ให้ตอบสนองต่อผู้ใช้งานโดยอยู่ในกรอบของกฎหมายของแต่ละแห่ง และเพื่อให้ประชาชนตระหนักถึงการเข้ามาใช้แพลตฟอร์มนี้ให้ได้ประโยชน์สูงสุด”

เกบเบีย ยังกล่าวถึงการที่รัฐบาลไทย กำลังปักธงนำให้อุตสาหกรรมท่องเที่ยวเป็นรายได้หลักของประเทศด้วยว่า แอร์บีแอนด์บี พร้อมจะเข้ามามีส่วนร่วมในการสนับสนุนการเติบโตดังกล่าว โดยเฉพาะเมื่อรัฐบาลประกาศให้ความสำคัญกับ“ดิจิทัล อีโคโนมี” ดังนั้น จึงมองว่าการจุดประกายให้เจ้าของกิจการหน้าใหม่ริเริ่มสร้างสรรค์ธุรกิจผ่านช่องทางออนไลน์ จะเป็นส่วนผลักดันให้เป้าหมายดังกล่าวไปได้ไกลขึ้น

ที่สำคัญคือ เนื่องจากระบบมีความเป็น“ตลาดกลาง” ที่มีลูกค้ามีสิทธิเลือกจากที่พักหลากหลาย ดังนั้นจึงมีระบบการ“รีวิว” จากชุมชนผู้เข้าพักที่เคยมีประสบการณ์เข้าพัก จะช่วยเป็นข้อมูลพื้นฐานประกอบการตัดสินใจได้ว่า ที่พักดังกล่าวน่าเชื่อถือมากน้อยอย่างไร และหากคะแนนการรีวิวจากที่พักลดต่ำลง บริษัทก็จะเข้าไปช่วยเป็นโค้ชในการแก้ไขปัญหา แต่หากถึงที่สุดยังแก้ไขไม่ได้ก็จำเป็นต้องเชิญออกจากระบบของแอร์บีแอนด์บี

ขณะที่การตรวจสอบมาตรฐานของบริการทริปส์ จะมี 5 ประเด็นในการคัดกรอง ซึ่งในช่วงแรกของการเริ่มกิจการ ก็จะเน้นการควบคุมคุณภาพในเชิงเจาะลึกเพื่อให้เป็นตัวอย่าง โดยย้ำว่า ในฐานะที่เป็นแพลตฟอร์มให้เกิดการซื้อขายที่ทำตลาดอยู่ในหลายเมือง ดังนั้น ผู้ที่เข้ามาให้บริการในแต่ละประเทศที่ต้องการขึ้นทะเบียน ก็ต้องศึกษาและปฏิบัติตามกฎหมายของแต่ละประเทศ