ไฟเขียวเพิ่มสิทธิ์ผู้ประกันตนเป็นของขวัญวันแรงงาน
ครม.เห็นชอบร่างกฎหมาย 3 ฉบับ ปรับปรุงสิทธิประโยชน์การประกันตนตามมาตรา 40 พร้อมช่วยเหลือแรงงานนอกระบบที่ไม่มีนายจ้าง เป็นของขวัญวันแรงงาน
พล.อ.ศิริชัย ดิษฐกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เห็นชอบร่างกฎหมาย 3 ฉบับ เพื่อปรับปรุงสิทธิประโยชน์การประกันตนตามมาตรา 40 ประกอบด้วย ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดคุณสมบัติการสมัครเข้าเป็นผู้ประกันตน ร่างพระราชกฤษฎีกากำหนดหลักเกณฑ์และอัตราการจ่ายเงินสมทบ ประโยชน์ทดแทน ร่างกฎกระทรวงกำหนดอัตราเงินสมทบของรัฐบาลจ่ายเข้ากองทุนประกันสังคม เพื่อช่วยเหลือแรงงานนอกระบบที่ไม่มีนายจ้าง เช่น หาบเร่ แผงลอย ผู้ขับแท็กซี่ มอเตอร์ไซค์รับจ้าง ทำงานในบ้าน ให้มีระบบประกันตนชดเชยด้านต่าง ๆ เพื่อต้องการให้เป็นของขวัญวันแรงงานวันที่ 1 พฤษภาคมนี้ ด้วยการเพิ่มสิทธิ์ประโยชน์ ได้แก่
การเพิ่มเงินทดแทนการขาดรายได้กรณีประสบอันตรายหรือเจ็บป่วย เพิ่มเป็นวันละ 300 บาท สำหรับกรณีนอนพักรักษาตัวในโรงพยาบาล ตั้งแต่วันแรกที่นอนโรงพยาบาล และกรณีไม่ได้นอนพักแต่มีใบรับรองแพทย์ให้หยุดพักรักษาตัวตั้งแต่ 3 วันขึ้นไป ได้รับเงินวันละ 200 บาท และหากใบรับรองแพทย์ให้หยุดพัก 1-2 วัน ได้รับเงินทดแทนวันละ 50 บาท แต่ไม่เกินคนละ 3 ครั้งต่อปี รวมทั้งยังเพิ่มเงินสงเคราะห์กรณีตาย 3,000 บาท เมื่อส่งเงินสมทบครบ 60 เดือน และได้รับค่าทำศพ 40,000 บาท ส่วนกรณีสงเคราะห์บุตร จ่ายคนละ 200 บาทต่อเดือน ครั้งละ 2 คน กรณีชราภาพ ได้รับเงินบำเหน็จชราภาพ หากส่งเงินสมทบ 180 เดือน นอกจากเงินสมทบของตนเองพร้อมผลตอบแทนแล้วยังได้รับเงินเพิ่มหรือเงินโบนัส 10,000 บาทต่อราย
สำหรับการจ่ายเงินสมทบให้เลือกได้ 3 ทางเลือก หากจ่ายเดือนละ 70 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบ 30 บาท ได้รับประโยชน์ทดแทน กรณีประสบอุบัติเหตุ เจ็บป่วย ทุพพลภาพ และตาย หากเลือกจ่ายสมทบเดือนละ 100 บาท รัฐบาลจ่ายสมทบ 50 บาทต่อเดือน ได้เพิ่มสิทธิ์บำเหน็จชราภาพ หากเลือกจ่ายสมทบ 300 บาท รัฐบาลสมทบ 150 บาท ได้รับสิทธิ์เพิ่มอีก รวมถึงการสงเคราะห์บุตร โดยร่างกฎหมายทั้ง 3 ฉบับคาดว่ามีผลบังคับใช้ 2-3 เดือนข้างหน้า สำหรับบุคคลต้องการสมัครเข้าเป็นสมาชิกประกันตนตามมาตรา 40 ต้องมีสัญชาติไทย อายุมากกว่า 15 ปี หรือชนกลุ่มน้อยอาศัยในประเทศไทยตามมติ ครม. ไม่เป็นผู้ประกันตนตามตรา 39 ซึ่งทำงานในบริษัทเอกชน ไม่เป็นสมาชิก กบข. รัฐวิสาหกิจ หรือกองทุนอื่นของรัฐช่วยเหลือ
รัฐบาลจึงต้องการส่งเสริมแรงงานนอกระบบมาสมัครเข้าเป็นสมาชิกผู้ประกันตนตามมาตรา 40 เพียงนำบัตรประชาชนมาสมัครที่สำนักงานประกันสังคมโดยไม่ต้องตรวจร่างกาย และยังใช้สิทธิ์รักษาบัตรทอง หากขาดเงินสมทบยังเป็นสมาชิกต่อได้ โดยรัฐบาลร่วมจ่ายสมทบผู้ประกันตนให้ด้วย ปีแรกคาดว่ามีผู้สมัครเข้าเป็นสมาชิก 3 ล้านคน เป็นภาระงบประมาณ 400 ล้านบาท จากนั้นในช่วง 20 ปีข้างหน้า ตั้งเป้าหมายดึงแรงงานนอกระบบเข้าเป็นสมาชิก 20 ล้านบาท ส่งผลต่อภาระงบประมาณ 3,000 ล้านบาทต่อปี เมื่อสมัครเป็นสมาชิกแล้วจ่ายเงินสมทบได้ตามเคาน์เตอร์เซอร์วิส บริษัทไปรษณีไทย หรือตู้เติมเงินต่างจังหวัด เพื่ออำนวยความสะดวกแรงงานนอกระบบสมัครเข้าเป็นสมาชิกเพิ่มขึ้น