‘กล่องดาวเทียม’หนีตลาดซึมหันรุกเครื่องใช้ไฟฟ้า

‘กล่องดาวเทียม’หนีตลาดซึมหันรุกเครื่องใช้ไฟฟ้า

ธุรกิจจาน-กล่องดาวเทียมดิ้นหนีธุรกิจซึม ขยายไลน์เครื่องใช้ไฟฟ้า “พีเอสไอ”ปรับตัวยุค 4.0 ปั้นแพลตฟอร์มบิซิเนส ชูเครือข่ายช่างติดตั้ง 10,000 ราย บุกตลาดแอร์-กล้องวงจรปิด ด้าน“อินโฟแซท”ชี้กล่องทีวีดิจิทัลฉุดตลาด หันลุยเครื่องรับทีวี 

การเปลี่ยนแปลงในอุตสาหกรรมสื่อโทรทัศน์ช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทั้งการออกอากาศทีวีดิจิทัลช่องใหม่และการขยายตัวของผู้ใช้อินเทอร์เน็ต ส่งผลต่อพฤติกรรมการเสพคอนเทนท์ทีวีผ่านช่องทางทีวีดาวเทียมรวมทั้งการจำหน่ายอุปกรณ์รับชมทีวีดาวเทียมให้ชะลอตัวลง 

นายวรสิทธิ์ ลีลาบูรณพงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท พีเอสไอ บรอดคาสติ้ง จำกัด ในเครือพีเอสไอ โฮลดิ้ง ผู้ผลิตและจัดจำหน่ายอุปกรณ์จานและกล่องรับสัญญาณดาวเทียม“พีเอสไอ”เปิดเผยว่าปีที่ผ่านมาตลาดจำหน่ายอุปกรณ์รับชมทีวีดาวเทียม โดยเฉพาะ“กล่องรับสัญญาณ” ชะลอตัว จากผลพวงเศรษฐกิจและกำลังซื้อยังไม่กลับสู่ภาวะปกติ สะท้อนจากยอดขายกล่องรับสัญญาณของพีเอสไอ ที่ปกติอยู่ที่ 2.5 แสนกล่องต่อเดือน ปีก่อนเฉลี่ยอยู่ที่ 2 แสนกล่องต่อเดือน  

“ปีนี้ตลาดกล่องมีแนวโน้มดีขึ้นจากปีก่อน ยอดขายของพีเอสไอ กลับมาสู่ภาวะปกติที่ 2.5 แสนกล่องต่อเดือนตั้งแต่ต้นปี”

อย่างไรก็ตามจากการทำตลาดอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมมากว่า 20 ปี ปัจจุบันครัวเรือนไทยทั่วประเทศรับชมช่องรายการทีวีผ่านโครงข่ายเคเบิลและทีวีดาวเทียมสัดส่วนราว 60-70% ถือว่าจานและกล่องดาวเทียมเป็นสินค้าที่เข้าถึงครัวเรือนไทยในอัตราสูง การทำตลาดหลังจากมุ่งไปที่การพัฒนาสินค้ากล่องรับสัญญาณเวอร์ชั่นใหม่ ระบบเอชดี เพื่อกระตุ้นให้ผู้บริโภคเปลี่ยนกล่องรุ่นเก่า(เอสดี) ที่ปัจจุบันมีสัดส่วนกว่า 80% ของตลาด  

“ตลาดกล่องทีวีดาวเทียมหลังจากนี้ คงไม่เติบโตหวือหวาเหมือนที่ผ่านมา เพราะสินค้าเข้าถึงตลาดแมสในสัดส่วนสูง ส่วนตลาดล่างมีตัวเลือกจากการใช้คูปองทีวีดิจิทัล”

ชู'แพลตฟอร์มบิซิเนส'รับ4.0

นายวรสิทธิ์ กล่าวว่ากลยุทธ์สร้างการเติบโตหลังจากนี้  ก้าวสู่"พีเอสไอ 4.0"มุ่งวิจัยและพัฒนาสินค้า ตอบโจทย์ความต้องการผู้บริโภค โดยได้ขยายไลน์ธุรกิจใหม่ ภายใต้รูปแบบ “แพลตฟอร์ม บิซิเนส” ตอบรับนโยบาย“ไทยแลนด์ 4.0”ของรัฐบาล โดยใช้จุดแข็งของพีเอสไอ ซึ่งเป็นผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมมากว่า 20 ปี ทำให้มีเครือข่ายช่างติดตั้งและซ่อมบำรุงสินค้าอิเล็คทรอนิกส์กว่า 10,000 คนทั่วประเทศ 

โดยพัฒนาแอพพลิเคชั่น รูปแบบ“แชริ่ง อีโคโนมี” เช่นเดียวกับ อูเบอร์ แอร์บีแอนด์บี ซึ่งเป็นเทรนด์ธุรกิจที่ขยายตัวทั่วโลก ทั้งนี้ พีเอสไอ ได้พัฒนาแอพ PSI FIXIT  ซึ่งเป็นแอพพลิเคชั่นเรียกช่างซ่อม ที่รวบรวมช่างมากที่สุดในประเทศไทย สามารถเลือกประเภทช่างที่ต้องการ พร้อมแสดงพิกัดและรายละเอียดข้อมูลของช่าง โดยผู้ใช้บริการสามารถแสดงความคิดเห็นและให้คะแนนความพึงพอใจการใช้บริการได้

ปัจจุบันมีช่างที่ผ่านการอบรมและให้บริการติดตั้งและซ่อมสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ในแอพ PSI FIXIT แล้วประมาณ 2,000 คนทั่วประเทศ โดยมีเป้าหมายอบรมช่างติดตั้งเครือข่ายพีเอสไอกว่า 10,000 คนทั่วประเทศเพื่อให้บริการผ่านแอพดังกล่าว  บริการดังกล่าวจะเป็นอีกแหล่งรายได้ของกลุ่มช่างติดตั้งจานและกล่องทีวีดาวเทียมเดิม 

นอกจากนี้ได้ยังเปิดตัว PSI care แอพพลิเคชั่นดูแลเก็บข้อมูลการลงทะเบียนผลิตภัณฑ์ของ PSI ทุกประเภทเริ่มตั้งแต่วันรับประกัน วันหมดประกัน และเก็บข้อมูลรายละเอียดต่างๆ สามารถลงทะเบียนผลิตภัณฑ์จากการสแกนบาร์โค้ดที่ตัวสินค้า หน้า timeline ของแอพจะแจ้งเตือนกำหนดการตรวจเช็คดูแลผลิตภัณฑ์พีเอสไอ ซึ่งเป็นแอพดูแลลูกค้าหลังการขายของพีเอสไอ 

ขยายไลน์แอร์-กล้องวงจรปิด

พร้อมกันนี้พีเอสไอ ได้ปรับตัวขยายไลน์ธุรกิจผลิตและจำหน่ายสินค้ากลุ่มอิเล็คทรอนิกส์และเครื่องใช้ไฟฟ้า ตั้งแต่ปี2559 เริ่มทำตลาด“กล้องวงจรปิด” พีเอสไอ โอซีเอส (Online Camera Security) โดยลงทุนเซิร์ฟเวอร์ขนาดใหญ่รองรับผู้ใช้งาน 1 ล้านคน สามารถติดตามความเคลื่อนไหวในพื้นที่ติดตั้งกล้องผ่านแอพ PSI OCS  การขยายไลน์สินค้าดังกล่าวสอดคล้องกับทิศทางการเติบโตของตลาดกล้องวงจรปิดในไทย

ปีนี้พีเอสไอ ได้ขยายธุรกิจเพิ่มเติมด้วยการทำตลาด"เครื่องปรับอากาศ”แบรนด์พีเอสไอ จำหน่ายผ่านตัวแทนช่างติดตั้งทั่วประเทศตั้งแต่เดือน ก.พ.ที่ผ่านมา โดยเสริมไลน์การผลิตเครื่องปรับอากาศที่โรงงานผลิตจานและกล่องดาวเทียม จ.สุพรรณบุรี 

สินค้าแอร์บ้าน พีเอสไอ มี 3 รุ่น คือ ขนาด 10,000 บีทียู ราคา 16,900 บาท ,ขนาด 13,000 บีทียู ราคา 18,500 บาท และ ขนาด 18,000 บีทียู ราคา 26,200 บาท ใช้จุดขาย 5 เช็คพอยท์ของผลิตภัณฑ์ ประหยัดไฟเบอร์5 รับประกันเครื่อง 5 ปี  ดูแลลูกค้าหลังการขายผ่านแอพ PSI care วางเป้าหมายเบื้องต้นปีนี้ 10,000 เครื่อง 

นอกจากนี้กำลังอยู่ระหว่างการวิจัยผู้บริโภคเพื่อพัฒนาผลิตภัณฑ์เครื่องใช้ไฟฟ้าหรือสินค้าอิเล็คทรอนิกส์ประเภทอื่นๆ เข้ามาทำตลาดเพิ่มเติม  

อินโฟแซท’รุกตลาดทีวี

นายนิรันดร์ ตั้งพิรุฬห์ธรรม กรรมการผู้จัดการ บริษัท อินโฟแซท อินเตอร์เทรด จำกัด ผู้ผลิตและจำหน่ายอุปกรณ์รับสัญญาณทีวีดาวเทียม “อินโฟแซท” เปิดเผยว่าหลังจากทีวีดิจิทัลเริ่มออกอากาศในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ทำให้ผู้ชมทีวีมีตัวเลือกรับชมทีวีดิจิทัล จากการใช้คูปองมูลค่า 690 บาท ที่สำนักงานกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) แจกให้ครัวเรือนไทยทั่วประเทศ เพื่อไปแลกซื้ออุปกรณ์กล่องรับสัญญาณโทรทัศน์ระบบดิจิทัลภาคพื้นดิน ประกอบกับเศรษฐกิจและกำลังซื้อชะลอตัวต่อเนื่องในช่วง 3 ปีที่ผ่านมา ส่งผลให้ตลาดกล่องดาวเทียมชะลอตัวต่อเนื่อง  

“ปีที่ผ่านมา อินโฟแซท อยู่ในภาวะพยุงตัวเอง ขณะที่ภาพรวมตลาดกล่องรับสัญญาณดาวเทียมหดตัวปีละไม่ต่ำกว่า 10%”

จากสถานการณ์ดังกล่าวบริษัทจึงปรับตัวด้วยการขยายไลน์ธุรกิจใหม่ ในกลุ่มเครื่องใช้ไฟฟ้า เริ่มทำตลาดปี 2559 ด้วยกล้องวงจรปิด ล่าสุดปีนี้เปิดตัว ทีวี แอลอีดี “อินโฟแซท”ขนาด 32 ,24 และ 17 นิ้ว มีราคาต่ำกว่าตลาดราว 20% และพัดลมไอเย็น โดยทำตลาดผ่านตัวแทนจำหน่ายกล่องดาวเทียมทั่วประเทศ

การทำตลาดทีวี เพราะเห็นโอกาสการทำตลาดในกลุ่มบ้านใหม่ ที่ต้องการติดตั้งจานและกล่องดาวเทียม พร้อมเครื่องรับทีวี รวมทั้งกล้องวงจรปิดแบบครบเซ็ต โดยตั้งเป้ายอดขายทีวีปีละ 20,000 เครื่อง   

นอกจากนี้ได้ขยายตลาดจานและกล่องดาวเทียม ในประเทศเพื่อนบ้าน ทั้ง ลาว กัมพูชา และเมียนมา ซึ่งรับสัญญาณดาวเทียมไทยคม  โดยแต่งตั้งตัวแทนขายในประเทศดังกล่าว ปัจจุบันรายได้หลักของบริษัทยังมาจากการจำหน่ายชุดอุปกรณ์รับสัญญาณดาวเทียมสัดส่วนราว 90%   ส่วนธุรกิจเครื่องใช้ไฟฟ้าปีนี้อยู่ที่ 10%