กลุ่ม TCP ตั้งเป้ายอดขาย“แสนล้าน”ใน 5 ปี
กลุ่มธุรกิจ TCP วางเป้ายอดขายเติบโต 3 เท่า มูลค่า1 แสนล้านบาทใน 5 ปี เดินหน้ายกระดับกลุ่มธุรกิจขึ้นชั้น “บริษัทไทยที่ยิ่งใหญ่บนเวทีโลก” ลงทุน “หมื่นล้าน”เสริมแกร่ง เล็งเปิดโรงงานใหม่-สำนักงาน ตปท. ปีละ 1 แห่ง
นายสราวุฒิ อยู่วิทยา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กลุ่มธุรกิจ TCP องค์กรของคนไทย ที่เป็นเจ้าของ เป็นผู้ผลิตและเป็นผู้จัดจำหน่ายเครื่องดื่มภายใต้แบรนด์กระทิงแดง (เรดบูล) เรดดี้ โสมพลัส สปอนเซอร์ แมนซั่ม เพียวริคุ และซันสแนค เปิดเผยว่าได้วางแผนธุรกิจ 5 ปี เพื่อให้กลุ่มธุรกิจ TCP ก้าวขึ้นมาเป็นหนึ่งในองค์กรธุรกิจของไทย พร้อมดันยอดขายให้โตขึ้น 3 เท่าเป็น 100,000 ล้านบาท
“ในฐานะคนไทยที่เป็นเจ้าของแบรนด์ระดับโลก เราได้นำธงชาติไทยไปโบกสะบัดในกว่า 170 ประเทศทั่วโลก นี่จึงเป็นความรับผิดชอบอันยิ่งใหญ่ องค์กรของเราและผู้บริหารจึงต้องทำงานอยู่บนมาตรฐานระดับโลกที่สูงที่สุด แผนธุรกิจ 5 ปีที่เราประกาศในวันนี้ สะท้อนความมุ่งมั่นที่จะทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็นองค์กรธุรกิจที่สร้างชื่อเสียงมาสู่ประเทศไทยในเวทีโลก” นายสราวุฒิ กล่าว
ตามแผนธุรกิจ 5 ปีที่ประกาศ จะเดินหน้าลงทุน 10,000 ล้านบาท เพื่อเสริมสร้างขีดความสามารถของกลุ่มธุรกิจของให้แข็งแกร่ง ประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก คือ การเสริมสร้างขีดความสามารถของฝ่ายบริหารและพนักงานให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น การขยายและพัฒนากำลังการผลิตและพอร์ทโฟลิโอของสินค้า และการเพิ่มฐานการดำเนินธุรกิจในต่างประเทศให้ครอบคลุมมากขึ้น
เสริมสร้างขีดความสามาถของฝ่ายบริหาร
นายสราวุฒิ กล่าวว่า กลุ่มธุรกิจ TCP ได้เร่งเสริมสร้างขีดความสามารถของฝ่ายบริหารและพนักงานทุกระดับชั้นให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ผ่านโครงการฝึกอบรมบุคลากรที่เข้มข้น ประกอบด้วย โครงการฝึกอบรมระดับผู้บริหารสายงานธุรกิจกว่า 100 คน และระดับปฏิบัติการ ด้วยงบประมาณราว 100 ล้านบาท ในระยะเวลา 5 ปีข้างหน้า
นอกจากนี้ ยังเปิดรับบุคลากรระดับบริหารที่เก่งที่สุดเข้ามาเสริมทีม เพื่อสร้างสรรค์วัฒนธรรมองค์กรให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ด้วยการผสมผสานความเป็นไทยเข้ากับวิธีปฏิบัติแบบสากล ทีมผู้บริหารหลายคนเคยผ่านการเรียนรู้วิธีการทำงานระดับโลกจากบริษัทเครื่องดื่มและสินค้าอุปโภคบริโภคข้ามชาติที่ดีที่สุดมาแล้ว ซึ่งได้นำทักษะที่ได้เรียนรู้มาปรับใช้เพื่อสร้างความเจริญให้บริษัทของคนไทยและแบรนด์ไทย
ขยายกำลังการผลิต-พอร์ตสินค้า
นายสราวุฒิ กล่าวว่ากลุ่มธุรกิจ TCP มีโรงงานอยู่ 2 แห่งในประเทศไทย และมีโรงงานอีก 3 แห่งในอินโดนีเซีย เวียดนาม และจีน มีกำลังการผลิตรวมกันมากกว่า 1 พันล้านลิตรต่อปี ประเทศไทยเป็นฐานการผลิตระดับโลก ที่ทำการผลิตด้วยคุณภาพมาตฐานที่เข้มงวดสูงสุดและสามารถผลิตสินค้าป้อนได้ทุกตลาดทั่วโลก
นอกจากนี้มุ่งมั่นสร้างทีมวิจัยและพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถคิดค้นผลิตภัณฑ์ใหม่ๆ ที่ตอบโจทย์ความต้องการอันหลากหลายของผู้บริโภคในประเทศไทยและทั่วโลกได้ แผนการลงทุนของจะช่วยขยายกำลังการผลิต และพัฒนาขีดความสามารถของทีมวิจัยและพัฒนาให้ทัดเทียมบริษัทในระดับโลกด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัยที่สุด
นายสราวุฒิ กล่าวว่า มูลค่าการส่งออกของกลุ่มธุรกิจ TCP ถึงปีละกว่า 20,000 ล้านบาท ส่งผลให้กลุ่มธุรกิจ TCP กลายเป็นผู้ส่งออกกระป๋องรายใหญ่ที่สุดของไทย
เพิ่มฐานที่มั่นของกลุ่มธุรกิจ TCP ในต่างประเทศ
นายสราวุฒิ กล่าวว่าในอีก 5 ปีข้างหน้า จะเปิดสำนักงานแห่งใหม่ หรือโรงงานแห่งใหม่ อย่างน้อยปีละ 1 แห่งใน 1 ประเทศ มีเป้าหมายที่จะทำให้กลุ่มธุรกิจ TCP เป็น “เฮ้าส์ออฟแบรนด์” ที่ทรงพลัง การมีสำนักงานในประเทศต่างๆ จะช่วยให้เราเข้าใจความต้องการ ความชอบ และพฤติกรรมของผู้บริโภคในแต่ละประเทศได้ดียิ่งขึ้น และสามารถพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่สามารถตอบสนองต่อความต้องการเฉพาะตลาดได้ดีขึ้นกว่าเดิม
“การลงทุนในระยะยาว และการทำในสิ่งที่ไม่เคยมีใครทำมาก่อน อยู่ในดีเอ็นเอของเราอยู่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการคิดค้นสูตรผลิตภัณฑ์ การทำการตลาดหรือรูปแบบการดำเนินธุรกิจ” นายสราวุฒิ กล่าว
สำหรับยอดขายรวมครึ่งปีแรกของกลุ่มธุรกิจ TCP ณ วันที่ 30 มิ.ย.2560 อยู่ที่ 14,600 ล้านบาท และคาดว่าถึงสิ้นปีกลุ่มธุรกิจ TCP จะมียอดขายรวมประมาณ 30,000 ล้านบาท