เม็ดเงิน LTF กำลังจะมา...เลือกหุ้นอย่างไรให้แมทช์!!
เม็ดเงิน LTF กำลังจะมา...เลือกหุ้นอย่างไรให้แมทช์!!
บล.เอเซีย พลัส เปิดเทคนิคการเลือกหุ้น โดยระบุว่า เริ่มเข้าสู่เดือน พ.ย. กันแล้ว เหลืออีกเพียง 2 เดือน ก็จะจบปี 60 สำรวจพอร์ตลงทุนกันหรือยังครับ เป็นยังไงกันบ้าง ปลายปีแบบนี้ หลายคนคงอยากรู้ว่า เม็ดเงินจากกองทุน LTF จะมีมากน้อยแค่ไหน วันนี้เราไปหาคำตอบมาให้ครับ
ตามเกณฑ์ใหม่ ลงทุนใน LTF ต้องลงทุนนานขึ้น เป็น 7 ปี จากเดิม 5 ปี ฝ่ายวิจัย ASP เชื่อว่าไม่กระทบ เห็นได้จากเดือนพ.ย.-ธ.ค. 59 มียอดซื้อ LTF ราว 3.31 หมื่นล้านบาท ลดลงเล็กน้อย7.2% จากช่วงเดียวกันปีก่อน ที่มียอดซื้อ 3.57 หมื่นล้านบาท
จากการศึกษา พบว่า แรงซื้อของนักลงทุนสถาบัน จะกระจุกตัวอยู่ในเดือนพ.ย.- ธ.ค. คือรวมกัน50-60% ของยอดซื้อ LTF ทั้งปี และในช่วง 2 เดือนที่เหลือของปีนี้ สถานการณ์ไม่น่าต่างกัน จึงเชื่อว่า แรงซื้อจาก LTF จะช่วยพยุง SET Index ได้
ข้อมูลย้อนหลัง 7 ปี (53-59) พบว่า แรงซื้อ LTF เฉลี่ยเดือนพ.ย.และธ.ค.คิดเป็น 11% และ 45% ของมูลค่าซื้อ LTF ทั้งหมด โดยเดือนพ.ย.ซื้อเฉลี่ย 5.5 พันล้านบาท ขณะที่เดือนธ.ค.แรงซื้อสูงถึง 2.34 หมื่นล้านบาท
มาดูปี 60 กันบ้าง ช่วง 6 เดือนแรกของปี พบว่ากองทุน LTF มีจำนวน 77 กอง มูลค่าซื้อรวม 9.6 พันล้านบาท หากประเมินยอดซื้อ LTF ทั้งปีนี้ใกล้เคียงปีก่อนที่ 5.87 หมื่นล้านบาท เท่ากับว่าเดือนพ.ย.จะมีเม็ดเงินไหลเข้าซื้อ 6.45 พันล้านบาท และเดือนธ.ค.กว่า 2.64 หมื่นล้านบาท
เราศึกษาลึกลงไปถึงพฤติกรรมซื้อของนักลงทุนสถาบันในประเทศ พบว่า มักจะซื้อหุ้นช่วงปลายปีจากสถิติในปี 53-59 พบว่า ในเดือนพ.ย.และธ.ค.นักลงทุนสถาบันเป็นผู้ซื้อ 6 ใน 7 ปี ด้วยมูลค่าซื้อเฉลี่ย 7.1 พันล้านบาท และ 1.15 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ
เลือกหุ้นอย่างไร อิงกระแส LTF ?... หลังจากศึกษาข้อมูลแล้ว ฝ่ายวิจัยฯ ยังมีกลยุทธ์การลงทุนมาฝากกันด้วย เราเลือกหุ้นที่กองทุนมีโอกาสซื้อสะสมเข้าพอร์ต โดยเป็นหุ้นใน SET100 , เป็นหุ้นที่ราคามีโอกาสปรับขึ้นในเดือนพ.ย.-ธ.ค. , ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่าตลาด และเป็นหุ้นที่ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำซื้อ
จากการคัดเลือก เราได้หุ้นที่น่าสนใจ 5 บริษัท ได้แก่ UNIQ, ROBINS, BDMS แนะนำซื้อสะสม WORK และ AOT แนะทยอยซื้อเมื่อราคาอ่อนตัว