'ปัญญา นิรันดร์กุล' นักธุรกิจแห่งปี 2560

"ปัญญา นิรันดร์กุล" แห่ง "เวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์" ได้รับการโหวตจากกองบรรณาธิการ "กรุงเทพธุรกิจ" ให้เป็นนักธุรกิจแห่งปี 2560
เป็นประจำทุกปีที่ นสพ.กรุงเทพธุรกิจ จะจัดอันดับ “นักธุรกิจแห่งปี” (Businessperson of the year) จากการโหวตของกองบรรณาธิการ ใน 4 ดัชนีชี้วัด ได้แก่ ผลการดำเนินงาน ธรรมาภิบาลในการดำเนินธุรกิจ การเปลี่ยนแปลงทางธุรกิจ และความรับผิดชอบต่อสังคม
โดยในปีนี้ ปัญญา นิรันดร์กุล ประธาน บริษัทเวิร์คพอยท์ เอ็นเทอร์เทนเมนท์ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ได้รับการโหวตจากกองบรรณาธิการ “กรุงเทพธุรกิจ” ให้เป็นนักธุรกิจแห่งปี 2560 พ่วงตำแหน่ง Popular Vote อันดับที่ 3 ทางเว็บไซต์กรุงเทพธุรกิจ (bangkokbiznews) ในปีนี้
จากผลงานการบริหารธุรกิจทีวีดิจิทัล ช่องเวิร์คพอยท์ทีวี ที่โดดเด่น ด้านผลประกอบการ 3 ไตรมาสแรก (ม.ค.-ก.ย.)ปี 2560 แจ้งตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย มีรายได้ 3,122 ล้านบาท กำไรสุทธิ 926 ล้านบาท
หากย้อนสถานการณ์ตั้งแต่อุตสาหกรรมโทรทัศน์ไทย ก้าวมาถึงจุดเปลี่ยนสำคัญ จากการเปลี่ยนแปลงโทรทัศน์อนาล็อกสู่ระบบดิจิทัลในรอบ 60 ปี ส่งผลให้ประเทศไทยมีช่อง “ฟรีทีวี” เพิ่มขึ้นจาก 6 ช่อง เป็น 22 ช่องในปัจจุบัน ด้วยการเปิดประมูลทีวีดิจิทัล ประเภทธุรกิจ ของคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ช่วงปลายปี 2556
ปัญญา นิรันดร์กุล หนึ่งในแม่ทัพ “เวิร์คพอยท์” นำทีมเข้าร่วมประมูลทีวีดิจิทัล พร้อมคว้าใบอนุญาตช่องวาไรตี้ เอสดี มาด้วยมูลค่า 2,355 ล้านบาท
เมื่อเริ่มต้นออกอากาศ “ทีวีดิจิทัล” ช่องใหม่อย่างเป็นทางการ ในเดือน เม.ย.2557 ปัญญา และ ประภาส ชลศรานนท์ 2 ผู้ร่วมก่อตั้งเวิร์คพอยท์ นำช่องทีวีที่ออกอากาศบนแพลตฟอร์มทีวีดาวเทียม หมายเลข 1 กล่องพีเอสไอในปี 2555 มาต่อยอดออนแอร์บนโครงข่ายทีวีดิจิทัล หลังชนะประมูลในปี 2556
ด้วยประสบการณ์ในฐานะคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ ผลิตรายการป้อนให้ “ฟรีทีวี” เกือบทุกช่องในยุคอนาล็อก ทำให้ “เวิร์คพอยท์ทีวี” ก้าวสู่ผู้นำเรทติ้งอันดับ 3 รองจากฟรีทีวีรายเดิม ช่อง 7 และช่อง 3 แซงหน้าช่อง 5และ ช่อง 9 ที่ออกอากาศมากว่า 50 ปี พร้อมตำแหน่ง “ผู้นำ”เรทติ้งในกลุ่มทีวีดิจิทัลช่องใหม่ ตั้งแต่ปี 2557 ถึงปัจจุบัน ที่กำลังครบ 4 ปี ในอุตสาหกรรมทีวีดิจิทัล
ท่ามกลางสมรภูมิ “ทีวีดิจิทัล” ที่เต็มไปด้วย“ผู้บาดเจ็บ”และอุตสาหกรรมสื่อโฆษณา ปี 2559-2560 อยู่ในภาวะถดถอย 2 ปีนี้ “ติดลบ”รวมกัน 17% โดยสื่อดั้งเดิมอยู่ในช่วง“ขาลง”
แต่การบริหารของ “ปัญญา นิรันดร์กุล” ได้นำพา “เวิร์คพอยท์” ก้าวขึ้นฝั่ง “ผู้รอด” นับตั้งแต่ปีแรกที่ออกอากาศ มาในปี 2560 ยังสร้างปรากฏการณ์ดัน “เรทติ้ง” ช่วงไพรม์ไทม์ขึ้นอันดับ 1 จากรายการฮิต “The Mask Singer” ตัวเลขเรทติ้งล่าสุด เดือน ธ.ค.2560 เฉพาะช่วงเวลาไพรม์ไทม์ 18.20-22.30 น. ในกลุ่มผู้ชมทั่วประเทศ เวิร์คพอยท์ อยู่อันดับ3 แต่ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ไต่อันดับขึ้นมาอยู่ที่ 2 เรียบร้อยแล้ว
ด้วยกราฟเรทติ้งผู้ชมที่เพิ่มขึ้นตลอด ปี 2560 เวิร์คพอยท์ สามารถขยับราคาโฆษณาขึ้นได้ต่อเนื่อง จากอัตราโฆษณาเฉลี่ยนาทีละ 3.8 หมื่นบาทในปี 2558 สิ้นปีนี้ขยับมาจบที่นาทีละ 8 หมื่นบาท ขณะที่ราคาโฆษณาเสนอขาย(rate card) สูงสุดแตะ 4 แสนบาทต่อนาที เทียบเท่าฟรีทีวีรายเดิม
หากนับจากวันเริ่มต้น ทีวีดิจิทัล ปี2557 ถึงปัจจุบัน มาร์เก็ตแคป เวิร์คพอยท์ เพิ่มขึ้น 3 เท่า จาก 1.1 หมื่นล้านบาท ทะยานสู่ 3.6 หมื่นล้านบาท “เวิร์คพอยท์”ในวันนี้ จึงไม่ใช่เป็นเพียง“ผู้รอด” แต่ยังครองตำแหน่ง “ผู้มั่งคั่ง” ในอุตสาหกรรมสื่อยุคดิจิทัล
จากวิชั่นผสานคอนเทนท์ทั้งโลกออฟไลน์และออนไลน์ เข้าหาผู้ชมในทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง“จอทีวี” สื่อที่เข้าถึง 22 ล้านครัวเรือนไทยทั่วประเทศและโลกออนไลน์ ที่มีผู้ใช้อินเทอร์เน็ต 75% ของประชากรไทย ที่ส่งผลต่อการเปลี่ยนแปลงพฤติกรรมการเสพสื่อและคอนเทนท์ในยุคนี้ แต่เวิร์คพอยท์ มองเห็นโอกาสการนำธุรกิจคอนเทนท์สู่ดิจิทัล แพลตฟอร์ม ที่ปัจจุบันครองอันดับ 1 ทุกแพลตฟอร์ม ทั้ง ยูทูบ ,เฟซบุ๊ค, ไลน์ เพื่อช่วงชิงเม็ดเงินโฆษณาสื่อดิจิทัลที่กำลังเติบโต จากรายได้หลักสิบล้านในปี 2558 มาปีนี้รายได้สื่อออนไลน์แตะระดับ 200 ล้านบาท
อีกความสำเร็จในช่องทางดิจิทัล มีเดียปีนี้ คือการคว้า รางวัลปุ่มเพชร หรือ Diamond Play Button จากยูทูบ หลังช่อง WorkpointOfficial คว้าอันดับ 1 ในไทยและอันดับ 1 ของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่มีผู้ติดตาม (Subscribers)กว่า 10 ล้านราย และกำลังไต่อันดับสู่ช่องยูทูบที่มีผู้ติดตาม 100 อันดับแรกของโลก
ด้านความรับผิดชอบต่อสังคม ได้จัดตั้งมูลนิธิเวิร์คพอยท์ เมื่อวันที่ 5 เม.ย.2559 ด้วยเจตนารมณ์ ส่งเสริมและสนับสนุนการศึกษา และกิจกรรมที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมช่วยเหลือผู้เดือดร้อนขาดแคลน และบรรเทาสาธารณภัยต่าง ๆ และให้ความร่วมมือกับองค์กรการกุศลอื่นเพื่อสาธารณประโยชน์
ปัจจัยความสำเร็จของเวิร์คพอยท์ มาจากความชัดเจนของ “ตำแหน่งช่อง”และ“คอนเทนท์”ในฐานะ "King of Variety” มุ่งนำเสนอรายการ “โลคัล คอนเทนท์” วาไรตี้หลากหลายรูปแบบที่ถูก“รสนิยม”การรับชมของคนไทย ในสไตล์ที่ถนัด
การก้าวมายืนอย่างโดดเด่นในสนามแข่งทีวีดิจิทัลวันนี้ ปัญญา ย้ำเสมอว่า“เราไม่ได้คิดว่า ดีกว่าใคร แต่ละคน แต่ละช่องดีคนละแบบ” รายการวาไรตี้ ที่เวิร์คพอยท์ผลิตวันนี้ อาจได้รับความนิยม ทำได้ถูกจริตคนไทย แต่ไม่ใช่ทุกรายการจะประสบความสำเร็จ “เรามีพลาดได้เช่นกัน” แต่สิ่งที่เวิร์คพอยท์ทำอยู่เสมอ คือ รับฟังเสียงผู้ชมและนำไปปรับปรุงให้คอนเทนท์มี“รสชาติถูกปากคนไทย”
ความสำเร็จของ “เวิร์คพอยท์”ในวันนี้ ไม่ได้เกิดขึ้นในช่วงเกือบ 4 ปีของทีวีดิจิทัล แต่มีประวัติยาวนานนับตั้งแต่ “เวิร์คพอยท์” ในยุคคอนเทนท์ โปรวายเดอร์ ตั้งแต่ปี 2532 หรือกว่า 28 ปี ที่ทำงานทีวีต่อเนื่องมายาวนานถึงยุคทีวีดิจิทัล
“เวิร์คพอยท์ มีประวัติศาสตร์มายาวนาน และไม่สามารถบอกได้ว่า สำเร็จมาจากจุดใดจุดหนึ่ง เราทำงานทีวีมากว่า 28 ปี และเราทำงานเป็นทีมเวิร์ค” ปัญญา กล่าวย้ำ