รุกการค้าชายแดนอีสานใต้.. 'เมืองใหม่ช่องสะงำ' ที่ศรีสะเกษ

การพัฒนา "ช่องสะงำ" เป็นแหล่งทางค้าขายระหว่างชายแดนของประเทศไทยกับประเทศกัมพูชา มีความคืบหน้าเป็นระยะ ซึ่ง "กรุงเทพธุรกิจออนไลน์" ได้โอกาสลงพื้นที่ และขอสัมภาษณ์พิเศษ นายธวัช สุระบาล ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ในเรื่องนี้

"ผู้ว่าฯธวัช" กล่าวว่า จังหวัดศรีสะเกษมีระยะทางติดกับราชอาณาจักรกัมพูชา หรือประเทศเขมร 100 กว่ากิโลเมตร ตั้งแต่อำเภอกันทรลักษ์ อำเภอขุนหาญ อำเภอภูสิงห์ ระยะทางจากจังหวัดศรีสะเกษ ด่านชายแดนช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ ไปนครวัด นครธม จังหวัดเสียมราฐ ราอาณาจักรกัมพูชา ระยะทางแค่ 135 กิโลเมตร แต่การค้าในช่วงนี้ยังไม่คึกคัก จังหวัดได้ร่วมกับองค์การบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษ ได้เปิดพื้น ที่เมืองใหม่ช่องสะงำ เปิดบูธขายสินค้า สถานที่ตอนนี้มีความพร้อม ในเรื่องของไฟฟ้า น้ำประปา การจัดการบริหารส่วนจังหวัดศรีสะเกษเข้ามาดำเนินการเรียบร้อยแล้ว

"พื้นที่ตรงนี้จังหวัดได้ตั้งงบประมาณในการจัดตั้งด่านศลุกากร ด่านกักกันสัตว์ ด่านตรวจคนเข้าเข้าเมือง ใช้งบประมาณในส่วนของจังหวัดไปหลายร้อยล้านบาท ขนาดนี้ด่านศุลกากร ที่ประจำอยู่ ช่องจอมจังหวัดสุรินทร์ ได้แยกออกมาอยู่ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษเรียบร้อยแล้ว"

ผู้ว่าฯศรีสะเกษ ย้ำการอำนวยความสะดวกในการขนสินค้าผ่านแดนตอนนี้ทำการได้แล้ว โดยที่ไม่ต้องไปประทับตราที่ ช่องจอม จังหวัดสุรินทร์ เพราะในขนาดนี้ช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ มีบุคคล และสถานที่ใหญ่ ในการรอให้อำนวยความสะดวกสบาย ระหว่างชายแดนช่องสะงำ จังหวัดศรีสะเกษ กับ ช่องจวม อำเภออัลลองเวง จังหวัดอุดรมีชัย มีทหารทั้งสองประเทศ มาดูแล อำนวยความสะดวก พร้อมทั้งได้มีการปรับภูมิทัศน์

"เมื่อไม่นานผมได้เดินทางไปเยี่ยมแนะนำตัว ที่จังหวัดพระวิหาร จังหวัดอุดรมีชัย และจังหวัดเสียมราฐ ซึ่งทั้ง 3 จังหวัดมีชายแดนติดกับจังหวัดศรีสะเกษเป็นบ้านพี่เมืองน้อง เพื่อไปพบปะแลกเปลี่ยนเจรจา ส่วนใหญ่ก็จะเป็นการที่เราจะเข้าไปดูแลช่วยเหลือ เช่น นำในเรื่องของการศึกษา การฝึกอาชีพระยะสั้น การเกษตร หรือการเข้าศึกษาต่อประจำที่มหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ และวิทยาลัยเทคโนโลยีการเกษตร โดยมีทุนการศึกษาให้"

ด้านการค้าสองพี่น้องก็ไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ประการสำคัญที่เมืองใหม่ช่องสะงำ คือการค้ามันยังไม่คึกคักเท่าที่ควร ในช่วงสัปดาห์หน้าจึงได้จัดงานมหกรรมขับเคลื่อนเศรษฐกิจชายแดนช่องสะงำ-ช่องจวม ปี 2561 “Sangam-Chuam Festival 2018” เป็นมหกรรมที่ใหญ่มาก เราได้กราบเรียนเชิญ พลเอก วิชิต ยาทิพย์ ท่านนายกสมาคมมิตรภาพไทย-กัมพูชา มาเป็นประธานเปิดงานด้วย

ในช่วงของการจัดงาน ตั้งแต่วันที่ 8 – 11 กุมภาพันธ์ 2561 รวม 4 วัน ตั้งแต่เวลา 09.00 – 20.00 น. จัดหวัดได้มอบหมายให้สำนักงานพาณิชย์ จังหวัดศรีสะเกษ โดยมีกิจกรรมจัดบูธสินค้า อาหารดี สินค้าดี และผลิตภัณฑ์OTOP จากทั้ง 76 จังหวัดมาภายในงาน ซึ่งสินค้าของทางจังหวัดศรีสะเกษที่คนกัมพูชาชอบมาก ก็ได้แก่ มะพร้าวน้ำหอม กล้วย และข้าวหอมมะลิ มีการเจรจา แลกเปลี่ยนสินค้า มีบูธของเอกชน สินค้าที่เราไปเปิดตลาดผ่านทางช่องสะงำ เช่นน้ำมันพืช ชาเขียวยี่ห้อต่างๆ เครื่องดื่มชูกำลัง ผลิตภัณฑ์จาก บริษัท โอลิน จำกัด บริษัท อายิโน๊ะโม๊โต๊ะ ประเทศไทย จำกัด และสินค้าพื้นถิ่น จากจังหวัดพระวิหาร จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดเสียมราฐ ก็จะนำสินค้ามาขายที่งานนี้ด้วย เนื่องจากมีการจับคู่ธุรกิจการค้า เพื่อที่จะทำการแลกเปลี่ยนสินค้ากัน ที่สำคัญในงานนี้เพื่อที่จะดึงดูดคนให้มาภายในงาน พี่น้องชาวเขมรและกัมพูชา ชื่นชอบมวยมาก วันที่ 9 – 10 กุมภาพันธ์ 2561 เป็นมหกรรมมวย วันละ 13 – 14 คู่ ถ่ายทอดทางช่องออนซอนทีวี

อยากให้ผู้ประกอบการที่จะต้องการขนส่งสินค้าในต่างประเทศ ต้องมาในงานนี้ และทางด้านการรักษาพยาบาล ทางราชอาณาจักรกัมพูชา นิยมมารักษาที่ประเทศไทย ทางโรงพยาบาลรวมแพทย์ จังหวัดยโสธร ไปเปิดศูนย์ขนาดใหญ่ ที่จังหวัดเสียมราฐ เป็นจุดที่จะเชื่อมโยงและส่งคนมารักษาที่โรงพยาบาลรวมแพทย์ ที่จังหวัดยโสธร เขาก็จะมาเปิดบูธที่นี่ เขามีแนวทาง แนวโน้มที่จะมาเปิดศูนย์แพทย์ที่เมืองใหม่ ช่องสะงำ อำเภอภูสิงห์ จังหวัดศรีสะเกษ เพื่อบริการถึงคนฝั่ง จังหวัดอุดรมีชัย จังหวัดพระวิหาร ซึ่งในปีที่แล้วมหกรรมนี้จัดขึ้นที่เกาะเพชร กรุงพนมเปญ เป็นศูนย์จัดแสดงสินค้าใหญ่ แต่ในปีนี้เรากับมาจัดที่นี่

ส่วนแนวนโยบายที่จะให้จังหวัดศรีสะเกษเป็นเมืองท่องเที่ยว นายธวัชกล่าวว่า ต้องดูในคำขวัญ “ดินแดนปราสาทขอม ข้ามหอมกระเทียมดี” เพราะนั่นตรงนี้ ในเดือนมีนาคม เดือนหน้า เทศกาลดอกลำดวนบาน สืบสานประเพณีสี่เผ่า ไทศรีสะเกษ ปี 2561 ในระหว่างวันที่ 9 – 11 มีนาคม 2561 ภายในช่วงนี้ดอกลำดวน บริเวณสวนสมเด็จพระศรีนครินทร์ จังหวัดศรีสะเกษ จะบานและมีดอกไม้กระจายเต็มพื้นที่ ซึ่งปีนี้เราได้มีการจัดอย่างยิ่งใหญ่มาก โดยมีการเตรียมฉากใหม่หมดเลย เดิมเป็นฉากที่ทีมงานชุดเก่าเตรียมไว้ ปีนี้เราได้ทีมงานจากมหาวิทยาลัยราชภัฎศรีสะเกษ เช่น แสง สี เสียง ภาพฉาก นักแสดงจากนักศึกษามหาลัยราชภัฎร่วมกับพี่น้องชาวชนเผ่า ลาว เขมร ส่วย เยอ ได้ทำการแสดงสุดอลังการทั้ง 3 คืนแล้ว ในปีนี้ได้มีการจัดรอบสื่อมวลชนในวันที่ 7 มีนาคม 2561

"ภายในงานได้มีการจัดจำหน่ายสินค้า OTOP เช่น หอมแดง กระเทียม ผ้าไหม มีการจำลองแบบบ้านโบราณ ของแต่ละชนเผ่า ได้แก่ ชนเผ่าลาว ชนเผ่าเขมร ชนเผ่าส่วย ชนเผาเยอ และนำพี่น้องแต่ละชนเผ่ามาอยู่ทั้ง 4 วัน มีการแสดงพื้นบ้านของแต่ละชนเผ่า มีอาหารพื้นเมืองของชนเผ่า มาจำหน่าย ส่วนในช่วงการแสดง แสง สี เสียง ไม่มีการขายบัตร แต่ในปีที่ผ่านมาจะมีการขายเป็นพาแลง พาแลง 1 ชุด 1,500 บาท ซึ่งคนที่ไม่ได้ซื้อพาแลงก็จะไม่ได้มีโอกาสเข้าไปนั่ง ในปีนี้เราปรับเปลี่ยนใหม่ ไม่มีพาแลง โดยออกเป็นบูธอาหาร ให้พี่น้องได้ซื้ออาหารแล้วไปนั่งรับประทานชมแสงสีเสียง ที่สะท้อน อารยธรรมขอมโบราณ ว่าดอกลำดวนมีที่มาอย่างไง กับอาณาจักรขอมโบราณ งานนี้เป็นงานที่ย้อนถึงความเป็นมาของจังหวัดศรีสะเกษ เพื่อนให้ชนรุ่นหลังและนักท่องเที่ยวได้รับรู้" ผู้ว่าฯศรีสะเกษ กล่าวทิ้งท้าย