อินดี้ลูกทุ่งบูม 'อาม ชุติมา VS ค่ายไหทองคำ' ส่วนแบ่งไม่ลงตัว?
เจาะประเด็นร้อน! อินดี้ลูกทุ่งบูม "อาม ชุติมา VS ค่ายไหทองคำ" ส่วนแบ่งไม่ลงตัว?
ยุคสมัยที่ "ความดัง" ดูที่ยอดวิว! ยิ่งยอดวิวสูง นอกจากจะได้เงินค่าโฆษณาผ่านยูทูปแล้ว ยังสะท้อนว่าจะได้รับ "ค่าตัวสูง" จากการจ้างขึ้นเวทีต่างๆ อีกด้วย
ไม่แปลกใจที่ข่าวความขัดแย้งของ "นักร้องนักแต่งเพลง" กับ "เสี่ยค่ายเพลง" จะกลายเป็นข่าวมาร่วมสัปดาห์ "อาม ชุมติมา" สาวบึงกาฬ วัย 19 ปี ผู้แต่งเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ประกาศแยกทางจาก “ประจักษ์ชัย เนาวรัตน์” ผู้บริหารค่ายไหทองคำสำเร็จ แม้ในทางกฎหมายยังมีปัญหา
เธอปลุก “เอฟซีอามแอ๊ะ” ขยี้เจ้าพ่อไหทองคำผ่านสื่อโซเชียล จนฝ่ายเจ้าของค่ายไหทองคำต้องถอย (ชั่วคราว)
มิได้หยุดเพียงเท่านั้น เมื่อวันที่ 31 พ.ค.2561 "อาม ชุติมา" ยกครอบครัว และผู้เสียหายจากการกระทำของ "นายห้างไหทองคำ" มารวมตัวกันแถลงข่าวขอความเป็นธรรมที่บริษัท พีที เอ็นเตอร์เทนเม้นท์ หมู่บ้านเศรษฐสิริ เขตสายไหม ตอกย้ำว่า เธอเสียรู้เรื่องการทำสัญญาซื่้อขายเพลง รวมถึงการไม่พอใจการดูแลจากฝ่ายนายห้างไหฯ
ทุกย่างก้าวของสาวอินดี้อีสาน ไม่ธรรมดา และทำสงครามข่าวกับประจักษ์ชัยต่อเนื่อง
วันเปิดยุทธการแหกค่ายเริ่มต้น เมื่อ 25 พ.ค.2561 เมื่อ “ชุติมา โสดาภักดิ์” ออกแถลงการณ์ผ่านเฟซบุ๊ค “อาม ชุติมา” สรุปได้สั้นๆว่า1.เพลงที่เธอแต่งและมีการเผยแพร่ทางยูทูป ประกอบด้วย “ผู้สาวขาเลาะ“ 340 วิว , ”อดีต-เคย-พัง“ 151 ล้านวิว, ”บ่ขวางทางอ้าย“ 70 ล้านวิว และ ”ไปต่อหรือพอส่ำนี้” 81 ล้านวิว รวมแล้วเกือบ 600 ล้านวิว เธอไม่ได้เงินส่วนแบ่งแม้แต่บาทเดียว ทั้งที่เคยสัญญาว่าจะแบ่งกัน 70-30
ฉะนั้น คำว่า 600 ล้านวิว ไม่ได้หมายถึงเพลงผู้สาวขาเลาะเพลงเดียว ซึ่งวันนี้ เพลงดังผู้สาวขาเลาะ มียอดวิว 340 ล้านวิว
2.สำหรับ “งานโชว์” เธอได้รับส่วนแบ่งที่ไม่เป็นธรรม “พรีเซ็นเตอร์ ได้กี่แบรนด์ ได้กี่บาท ค่าตัวที่แสดงหนัง ไม่ได้ซักบาท ฯลฯ รถก็ดาวน์ บ้านก็แค่ต่อเติม รถตู้ที่ออกมา ก็จากทุกบาทที่มีในบัญชี ดาวน์มาไว้ใช้เดินทาง
จริงๆแล้ว ความขัดแย้งระหว่าง อาม ชุติมา กับประจักษ์ชัย เนาวรัตน์ คุกรุ่นกันมาแต่ปลายเดือน เม.ย.นี้ เมื่อเธอรับงานโชว์เองต้นเดือน พ.ค.นี้ อาม ชุติมาไปผ่าเสริมจมูกที่คลินิกดัง ย่าน ถนนรัชดา เมื่อจมูกเข้าที่ อามก็ออกรับงานคอนเสิร์ตทางภาคอีสาน โดยมีนักร้องในทีมคือ ท๊อป มอซอ, บักกึ่ม, เนส สักจึ๊กส์ และจุ๊กกรู๊แบรนด์
นั่นหมายความว่า อามมีทีมงานเป็นของตัวเอง และรับงานการแสดงโดยไม่ผ่านค่ายไหทองคำอีกต่อไป
“อาม" หรือ “ชุติมา โสดาภักดิ์” เกิดที่บ้านโคกสว่าง ต.ดอนหญ้านาง อ.พรเจริญ จ.บึงกาฬ เธอเรียนจบชั้น ม.6 จากโรงเรียนโรงเรียนพรเจริญวิทยา และระหว่างเรียนที่วิทยาลัยเทคโนโลยีเอ็น-เทคอินเตอร์เนชั่นแนล บึงกาฬ เธอจับกลุ่มเพื่อนๆ ดีดกีตาร์ร้องเพลง จากนั้น เธอเริ่มหัดแต่งเพลง
ปี 2559 เธอแต่งเพลง “อดีต-เคย-พัง” และร้องใส่กีตาร์กับเพื่อนๆ ไลฟ์ลงเฟซบุ๊ค มียอดผู้ชมหลักแสน ทีมส่องของประจักษ์ชัย จึงติดต่อและส่งเงินเป็นค่าเดินทางให้เธอกับแม่ เดินทางเข้ามาเซ็นสัญญากับประจักษ์ชัย โดยเวลานั้น ยังไม่มีการตั้งบริษัทไหทองคำ
ส่วน “ลำไย ไหทองคำ” ดังแล้วจากการเต้นท่ายาก “เด้า 9 ชั้น” มีงานโชว์ทุกคืน วันหนึ่ง อามเขียนเพลงผู้สาวขาเลาะ ให้ลำไยร้อง เป็นแนวเพลงแนวอินดี้อีสาน ประจักษ์ชัยจึงปล่อยเพลง ผู้สาวขาเลาะ กับเพลง “อดีต-เคย-พัง” ของอาม ออกไปคู่กัน
สิ่งที่อามเริ่มมีปัญหากับค่ายไหฯ ก็ตรงค่าตัวโชว์ละ 6 หมื่น แต่ได้จริงแค่หมื่นกว่าบาท
“หนูทำสัญญา 5 ปีค่ะ หลังจากที่หมดสัญญา หนูกับเพลงก็จะหมดสัญญาไปด้วยค่ะ เพลงก็จะเป็นของหนูค่ะ ตอนนี้ก็เหลืออีก 3 ปีค่ะ ถามว่าเราออกมาแบบนี้กลัวเขาจะฟ้องมั้ย ก็กลัวค่ะ แต่มันอยู่ไม่ได้แล้วค่ะมันหลายอย่างค่ะ ก็มีเรื่องคับข้องใจอยู่ค่ะ"
จะว่าไปแล้ว ประจักษ์ชัย มีสัญญาซื้อขายเพลงผู้สาวขาเลาะ และสัญญาการเป็นผู้จัดการดูแล “อาม” ถูกต้องตามกฎหมาย แต่ทำไมต้องถอย?
ด้วยแรงต้านจากแฟนคลับของอาม ถาโถมมาปานพายุ ประจักษ์ชัยเกรงจะไปกระทบ “ลำไย ไหทองคำ” เพราะมีการเปิดประเด็น “ลำไยได้ฮอนด้าซีวิค อามได้กระบะ” และหากมีการฟ้องร้องเกิดขึ้น ประจักษ์ชัยจะเจอข้อหา “รังแกเด็ก” อีก?
ประจักษ์ชัยมีโชคจากกระแสสื่อดิจิทัลยุค 4.0 แต่การบริหารงานภายในค่ายไหทองคำของเขา ยังอยู่ในยุค 1.0 คือ พ่อปกครองลูก และอยู่กันแบบครอบครัว ไม่มีระบบ เอาง่ายเข้าว่าสไตล์คนบ้านบ้าน
นายห้างไหทองคำคิดว่า เงิน 6 แสนบาทที่ช่วยการต่อเติมบ้านของอาม และดาวน์รถกระบะให้ เป็นการตอบแทนที่เพียงพอแล้ว พลันที่ “อาม ชุติมา” ประกาศ “ฉีกสัญญาหน้าเฟซฯ” พร้อมปลุกเอฟซีให้ลุกขึ้นมาทวงถามความเป็นธรรม ฝ่ายประจักษ์ชัยได้แต่ตั้งรับ และรอวันเอาคืนในอนาคต สงครามเพลง “ผู้สาวขาเลาะ” ยังไม่จบ..สุดท้ายปลายทางสองฝ่ายคงต้องพึ่งกระบวนการยุติธรรม
ขณะเดียวกัน หากประเมินในแง่ธุรกิจ แบรนด์คำว่า "นักร้องอินดี้" และ "ไหทองคำ" สามารถทำให้ราคางานจ้างแสดงโชว์พุ่งพรวดอย่างนาสนใจ อย่าลืมว่า สองปีมานี้ โมเดลธุรกิจเพลงแบบ "ประจักษ์ชัย" ถูกกล่าวขวัญอย่างมากมายในแวดวงคนทำมาค้าขายเพลง เนื่องจากยูทู้ป และเฟซบุ๊ค มีส่วนช่วยให้ “ค่ายเพลงเล็กๆ” หรือศิลปินอิสระ ประสบความสำเร็จอย่างคาดไม่ถึง
นายห้างไหฯ ทำตัวเหมือน “นายห้างขายแผ่นเสียง” เมื่อ 50 ปีก่อน เพลงไหนดังระเบิด นายห้างก็ซื้อทองให้นักแต่งเพลง และซื้อรถเบนซ์ให้นักร้อง ประจักษ์ชัยคิดว่า เงิน 6 แสนบาทที่ช่วยการต่อเติมบ้านของอาม และดาวน์รถให้ เป็นการตอบแทนที่เพียงพอแล้ว?
แต่หารู้ไม่ว่า.. "อาม ชุติมา" หลังออกรับงานคอนเสิร์ตทางภาคอีสาน โดยมีนักร้องในทีมคือ ท๊อป มอซอ, บักกึ่ม, เนส สักจึ๊กส์ และจุ๊กกรู๊แบรนด์ ต่างได้รับรู้ข้อมูลค่าตัวในการแสดงของเธอว่าสูงกว่าที่ได้จากนายห้างไหฯ จึงเกิดความน้อยเนื้อต่ำใจสะสมมาจนถูกระเบิดออกหรือไม่
แน่นอนว่า ปรากฎการณ์ "ดังแล้วแยกวง" เคยมีมาให้เห็นตลอด ขึ้นอยู่ว่า ออกไปแล้วจะรุ่งต่อหรือร่วงดับ แต่อย่างว่า ยุคสมัยที่ใช้ "ทุนน้อย" ผ่านสื่อโซเชียลฯ และมีช่องทาง "ปล่อยของ" ถึงผู้ฟังอย่างง่าย รวดเร็ว และทรงพลัง อย่างยูทูป ทำให้ "ศิลปิน" สมัยนี้ปีกกล้าขาแข็ง และมองค่ายเพลงแบบเดิมๆ เป็นโมเดลที่ล้าสมัยก็เป็นได้
อีกประเด็นสำคัญอย่างหนึ่งของ "การทำเพลงยุคนี้" คือ นอกจาก นักร้องจะ "มีของ" เช่น เรื่องเสียงและหน้าตาแล้ว เรื่อง "กลยุทธ์ปั่นยอดวิว" ก็เป็นเรื่องสำคัญที่จะพิสูจน์ความดัง เพื่อจะได้งานจ้างถี่และค่าตัวสูงขึ้น ซึ่งเรื่องแบบนี้ ไม่มีใครยอมบอกสูตร ทำให้เพลงอินดี้ยอดวิววิ่งแซงเพลงค่ายใหญ่ แต่มีแนวทางทั้งการเชียร์แบบ "บนดิน-ใต้ดิน" ในสื่อโซเชียล ช่วยโพสต์ถี่ๆ ซึ่งโมเดลก็ไม่ต่างยุคสมัยสื่อวิทยุเฟื่องฟู จ้างดีเจเปิดแผ่น ทำนองว่าเพลงละพันวันละเพลง..
ดูเหมือนว่า "ประจักษ์ชัย" ยังเชื่อมั่นแบรนด์ไหทองคำยังไปได้อีกไกล ซึ่งมีข่าวคราวปั้นนักร้องอีกหลายคน ทยอยออกมาสู่โลกออนไลน์ ในขณะที่ "อาม ชุติมา" ที่ใช้เวลาเรียนรู้จากประจักษ์ชัยนาน2ปีกว่า เรื่องทำงานเพลงคงค่อนข้างมั่นใจ แต่การทำตลาดเพลงแบบโซเชียลฯนั้น สำคัญกว่า อาจพิสูจน์ได้ว่าไปรอดหรือไม่รอด!?