SVI - ซื้อเก็งก้าไร
ชัยชนะหลังเจ็บมาเยอะ
SVI เผชิญกับ 3 เหตุการณ์ที่กดดันผลประกอบการมาตลอด ได้แก่ น้ำท่วม ไฟไหม้ และภาวะขาดแคลนส่วนประกอบ แต่บริษัทก็ผ่านมาได้และฟ้าหลังฝนย่อมสดใสเสมอ เราคาดกำไรหลักปี 2561 เติบโตแข็งแกร่ง หนุนโดยความต้องการต่อสินค้าของบริษัทเพิ่มขึ้น ภาวะขาดแคลนส่วนประกอบคลี่คลาย และคำสั่งซื้อใหม่จากทั้งลูกค้าเดิมและลูกค้าใหม่ คงคำแนะนำ “ซื้อเก็งกำไร”
คาดกำไรไตรมาส 3/61 ฟื้นตัวแกร่ง
ค่าเงินบาทเทียบกับดอลลาร์สหรัฐที่อ่อนค่าลงจะหนุนอัตรากำไรขั้นต้นไตรมาส 3/61 อัตราแลกเปลี่ยนสาหรับซื้อวัตถุดิบของ SVI อยู่ที่ 32.15 บาท/ดอลลาร์สหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยระหว่างเดือนเม.ย.-มิ.ย.) ขณะที่บริษัทจะรับรู้รายได้ที่อัตรา 33.6 บาท/ดอลลาร์ห์สหรัฐ (อัตราแลกเปลี่ยนเฉลี่ยระหว่างเดือนก.ค.-ส.ค.) เราประเมินอัตรากำไรขั้นต้นที่มากกว่า 10% ในไตรมาส 3/61 ขยายตัวจาก 9.7% ในไตรมาส 2/61 และ 5.8% ในไตรมาส 3/60 ขณะที่เราคาดรายได้ที่ 130-140 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ยอด booking 150 ล้านดอลลาร์สหรัฐ) เพิ่มขึ้น 38% YoY และ 10% QoQ โดยปกติแล้วไตรมาส 3 เป็นช่วงที่ยอดขายสูงที่สุด แต่สาหรับปีนี้นั้น ยอดขายรายไตรมาสคาดสูงสุดในไตรมาส4 หนุนโดยคำสั่งซื้อใหม่และการเพิ่มกำลังการผลิต ผู้บริหารคาดยอดขายจะมากกว่า 150 ล้านดอลล่าร์สหรัฐในไตรมาส 4/61
หมดความกังวลต่อสถานการณ์ขาดแคลนส่วนประกอบ
แม้สถานการณ์ขาดแคลนวัตถุดิบ/ส่วนประกอบของอุตสาหกรรมอิเล็กทรอนิกส์อาจยังไม่จบลงในครึ่งหลังของปี 2561 อย่างไรก็ตาม ผลกระทบจากสถานการณ์ดังกล่าวจะถูกกลบกับการที่ SVI เพิ่ม inventory cycle สำหรับวัตถุดิบที่ราคาสูงไปแล้ว อีกทั้งบริษัทสามารถผลักภาระต้นทุนวัตถุดิบที่สูงขึ้นไปให้ลูกค้าได้มากถึง 80% ตั้งแต่ไตรมาส 2/61 และบริษัทจะยังทำเช่นนี้ต่อเนื่องในไตรมาส 3/61 ในทางตรงกันข้าม SVI ได้รับประโยชน์จากสถานการณ์นี้ เนื่องจากคู่แข่งไม่สามารถหาวัตถุดิบได้เพียงพอ ดังนั้นลูกค้าของคู่แข่งต้องหันมาหาผู้ผลิตที่หาส่วนประกอบได้ เช่น SVI ทั้งนี้การดำเนินงานในยุโรปไม่ประสบปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ เนื่องจากความสัมพันธ์กับคู่ค้าแข็งแกร่ง อีกทั้งความขัดแย้งทางการค้าระหว่างจีนและ US ส่งผลประโยชน์ทางอ้อมต่อบริษัท เนื่องจากลูกค้าบางรายได้หันมาส่งคาสั่งซื้อกับ SVI
ความต้องการสินค้าแข็งแกร่ง
ผู้บริหารปรับเพิ่มเป้าหมายรายได้ปี 2561 ขึ้นจาก 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็น 480 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (รายได้ครึ่งปีแรกคิดเป็น 46% ของเป้าหมายใหม่) สูงขึ้น 31% YoY หนุนโดยคำสั่งซื้อจากลูกค้าเดิมมากขึ้นและคำสั่งซื้อจากลูกค้าใหม่เพิ่มเข้ามา สำหรับปี 2562 นั้น บริษัทตั้งเป้ารายได้ที่ 640 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ความต้องการต่อสินค้าของ SVI แข็งแกร่ง ปัจจุบันมียอด booking สำหรับปี 2562 แล้วมากถึง 600 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และบริษัทตั้งเป้ารายได้ปี 2563 ที่ 700-750 ล้านดอลลาร์สหรัฐ (ไม่รวมการเติบโตจากการเข้าซื้อธุรกิจอื่นๆ) หากรวมการเติบโตจากการเข้าซื้อธุรกิจอื่นๆ รายได้มีโอกาสแตะ 1 พันล้านดอลลาร์สหรัฐในปี 2563 (SVI มุ่งหวังจะเริ่มสร้างหรือซื้อโรงงานในแม็กซิโกเพื่อจับตลาดสหรัฐ) เราปรับเพิ่มประมาณการรายได้ปี 2561 ของเราขึ้น 10% มาอยู่ที่ 1.5 หมื่นล้านบาท เนื่องจากปัญหาเรื่องการผลิตหมดไปและคำสั่งซื้อใหม่หลั่งไหลเข้ามาจำนวนมาก อีกทั้งเราปรับเพิ่มสมมติฐานกำไรหลักขึ้น 29% เป็น 705 ล้านบาท ส่งผลให้ราคาเป้าหมายขยับขึ้นจาก 5 บาท เป็น 6.5 บาท