ธ.ก.ส.เผยเกษตรกรไทยมีความสุขเพิ่มขึ้น

ธ.ก.ส.เผยเกษตรกรไทยมีความสุขเพิ่มขึ้น

ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรมธ.ก.ส.เผย ผลสำรวจระดับความสุขของเกษตรกรไทยทั่วประเทศมีความสุขในระดับมากที่สุดเพิ่มขึ้นจากปีที่แล้ว โดยเฉพาะภาคตะวันออก ครองแชมป์สุขที่สุุด ผลจากราคาสินค้าภาคเกษตรมีการขยายตัวสูงขึ้น และการได้รับความช่วยเหลือจากนโยบายรัฐบาล

นายอภิรมย์ สุขประเสริฐ ผู้จัดการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.)เผยว่า ศูนย์วิจัยและพัฒนานวัตกรรม ธ.ก.ส. ได้สำรวจความคิดเห็นของเกษตรกรจากทุกภาคทั่วประเทศ ภายใต้หัวข้อ “ระดับความสุขของเกษตรกรไทย” จากกลุ่มตัวอย่าง 1,650 ราย ซึ่งเก็บข้อมูลระหว่างวันที่ 24 กันยายน - 10 ตุลาคม 2561 พบว่า ความสุขมวลรวมของเกษตรกรไทยอยู่ในระดับมากที่สุด (คะแนนเฉลี่ย 82.57 จากคะแนนเต็ม 100 คะแนน) เพิ่มขึ้น 2.37% จากช่วงเดียวกันของปีที่แล้ว
อันเนื่องมาจากเศรษฐกิจภาคเกษตรมีการขยายตัวสูงขึ้น ส่งผลให้ดัชนีรายได้เกษตรกรขยายตัว 6.1% ในไตรมาสที่ 2/2561 จากเดิมที่ขยายตัวติดลบ 2.1% ในไตรมาสที่ 1/2561 โดยราคาสินค้าเกษตรหลายรายการปรับตัวเพิ่มขึ้น อาทิ ข้าวเปลือก มันสำปะหลัง ข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ และผลไม้ ประกอบกับ ได้รับความช่วยเหลือจากนบายรัฐบาล เช่น มาตรการช่วยเหลือผู้ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐที่ให้ส่วนงานที่เกี่ยวข้องจัดอบรมวิชาชีพตามมาตรการพัฒนาคุณภาพชีวิต เพื่อสร้างอาชีพใหม่ให้กับเกษตรกร โครงการเกษตรแปลงใหญ่ และมาตรการเกษตรประชารัฐ เพื่อลดต้นทุนการผลิตให้กับเกษตรกร
ตลอดจนนโยบายช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อยของธ.ก.ส. ผ่าน 3 มาตรการ 9 โครงการ ล้วนมีบทบาทในการสนับสนุนให้ครัวเรือนเกษตรกรมีช่องทางในการสร้างรายได้เพิ่ม ลดต้นทุนและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิต ทำให้รายได้เกษตรกรโดยรวมปรับตัวเพิ่มขึ้น โดยมีปัจจัยสนับสนุนที่สำคัญ คือ สังคมของครัวเรือนชนบทยังคงมีวิถีชีวิตการพึ่งพาอาศัยระหว่างกัน ส่งผลให้ระดับความสุขมวลรวมของเกษตรกรเพิ่มขึ้น
สำหรับความสุขของเกษตรกรไทยในมิติชี้วัดความสุข 6 มิติ พบว่า มิติครอบครัวดีมีคะแนนเฉลี่ยความสุขสูงที่สุด 88.29% รองลงมาคือ มิติสังคมดี 86.55% มิติสุขภาพดี 84.51% มิติการงานดี 82.17% มิติใฝ่รู้ดี 78.31%และมิติสุขภาพเงินดี 75.11%โดยทุกมิติมีความสุขอยู่ในระดับมากที่สุด(Very Happy)
เมื่อจำแนกเป็นรายอาชีพพบว่า เกษตรกรที่ประกอบอาชีพการเกษตรหลักทุกประเภทมีความสุขอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเกษตรกรผู้ปลูกผลไม้มีคะแนนเฉลี่ยความสุขสูงที่สุด รองลงมาคือ เกษตรกรผู้ปลูกมันสำปะหลัง และข้าวโพดเลี้ยงสัตว์ เนื่องจาก ราคาผลไม้ที่เกษตรกรขายได้อยู่ในเกณฑ์สูงทำให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นสร้างความพึงพอใจให้กับเกษตรกร
ส่วนราคามันสำปะหลังปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากเฉลี่ย 93.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และราคาข้าวโพดเลี้ยงสัตว์เพิ่มขึ้น 39.3% จากความต้องการใช้เพื่อผลิตอาหารสัตว์ภายในประเทศที่ขยายตัว สำหรับอาชีพรับจ้างทางการเกษตร มีคะแนนเฉลี่ยความสุขน้อยที่สุด เมื่อเทียบกับอาชีพการเกษตรอื่น


ความสุขของเกษตรกรไทยจำแนกเป็นรายภาคพบว่า เกษตรกรทุกภาคมีความสุขอยู่ในระดับมากที่สุด โดยเกษตรกรภาคตะวันออกมีคะแนนเฉลี่ยระดับความสุขสูงที่สุด 84.99% เนื่องจาก พื้นที่ภาคตะวันออกเป็นพื้นที่หลักในการปลูกผลไม้ โดยราคาผลไม้ในปี 2561 ปรับตัวสูงขึ้นมาก จากความต้องการทั้งภายในและต่างประเทศที่เพิ่มขึ้นมากกว่าปริมาณผลไม้ที่ออกสู่ตลาด ซึ่งเป็นระดับราคาที่เกษตรกรพึงพอใจ
รองลงมา คือ เกษตรกรภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง และภาคเหนือตอนล่าง 84.44% และ 84.29% ตามลำดับ ซึ่งเป็นพื้นที่หลักในการปลูก มันสำปะหลัง เนื่องจาก ราคามันสำปะหลังได้ปรับตัวเพิ่มขึ้นอย่างมากจากช่วงเดียวกันของปีก่อน ส่วนเกษตรกรในภาคใต้ตอนล่างมีคะแนนเฉลี่ยระดับความสุขน้อยที่สุด 79.55% เมื่อเทียบกับเกษตรกรในภาคอื่น