IVL - ซื้อ

IVL - ซื้อ

คาดกำไรสุทธิ 4Q61 อ่อนตัวราว 73%QoQ จากขาดทุนสต็อกสินค้าและอัตรากำไรหดตัว

ประเด็นสำคัญในการลงทุน :

  • รายงานกำไรสุทธิงวด 9M61 อยู่ที่ 24,111 ลบ. เติบโต 122%YoY: รายงานกำไรสุทธิงวด 9M61 อยู่ที่ 24,111 ลบ. เติบโต 122%YoY โดยมีกำไรจากสต็อกสินค้าราว 3,060 ลบ. และกำไรจากการดำเนินงานอยู่ที่ 21,051 ลบ. เติบโต 109%YoY มาจากอัตรากำไรเฉลี่ยของแต่ละผลิตภัณฑ์ที่ปรับตัวสูงขึ้นราว 60 US$/t (+29%YoY) สู่ 271 US$/t ประกอบกับปริมาณขายรวมที่ปรับตัวสูงขึ้นสู่ 9.91 MMT(+9%YoY) หลังมีการซื้อกิจการอย่างต่อเนื่อง แบ่งได้เป็น จาก PET เติบโตขึ้นราว 0.35 MMT (+9%YoY) สู่ 4.09 MMT จาก Fibers&Yarns เติบโตขึ้นราว 14 MMT (+10%YoY) สู่ 1.50 MMT และจาก West Feedstock เติบโตขึ้นราว 0.28 MMT (+10%YoY) สู่ 3.08 MMT
  • คาดกำไรสุทธิ 4Q61 อ่อนตัวราว 73%QoQ จากขาดทุนสต๊อกสินค้าและอัตรากำไรหดตัว: คาดการณ์กำไรสุทธิ 4Q61 อยู่ที่ราว 2,710 ลบ.-73%QoQ -73%YoY อ่อนตัวลงจากการขาดทุนสต๊อกสินค้าราว 2,000 ลบ. และคาดกำไรจากการดำเนินงานปกติที่ราว 4,710 ลบ.-40%QoQ -51%YoY เนื่องจากอัตรากำไรในกลุ่มผลิตภัณฑ์หลักของบริษัทปรับตัวลดลง QoQ ได้แก่ Asia PTA -29 US$/t
    (-16%QoQ), Asia PET -59 US$/t (-35%QoQ) และ West PET -58 US$/t
    (-17%QoQ) เนื่องจากเป็นช่วง Low Season ของธุรกิจปิโตรเคมี โดยเราคาด EBITDA/ton ปี 61 เฉลี่ยอยู่ที่ราว 2,920 THB/t -48%QoQ -40%YoY ทั้งนี้เราคาดกำไรสุทธิปี 61 อยู่ที่ 26,821 ลบ. เติบโต 28%YoY
  • คาดปี 62 ยังรักษาฐานกำไรได้จากวอลุ่มที่เข้ามาชดเชย: แนวโน้มปี 62 คาดบริษัทจะเติบโตได้จาก Volume ของ PET ที่เพิ่มขึ้นราว 1,000 KTA +18%YoY หลังมีการประกาศควบรวมกิจการไปในปี 61 รวมทั้งสิ้น 8 กิจการ ได้แก่ 1) โรงงาน PET ในบราซิล (550 KTA / 100%) 2) การร่วมทุนโรงงาน Corpus Christi ในสหรัฐฯ PTA(1 MMT) และ PET (1.3 MMT) จะดำเนินงานได้ในปี 63 3) โรงงาน Avgol HVA (203 KMT/ 65%) 4) โรงงาน PET ในอียิปต์ (540 KTA/50%) 5) โรงงาน Kordarna ในเช็ก HVA(50 KTA/50%) 6) โรงงาน PET Preforms ในอียิปต์ (70 KTA/74%) 7) โรงงานรีไซเคิลPET ในฝรั่งเศส (52 KTA/100%)
    8) กลุ่มโรงงาน Schoeller ในทวีปยุโรป ผลิตด้ายขนสัตว์แท้และด้ายขนสัตว์ผสม
    (3.6 KTA/100%) อีกทั้งบริษัทสามารถทำสัญญาขายผลิตภัณฑ์ล่วงหน้าที่สหรัฐได้ราคาสูงกว่าปี 61 โดยเราคาดการณ์กำไรสุทธิปี 62 ที่ราว 27,131 ลบ. เติบโต 7%YoY
  • เริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ” ที่ราคาเหมาะสม 61.5 บาท: เราประเมินมูลค่าบริษัท IVL ด้วยวิธี PBV Band โดยใช้เลือกใช้ค่า PBV+1SD ที่ 2.4 เท่าจากระดับสูงสุดที่ +2SD โดยเรามองว่า Spread ผลิตภัณฑ์ของบริษัทได้ผ่านจุดสูงสุดมาแล้ว ได้ราคาเหมาะสมที่ 61.50 บาท มีอัพไซต์ราว 33% จากราคาปัจจุบัน จึงเริ่มต้นด้วยคำแนะนำ “ซื้อ”

ปัจจัยสนับสนุน

1.สามารถซื้อกิจการได้ในราคาที่เหมาะสม

2. คู่แข่งทางธุรกิจลดง

3. สามารถสร้างอัตรากำไรจาก HVA(High Value Added)ได้ดีกว่าคาด

ความเสี่ยง

1. Spread ของผลิตภัณฑ์ไม่เป็นไปตามคาด

2. อัตราแลกเปลี่ยนไม่เป็นไปตามคาด

3.โรงงานได้รับความเสียหายจากอุบัติเหตุหรือภัยธรรมชาติ ที่ส่งผลกระทบต่อผลการดำเนินงานของบริษัท