ส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตสุดท้าย 89 คัน ประเดิมใช้พรุ่งนี้

วันนี้ (12 มี.ค.) เวลา 07.30 น. ที่ปั๊มปตท. NGV ปากซอยรามคำแหง 180 บริษัทสแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN ส่งมอบรถโดยสารปรับอากาศใช้เชื้อเพลิงก๊าซธรรมชาติ หรือ NGV ล็อตสุดท้ายจำนวน 89 คัน รวมทั้งหมด 489 คันให้กับองค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ หรือขสมก. โดยมีนายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ เป็นผู้รับมอบและตรวจดูความเรียบร้อย ก่อนมีการสาธิตจากผู้ใช้บริการ และปล่อยขบวนรถเพื่อประจำจุดให้บริการทั้ง 4 เขตในกรุงเทพฯ และปริมณฑล ซึ่งจะเปิดให้บริการอย่างเป็นทางการในวันที่ 13 มี.ค. นี้

นายประยูร ช่วยแก้ว รักษาการ ผอ.องค์การขนส่งมวลชนกรุงเทพ บอกว่า ขสมก.ได้รับมอบรถเมล์ NGV งวดสุดท้ายจำนวน 89 คันจากบริษัทเอกชน ซึ่งได้มีการตรวจความพร้อมตั้งแต่การประกอบเครื่องยนต์ ระบบปรับอากาศ ระบบแก๊ส การขัดสีและเงา และนำรถไปจดทะเบียนกับกรมการขนส่งทางบกครบทั้งหมดแล้ว โดยรถเมล์ทั้ง 89 คันจะนำมาวิ่งให้บริการในเขตการเดินรถ 4 เขตในพื้นที่กรุงเทพและปริมณฑล ประกอบด้วยเส้นทางเขตการเดินรถที่ 1 จำนวน 29 คัน ได้แก่ สาย 59 รังสิต-สนามหลวง 9 คัน, สาย 129 บางเขน-สำโรง 2 คัน, สาย 510 มธ.ศูนย์รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ 8 คัน, สาย 522 รังสิต-อนุสาวรีย์ชัยฯ 5 คัน และ สาย A1 ดอนเมือง-หมอชิต 2 จำนวน 5 คัน, เขตการเดินรถที่ 2 จำนวน 30 คัน ได้แก่ สาย 26 มีนบุรี-อนุสาวรีย์ชัยฯ 15 คัน, สาย 60 สวนสยาม-ปากคลองตลาด 10 คัน และ สาย 514 มีนบุรี-สีลม 5 คัน, เขตการเดินรถที่ 3 จำนวน 20 คัน ได้แก่ สาย 142 ปากน้ำ-แสมดำ 10 คัน และ 511 ปากน้ำ-สายใต้ใหม่ 10 คัน และเขตการเดินรถที่ 5 จำนวน 10 คัน ได้แก่ สาย 140 แสมดำ-อนุสาวรีย์ชัยฯ 10 คัน

สำหรับความคืบหน้าโครงการเช่าระบบบัตรโดยสารอิเล็กทรอนิกส์ (อีทิคเก็ต) และเครื่องเก็บค่าโดยสาร หรือกล่องเก็บค่าโดยสารแคชบ็อกซ์ (Cash box) บนรถเมล์ 2,600 คัน วงเงิน 1,665 ล้านบาท สัมปาน 5 ปี โดยมีบริษัท ช ทวี จำกัด (มหาชน) หรือ CHO เป็นคู่สัญญานั้น ทางมติบอร์ดขสมก. เห็นชอบให้ยกเลิกสัญญา เพราะบริษัทไม่ดำเนินการแก้ไขข้อบกพร่องตามสัญญา TOR ทั้งที่ขสมก.ให้เวลาเกือบ 1 ปี โดยเฉพาะเครื่องแคชบ็อกซ์ที่ทอนเงินไม่ได้ เกรงว่าหากมีการนำมาใช้จะส่งผลกระทบต่อผู้ใช้บริการ โดยทางกทม. จะแจ้งบอกเลิกสัญญากับบริษัทอย่างเป็นทางการภายใน 1- 2 วันนี้ ส่วนบริษัทจะฟ้องร้องอย่างไรก็เป็นไปตามสิทธิ์

ส่วนกรณีประชาชนที่ถือบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ สามารถนำมาใช้ชำระค่าโดยสารรถเมล์ขสมก. รวม 2,816 คันได้ โดยแบ่งเป็นรถเมล์ธรรมดา (รถเมล์ร้อน) 1,520 คัน และรถเมล์ปรับอากาศ (รถเมล์แอร์) 1,296 คัน โดยประชาชนจะต้องแจ้งจุดหมายปลายทางที่จะลงแก่พนักงานเก็บค่าโดยสาร เพื่อให้พนักงานระบุค่าโดยสารบนเครื่อง EDC ให้ตรงกับอัตราค่าโดยสารตามจุดหมายปลายทางที่จะลง ก่อนนำบัตรไปแตะที่หน้าจอบนเครื่อง EDC เพื่อให้เครื่องหักค่าโดยสารออกจากวงเงินในบัตร ซึ่งพนักงานเก็บค่าโดยสาร จะคอยให้คำแนะนำ วิธีการใช้งานแก่ผู้ใช้บริการ ซึ่งเครื่อง EDC สามารถรองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐได้ทั้งแบบเก่าและแบบใหม่ ส่วนในอนาคตจะพัฒนาให้สามารถแสกนชำระได้ ซึ่งจะเริ่มใช้ในเดือน เม.ย.นี้ ไม่ต้องใช้เงินสดอีกต่อไป

ขณะนี้ได้รับรายงานว่า มีผู้ใช้เครื่อง EDC ชำระค่าโดยสารแล้วประมาณ 30,000 คน โดยพบปัญหาเล็กน้อยเกี่ยวกับสัญญาณที่ยังไม่เสถียรบางจุด ซึ่งขสมก.มีรถเมล์ที่รองรับบัตรสวัสดิการแห่งรัฐเกือบ 3,000 คัน และในอนาคตจะรองรับบัตรเเมงมุมได้ด้วย

ดร.ฤทธี กิจพิพิธ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารบริษัท สแกน อินเตอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCN บอกว่า บริษัทรู้สึกยินดีและภาคภูมิใจอย่างมาก ที่ได้ส่งมอบรถเมล์ NGV ล็อตสุดท้ายจำนวน 89 คัน ครบทั้งหมด 489 คัน ให้กับขสมก. ซึ่งเร็วกว่ากำหนดที่วางไว้ ซึ่ง SCN มีความเชี่ยวชาญด้านรถเมล์ NGV และมีความพร้อมในการให้บริการ อย่างไรก็ตามยังเหลือสัญญาการซ่อมบำรุงอีก 10 ปี หลังจากนี้ได้เตรียมแผนงานบำรุงและซ่อมแซมรถเมล์ NGV ไว้แล้ว เพื่อสร้างความมั่นใจว่า เราจะช่วยส่งเสริมให้โครงการนี้ประสบผลสำเร็จ นอกจากนี้รถเมล์ NGV ของเรายังช่วยลดผลกระทบปัญหาฝุ่นละออง PM 2.5 ในอากาศที่ส่งผลต่อสุขภาพของประชาชนได้ ที่สำคัญตัวรถเมล์เป็นประเภทชานต่ำ ที่นั่งมีการออกแบบในลักษณะ Universal Design มีทางลาดสำหรับเข็นรถวีลแชร์ สามารถรองรับผู้พิการและผู้สูงอายุ รวมถึงผู้ใช้บริการทุกประเภท ซึ่งได้รับเสียงตอบรับค่อนข้างดี

หลังจากนี้ บริษัทมีแผนเข้าร่วมประมูลโครงการจัดซื้อจัดเช่าของขสมก. ที่ต้องการรถเมล์ที่ทันสมัยและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมมาให้บริการแก่ประชาชน ทั้งรถเมล์ไฮบริด รถเมล์ไฟฟ้า และรถเมล์ NGV ซึ่งมีแผนในโครงการแรก จำนวน 300 คัน และรถไฮบริด จำนวน 400 คัน หากได้รับการคัดเลือกจากการประมูลโครงการดังกล่าว จะทำให้บริษัทรับรู้รายได้อย่างท่วมท้นเติบโตอย่างก้าวกระโดด

นันทิดา จิตภักดีรัตน์ หรือสาลี่ กรรมการสมาคมสตรีพิการประเทศไทย บอกว่า หลังจากทดลองใช้บริการรถเมล์ NGV รุ่นใหม่แล้วรู้สึกประทับใจ เพราะถือเป็นการปลดล็อคให้ผู้พิการได้ใช้บริการรถเมล์ที่สะดวกปลอดภัยเป็นครั้งแรก เนื่องจากตัวรถออกแบบมาพิเศษสำหรับผู้พิการและผู้สูงอายุ นอกจากนี้กลุ่มผู้พิการยังมีข้อเสนอแนะเพิ่มเติมคืออยากให้ปรับจุดล็อครถวีลเเชร์ติดกับตัวรถเมล์ จากแบบสายเกี่ยวมาเป็นเข็มขัดนิรภัย เพื่อความสะดวกสบายมากยิ่งขึ้น เช่นเดียวกับของรถไฟฟ้าบีทีเอส