คาด2สัปดาห์ได้ข้อสรุปประมูลดิวตี้ฟรี เข้าข่ายพรบ.ร่วมทุนฯหรือไม่
"สมคิด" ระบุได้ข้อสรุปใน 2 สัปดาห์ว่าการประมูลดิวตี้ฟรีของทอท. เข้าข่ายพ.ร.บ.ร่วมทุนฯ หรือไม่ ระบุการปรับเงื่อนไขในทีโออาร์แยกสนามบินสุวรรณภูมิ – สนามบินภูมิภาคเหมาะสม
นายสมคิด จาตุศรีพิทักษ์ รองนายกรัฐมนตรี กล่าวถึงการดำเนินการคัดเลือกผู้ประกอบการโครงการจำหน่ายสินค้าปลอดอากร (ดิวตี้ฟรี) และโครงการบริหารจัดการกิจกรรมเชิงพาณิชย์ ในท่าอากาศยาน ของบริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) หรือ ทอท.ว่าการเปิดขายซองประมูลดิวตี้ฟรีของ ทอท.ในครั้งนี้เป็นอำนาจของ ทอท.ที่สามารถดำเนินการได้เพราะผ่านคณะกรรมการ (บอร์ด) ของทอท.เป็นที่เรียบร้อยแล้วซึ่งมีการปรับปรุงรายละเอียดของทีโออาร์โดยแยกเอาพื้นที่ดิวตี้ฟรีของสนามบินสุวรรณภูมิ1 สัญญากับสนามบินในภูมิภาคอีก 3 แห่งได้แก่ ท่าอากาศยานภูเก็ต ท่าอากาศยานเชียงใหม่ และท่าอากาศยานหาดใหญ่ 1 สัญญาซึ่งถือว่าเป็นการปรับปรุงจากทีโออาร์เดิมที่รวมการประมูลท่าอากาศยานทั้ง 4 แห่งไว้ในสัญญาเดียว
อย่างไรก็ตามในส่วนของมติการประชุมคณะกรรมการนโยบายการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน( คณะกรรมการPPP) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานที่ให้มีการตั้งคณะอนุกรรมการด้านกฎหมาย โดยให้อัยการสูงสุดเป็นประธาน เพื่อไปพิจารณาว่าโครงการนี้เข้าข่ายการร่วมลงทุนที่ต้องดำเนินการภายใต้ พ.ร.บ.ให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ 2562 หรือไม่นั้นก็ถือว่าเป็นขั้นตอนหนึ่งของการทำงานและสามารถทำคู่ขนานไปได้กับการขายซองประมูลของ ทอท.โดยขั้นตอนในการพิจารณาของอนุกรรมการด้านกฎหมายจะแล้วเสร็จภายใน 2 สัปดาห์
“ทุกอย่างก็เดินหน้าไปตามขั้นตอน บอร์ด ทอท.เขาก็พิจารณาปรับปรุงทีโออาร์โดยแยกสัญญาระหว่างสุวรรณภูมิกับสนามบินอีก 3 แห่งในภูมิภาค ซึ่งก็เป็นอำนาจที่ ทอท.เขาสามารถทำได้ ส่วนคณะอนุกรรมการด้านกฎหมายก็ไปดูและตีความ พิจารณาว่าเข้าข่าย พ.ร.บ.ร่วมทุนหรือไม่ใช้เวลาประมาณ 2 สัปดาห์ก็น่าจะแล้วเสร็จ ถ้าเข้าเกณฑ์ก็มาดำเนินการตามขั้นตอนช่องทางของพีพีพีถ้าไม่เข้าเกณฑ์ ทอท.ก็ดำเนินการไปได้ทันที”นายสมคิดกล่าว