'สหภาพรถไฟ' บุกทำเนียบค้านรถไฟความเร็วสูง

'สหภาพรถไฟ' บุกทำเนียบค้านรถไฟความเร็วสูง

"สาวิทย์" นำเครือข่ายสหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจการรถไฟ พร้อมภาคประชาชนกว่า 100 คน ยื่นข้อเรียกร้องจากรัฐบาล จี้ดำเนินการโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินโปร่งใส

เปิดเผยสัญญาที่จะลงนามกับเอกชนพร้อมให้ประชาชนม่าวนร่วมห่วงสร้างผลกระทบกับประชาชนมากกว่าสร้างความเจริญในพื้นที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในเวลาประมาณ 10.00 น. ของวันนี้ (28 พ.ค.) ที่ศูนย์รับเรื่องร้องเรียนทำเนียบรัฐบาล ระหว่างที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ที่มีพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธาน มีวาระการพิจารณาร่างสัญญาให้เอกชนร่วมลงทุนในกิจการของรัฐ โครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ดอนเมือง สุวรรณภูมิ และสนามบินอู่ตะเภา ระหว่างการรถไฟแห่งประเทศ (ร.ฟ.ท.) และเอกชนผู้ชนะประมูลโครงการ กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด และพันธิมตร ก่อนที่จะมีการเดินหน้าลงนามในสัญญาในช่วงกลางเดือน มิ.ย.ต่อไป

2_55

นายสาวิทย์ แก้วหวาน เลขาธิการสมาพันธ์แรงงานรัฐวิสาหกิจสัมพันธ์ ได้นำกลุ่มตัวแทนภาคประชาชนกว่า 45 กลุ่ม เช่น สหภาพแรงงานรัฐวิสาหกิจรถไฟแห่งประเทศไทย (สร.รฟท.) กลุ่มสหภาพแรงงานภาคตะวันออก รวมทั้งชาวบ้านที่ได้รับผลกระทบจากโครงการพัฒนาพื้นที่พิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) จำนวนกว่า 100 คนเข้ายื่นหนังสือต่อนายกรัฐมนตรีเพื่อขอให้ดำเนินการโครงการอีอีซี และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน อย่างโปร่งใส ให้ประชาชนมีส่วนร่วมในการตัดสินใจ โดยในการยื่นหนังสือครั้งนี้มีนายสมพาศ นิลพันธ์ ที่ปรึกษาประจำสำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับหนังสือร้องเรียน

นายสาวิทย์กล่าวว่าตามที่รัฐบาลได้ดำเนินโครงการอีอีซี และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม สนามบิน คณะกรรมการคัดเลือกเอกชนร่วมลงทุนโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ได้พิจารณาคัดเลือกกลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร เป็นผู้ได้รับคัดเลือกเข้าร่วมโครงการไปแล้วนั้นจากการติดตามข้อมูลข่าวสารตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา พวกข้าพเจ้าในฐานะผู้ได้รับผลกระทบโดยตรงจากโครงการอีอีซี และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ภาคประชาชนรู้สึกกังวลและเป็นห่วงอย่างยิ่งว่าโครงการดังกล่าวอาจก่อให้เกิดผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่มากกว่าการพัฒนาที่จะสร้างความเจริญให้แก่ท้องถิ่นและประเทศชาติตามที่รัฐบาลได้มุ่งหวังไว้ โดยเฉพาะผลกระทบทางด้านชีวิตและความเป็นอยู่ทั้งด้านเกษตรกรรม พาณิชยกรรม และอุตสาหกรรม ตลอดทั้งด้านธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมอีกหลายประการ

3_37

จึงเสนอข้อเรียกร้องต่อรัฐบาล เพื่อให้ดำเนินการอย่างเร่งด่วน4 ประการด้วยกันคือ 1. การดำเนินโครงการต้องไม่ก่อให้เกิดผลกระทบต่อชีวิต และความเป็นอยู่ของประชาชนในพื้นที่โครงการ และให้คำนึงถึงมาตรการบรรเทาความเสียหายที่จะตามมาอย่างเต็มคุณค่า

2.ให้รัฐบาลดำเนินการด้วยความโปร่งใสเพื่อรักษาผลประโยชน์ของประเทศชาติเป็น สำคัญ มากกว่าการเอื้อผลประโยชน์แก่นักลงทุนผู้เข้าดำเนินโครงการ

4_26

3.ให้มีการเปิดเผยสัญญาต่อสาธารณะโดยเฉพาะโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบิน ที่กลุ่มกิจการร่วมค้าบริษัทเจริญโภคภัณฑ์โฮลดิ้ง จำกัด และพันธมิตร จะลงนามในสัญญาและเข้าดำเนินการต่อไป

และ4. โครงการอีอีซี และโครงการรถไฟความเร็วสูงเชื่อม 3 สนามบินเป็นโครงการขนาดใหญ่ ซึ่งจะมีผลกระทบต่อประเทศชาติ ประชาชน ทั้งในด้านเศรษฐกิจ สังคม คุณภาพชีวิต สิ่งแวดล้อม จึงไม่ควรรีบเร่งดำเนินการ โดยให้มีการเปิดรับฟังความคิดเห็น และการตัดสินใจ ของประชาชนอย่างรอบด้านก่อนดำเนินการ

3_36

4_25