'อีสท์วอเตอร์' เตรียมพันล้าน พัฒนาระบบรับอีอีซีขยายตัว
เร่งแผนบริหารน้ำภาคตะวันออก เตรียมเงินลงทุนปีละพันล้านลุยพัฒนาธุรกิจ ครอบคลุมจัดหาแหล่งน้ำ ประปา เจาะธุรกิจบำบัดน้ำเสียในนิคมอุตสาหกรรม
นายชรินทร์ โซนี่ รองกรรมการผู้อำนวยการใหญ่ สายกลยุทธ์ และพัฒนาธุรกิจ บริษัทจัดการและพัฒนาทรัพยากรน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรือ อีสท์ วอเตอร์ กล่าวว่า ในการวางแผนจัดหาทรัพยากรน้ำเพื่อป้อนให้กับพื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) นั้น ในระยะสั้นยังคงมีปริมาณน้ำที่เพียงพอต่อการใช้งานทั้งภาคครัวเรือนและภาคอุตสาหกรรม ประมาณ 300 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี
ส่วนในระยะกลางและยาวขณะนี้อยู่ระหว่างการจัดทำแผนการบริหารจัดการน้ำ เพื่อรองรับการขยายตัวใน 3 จังหวัดภายใน อีอีซี (ระยอง ชลบุรี และฉะเชิงเทรา) เพื่อให้มีปริมาณน้ำเพียงพอในอีก 20 ปีข้างหน้า
จากการประเมินตามแผนการขยายตัวของ อีอีซี และจากการสอบถามกับลูกค้าของอีสท์ วอเตอร์ ในพื้นที อีอีซี คาดว่าภายใน 20 ปี ในพื้นที่ อีอีซี จะมีความต้องการน้ำประมาณ 500-600 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ซึ่งจะทยอยเพิ่มขึ้นจนไปถึงระดับดังกล่าว ซึ่งแผนการหลักๆ จะไปเจรจากับกรมชลประทานในพื้นที่ อีอีซี เพื่อจัดหาแหล่งน้ำเพิ่ม รวมทั้งจะพัฒนาแหล่งน้ำแห่งใหม่เพื่อเพิ่มปริมาณน้ำ
“คาดว่าหลังจากการเกิด อีอีซี จะทำให้ภาคอุตสาหกรรมและภาคครัวเรือนขยายตัวเพิ่มขึ้น จนทำให้ความต้องการใช้น้ำไปถึง 500-600 ล้านลูกบาศก์เมตรต่อปี ภายใน 20 ปีข้างหน้า"
ทั้งนี้ บริษัทฯ ได้เตรียมเงินลงทุนเพื่อจัดหาแหล่งน้ำและพัฒนาระบบจัดส่งน้ำประมาณปีละ 1 พันล้านบาทต่อปี ในระยะ 3-5 ปี ข้างหน้า และยังได้ขยายการให้บริการให้ครอบคลุมครบวงจร ตั้งแต่ธุรกิจการผลิตน้ำดิบ ธุรกิจน้ำประปา ธุรกิจการบริหารระบบน้ำเสียและน้ำรีไซเคิล
โดยธุรกิจต่างๆ จะวางแผนการขยายตัวไปพร้อมกับ อีอีซี โดยในธุรกิจบริหารระบบบำบัดน้ำเสียนั้น จะเข้าไปเจาะนิคมอุตสาหกรรมที่เกิดขึ้นมาใหม่ เพื่อที่จะเข้าไปบริหารระบบบำบัดน้ำครบวงจร ตั้งแต่น้ำเพื่ออุตสาหกรรม ไปจนถึงระบบบำบัดน้ำเสีย ส่วนนิคมอุตสาหกรรมเก่าจะเข้าไปเสนอแผน ด้วย