'บินไทย' สอบสจ๊วตลอบขนบุหรี่ไฟฟ้า ชี้โทษสูงสุด 'ไล่ออก'
"การบินไทย" แจ้งพบตัวผู้กระทำผิดแล้ว พนักงานต้อนรับบนเครื่องบิน ลักลอบนำบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าเข้าประเทศ อยู่ขั้นตอนสอบสวน ยันโทษสูงสุด "ไล่ออก"
บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) ชี้แจงกรณีข่าวพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชายลักลอบนำบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากเข้าประเทศไทย ย้ำบริษัทฯ มีมาตรการป้องปรามไม่ให้พนักงานทำผิดกฎหมายและกรณีนี้บริษัทฯ เป็นผู้แจ้งเบาะแสให้ศุลกากรเข้าตรวจจับ โดยบริษัทฯ ยังอยู่ระหว่างการสอบสวน ยืนยันโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก
นายสุธีรัชต์ ศิริพลานนท์ ปฏิบัติหน้าที่ผู้อำนวยการใหญ่ฝ่ายบริการบนเครื่องบิน บริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า กรณีที่มีข่าวพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชายลักลอบนำบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากเข้ามาประเทศไทย ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 20 กรกฎาคม 2562 โดยบริษัทฯ ได้รับแจ้งข้อมูลว่ามีพนักงานต้อนรับบนเครื่องบินชายคนหนึ่งของเที่ยวบินเที่ยวบินที่ ทีจี 677 เส้นทางนาริตะ-กรุงเทพฯ ซื้อบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าจำนวนมากอย่างผิดสังเกตที่ร้านค้าปลอดภาษีในท่าอากาศยานนาริตะ บริษัทฯ จึงได้แจ้งเบาะแสแก่เจ้าหน้าที่ศุลกากรเพื่อเตรียมการตรวจจับ ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้เอ็กซเรย์ตรวจค้นพนักงานต้อนรับฯ เที่ยวบินดังกล่าวทุกคนและไม่พบว่ามีบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าแต่อย่างใด แต่พบกระเป๋าที่วางไว้ข้างคนขับรถขนส่งพนักงานจากลานจอดเครื่องบินกลับมายังอาคารศูนย์ปฏิบัติการ การบินไทยที่สุวรรณภูมิ ซึ่งภายในกระเป๋ามีบุหรี่และไส้บุหรี่ไฟฟ้าบรรจุอยู่จำนวนมากโดยไม่มีพนักงานต้อนรับฯ คนใดแสดงตัวเป็นเจ้าของ
ขณะนี้ บริษัทฯ รู้ตัวผู้กระทำผิดแล้ว แต่ยังอยู่ระหว่างการสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน เพื่อดำเนินการกับผู้กระทำผิด ซึ่งบริษัทฯ จะลงโทษตามระเบียบบริษัทฯ ต่อไป โดยมีโทษสูงสุดถึงขั้นไล่ออก อย่างไรก็ตาม บริษัทฯ ขอยืนยันว่า บริษัทฯ มีมาตรการป้องปรามไม่ให้พนักงานต้อนรับฯ กระทำผิด ทั้งการฝึกอบรมและย้ำเตือนอย่างสม่ำเสมอให้พนักงานรับทราบถึงโทษที่จะได้รับเมื่อกระทำความผิด ให้หัวหน้างานสอดส่องดูแลอย่างเข้มงวด และให้ความร่วมมือกับศุลกากรโดยการแจ้งเบาะแสรวมทั้งทำการสุ่มตรวจค้นเมื่อพนักงานต้อนรับฯ เดินทางถึงประเทศไทย