'ดร.สามารถ' เปิดสูตร 'หั่นค่าโดยสารรถไฟฟ้า'
ดร.สามารถ ราชพลสิทธิ์ จากพรรคประชาธิปัตย์ โพสต์เฟซบุ๊ค เปิดสูตร หั่นค่าโดยสารรถไฟฟ้า
เมื่อเร็วๆ นี้ มีข่าวเกรียวกราวที่ทำให้ผู้โดยสารรถไฟฟ้ายินดีปรีดากันทั่วหน้า นั่นคือมีการเสนอข่าวว่ารัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคมจะลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 15 บาทตลอดสาย แต่ข้อเท็จจริงที่ รมว.คมนาคมให้สัมภาษณ์และที่จะดำเนินการต่อไปนั้นจะเป็นอย่างไร จะต้องติดตามกันต่อไปว่าจะลดเหลือ 15 บาทหรือไม่ และจะลดตลอดสายหรือไม่
หากย้อนอดีตดูความต้องการที่จะลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าของรัฐบาลที่ผ่านมาด้วยความหวังดีที่จะลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสารรถไฟฟ้า พบว่า ในปี พ.ศ.2548 รัฐบาลภายใต้การนำของนายทักษิณ ชินวัตร นายกรัฐมนตรีในขณะนั้นมีความประสงค์ที่จะลดค่าโดยสารลดไฟฟ้าเหลือ 15 บาทตลอดสาย ด้วยการใช้วิธีการซื้อสัมปทานคืนจากบริษัทผู้รับสัมปทานซึ่งมีอยู่ 2 ราย ประกอบด้วย (1) บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีทีเอส ซึ่งรับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีเขียว ช่วงหมอชิต-อ่อนนุช และช่วงสนามกีฬาแห่งชาติ-สะพานตากสิน ระยะทางรวม 23.5 กิโลเมตร และ (2) บริษัท ทางด่วนและรถไฟฟ้ากรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือบีอีเอ็ม ซึ่งรับสัมปทานรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงิน ช่วงหัวลำโพง-บางซื่อ ระยะทาง 20 กิโลเมตร
หากรัฐบาลทักษิณสามารถซื้อสัมปทานคืนได้สำเร็จ จะทำให้โครงข่ายรถไฟฟ้าในขณะนั้นซึ่งมีระยะทางรวม 43.5 กิโลเมตร เป็นของรัฐบาล การกำหนดอัตราค่าโดยสารให้เหมาะสมหรือไม่แพงก็จะสามารถทำได้โดยง่าย แต่สุดท้ายรัฐบาลทักษิณก็ไม่สามารถซื้อสัมปทานคืนได้ จึงไม่สามารถลดค่าโดยสารให้เหลือ 15 บาทตลอดสายได้
ต่อมาในช่วงรณรงค์หาเสียงเลือกตั้งสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่มีขึ้นในวันที่ 3 กรกฎาคม 2554 ซึ่งขณะนั้นมีรถไฟฟ้าให้บริการเป็นระยะทางรวมประมาณ 80 กิโลเมตร พรรคเพื่อไทยภายใต้การนำของนางสาวยิ่งลักษณ์ ชินวัตร ได้ติดป้ายหาเสียงทั่วกรุงเทพฯ คุยว่าจะเก็บค่าโดยสารรถไฟฟ้า 20 บาทตลอดสาย โดยไม่ได้บอกว่าจะต้องรอให้ก่อสร้างรถไฟฟ้า 10 สายเสร็จก่อน ประชาชนคนทั่วไปต่างตั้งความหวังว่าจะสามารถใช้รถไฟฟ้าด้วยราคา 20 บาทตลอดสายได้ทันทีหลังจากพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล แต่หลังจากพรรคเพื่อไทยได้เป็นรัฐบาลแล้ว กลับบอกว่าจะลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 20 บาทตลอดสายได้ก็ต่อเมื่อสร้างรถไฟฟ้าเสร็จครบ 10 สาย ทำให้ประชาชนคนกรุงเทพฯ ต้องพบกับความผิดหวังอีกเป็นครั้งที่ 2 ที่จะใช้รถไฟฟ้าในราคาไม่แพง
มาถึงรัฐบาลปัจจุบันภายใต้การนำของพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ซึ่งขณะนี้มีรถไฟฟ้าให้บริการเป็นระยะทางรวมประมาณ 130 กิโลเมตร หากหวังที่จะลดค่าโดยสารเหลือ 15 บาทตลอดสาย คงเป็นไปได้ยาก เพราะจะต้องจ่ายเงินชดเชยให้ผู้รับสัมปทานซึ่งจะต้องสูญเสียรายได้เป็นเงินจำนวนมากจากการลดค่าโดยสาร เช่นบีทีเอสซึ่งมีผู้โดยสารประมาณวันละ 8 แสนคน มีค่าโดยสารเฉลี่ยคนละ 28 บาท หากลดค่าโดยสารเหลือ 15 บาทตลอดสาย รัฐบาลจะต้องชดเชยเงินให้บีทีเอส 13 บาทต่อผู้โดยสาร 1 คน (28-15) คิดเป็นเงินชดเชยวันละประมาณ 10.4 ล้านบาท (13 x 800,000) หรือปีละเกือบ 4 พันล้านบาท ยังไม่รวมเงินชดเชยที่จะต้องจ่ายให้กับบีอีเอ็มผู้รับสัมปทานรถไฟฟ้าเอ็มอาร์ทีอีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ หากท่านนายกฯประยุทธ์ ต้องการที่จะช่วยลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้โดยสารรถไฟฟ้าและต้องการที่จะทำให้มีผู้โดยสารรถไฟฟ้าเพิ่มขึ้นเป็นผลสำเร็จ ผมขอเสนอให้ลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 15 บาทตลอดสาย เฉพาะเส้นทางที่รัฐบาลลงทุนเองทั้งหมด 100% ตามที่ผมได้เคยเสนอให้เป็นนโยบายของพรรคประชาธิปัตย์ในช่วงหาเสียงเลือกตั้งที่มีขึ้นในวันที่ 24 มีนาคม 2562 ที่ผ่านมา ดังตัวอย่างต่อไปนี้
1. รถไฟฟ้าสายสีม่วง ช่วงคลองบางไผ่ (บางใหญ่)-เตาปูน ปัจจุบันค่าโดยสารอยู่ระหว่าง 14-42 บาท ขึ้นอยู่กับระยะทาง เช่น เดินทางจากคลองบางไผ่ถึงเตาปูนจะต้องเสียค่าโดยสาร 42 บาท หากต้องการเดินทางต่อไปถึงหัวลำโพงจะต้องเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินโดยต้องเสียค่าโดยสารเพิ่มอีก 28 บาท รวมค่าโดยสารทั้งหมด 70 บาท (42+28) แต่ถ้าลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีม่วงเหลือ 15 บาทตลอดสาย จะทำให้ค่าโดยสารจากคลองบางไผ่ถึงหัวลำโพงลดลงเหลือ 43 บาท (15+28)
2. รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายเหนือ ช่วงหมอชิต-คูคต หากต้องการเดินทางจากคูคตถึงสยาม ตามอัตราค่าโดยสารในปัจจุบันจะต้องเสียค่าโดยสาร 105 บาท แต่ถ้าลดค่าโดยสารช่วงคูคต-หมอชิต เหลือ 15 บาทตลอดสาย จะทำให้ค่าโดยสารลดลงเหลือ 59 บาท (15+44)
3. รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายใต้ ช่วงแบริ่ง-เคหะสมุทรปราการ หากต้องการเดินทางจากเคหะฯถึงสยาม ตามอัตราค่าโดยสารในปัจจุบันจะต้องเสียค่าโดยสาร 99 บาท แต่ถ้าลดค่าโดยสารช่วงเคหะฯ-อ่อนนุช เหลือ 15 บาทตลอดสาย จะทำให้ค่าโดยสารลดลงเหลือ 59 บาท (15+44)
อนึ่ง รถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายทั้งเหนือและใต้นั้น รัฐบาลต้องการให้บีทีเอสลงทุนค่าขบวนรถไฟฟ้า ระบบอาณัติสัญญาณ ระบบสื่อสาร และระบบตั๋ว เป็นเงินประมาณ 21,000 ล้านบาท ซึ่งผมเห็นว่ารัฐบาลควรลงทุนเองทั้งหมด จะทำให้สามารถลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยายเหลือ 15 บาทตลอดสายได้
การลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าเหลือ 15 บาทตลอดสาย จะต้องทำเฉพาะเส้นทางที่รัฐบาลลงทุนเองทั้งหมด 100 % ซึ่งส่วนใหญ่อยู่แถบชานเมืองหรือพื้นที่ที่เป็น “ไข่ขาว” และจะต้องไม่ยุ่งเกี่ยวกับเส้นทางที่ให้สัมปทานแก่เอกชนไปแล้ว ซึ่งส่วนใหญ่อยู่ในเมืองหรือพื้นที่ที่เป็น “ไข่แดง” เนื่องจากจะต้องเสียเงินชดเชยให้เอกชนจำนวนมาก
หากรัฐบาลสามารถทำได้ตามข้อเสนอแนะดังกล่าวข้างต้น จะทำให้พี่น้องประชาชนหันมาใช้รถไฟฟ้ามากขึ้น เป็นการใช้รถไฟฟ้าให้เกิดประโยชน์สูงสุด ไม่ปล่อยให้รถไฟฟ้าชานเมืองโหรงเหรง ไม่คุ้มค่ากับเงินลงทุน
หากมีผู้โดยสารถไฟฟ้ามากขึ้น จะส่งผลต่อการลดการใช้พลังงานเชื้อเพลิง ประหยัดเวลาการเดินทาง ลดอุบัติเหตุจราจร ลดมลพิษ รวมทั้งยังสามารถลดฝุ่น PM 2.5 ได้อีกด้วย พูดได้ว่าเกิดประโยชน์ทั้งผู้โดยสารรถไฟฟ้า ผู้ใช้รถใช้ถนนทั่วไป ตลอดจนถึงสิ่งแวดล้อมและประเทศชาติโดยรวม
หวังเป็นอย่างยิ่งว่ารัฐบาลประยุทธ์ จะสามารถลดค่าโดยสารรถไฟฟ้าได้สำเร็จ ไม่ทำให้พี่น้องประชาชนคนใช้รถไฟฟ้าต้องผิดหวังเป็นครั้งที่ 3 นะครับ