'มังสวิรัติ' อาหารเพื่อสุขภาพที่เติบโตต่อเนื่อง
ทุกวันนี้ มีผู้คนมากขึ้นหันมารับประทานอาหารที่ไม่มีเนื้อสัตว์ หรือ ไม่มีส่วนประกอบของเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่นเนื้อวัว เนื้อหมู และเนื้อไก่
โดยสมาคมมังสวิรัติโลก ระบุว่าปี 2561 ความนิยมรับประทานอาหารมังสวิรัติทุกประเภททั่วโลกเพิ่มขึ้นถึง 9.87 เท่าจากปีก่อน และปัจจุบัน มีชาวอเมริกันรับประทานอาหารมังสวิรัติแบบเคร่งครัดอยู่มากถึง 7.3 ล้านคน
ทั้งยังมีรายงานว่าชาวอังกฤษถึง 1 ใน 3 บริโภคเนื้อสัตว์น้อยลงและ 1 ใน 5 ประกาศตัวว่าเป็นกลุ่มผู้รับประทานอาหารมังสวิรัติแบบยืดหยุ่น หรือที่เรียกว่า “เฟล็กซิทาเรียน”(Flexitarian) คือกลุ่มที่ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ใหญ่ เช่น เนื้อวัว เนื้อหมู แต่ยังรับประทานเนื้อปลา ไก่ ผลิตภัณฑ์จากนมและไข่ต่างๆ
แนวโน้มนี้ไม่เพียงทำให้ตลาดพืชผักขยายตัวอย่างต่อเนื่องแต่ยังทำให้ตลาดอาหารที่ใช้ทดแทนเนื้อสัตว์พลอยเติบโตไปด้วย ที่สำคัญมีงานวิจัยเมื่อปี 2561 ของมหาวิทยาลัยอ็อกซ์ฟอร์ด บ่งชี้ว่า การกินมังสวิรัติ เป็นหนึ่งในวิธีลดปัญหาสิ่งแวดล้อมที่ดีที่สุด เพราะอุตสาหกรรมปศุสัตว์ทั่วโลก มีส่วนทำให้เกิดก๊าซเรือนกระจกราว 14% หรือเทียบเท่ากับการปล่อยก๊าซเรือนกระจกของภาคคมนาคมขนส่งทั้งภาค
เพราะฉะนั้นถ้ารับประทานเนื้อสัตว์น้อยลงเสียตั้งแต่วันนี้ ก็เท่ากับเรามีส่วนช่วยลดการขยายทุ่งเลี้ยงสัตว์ และเพิ่มพื้นที่ปลูกพืชที่เป็นอาหารสัตว์เพื่อรองรับประชากรโลก