RATCH - ถือ

ราคาหุ้นสะท้อนข่าวดีไปแล้ว
Event
ประชุมนักวิเคราะห์
lmpact
Navanakorn SPP (NNE) จะช่วยหนุนกำไรสุทธิใน 4Q62 โดยมี upside 1.0 บาท/หุ้น
RATCH ได้เข้าซื้อหุ้น 99.97% ใน Navanakorn Electric Company Limited (NNE) ในราคา 2 พันล้านบาท โดย NNE มีกำลังการผลิตไฟฟ้า 110MW (90MW-EGAT,20MW-IU) และไอน้ำ 10tph โดยมีสัญญา PPA 25 ปี กับ กฟผ. และเริ่ม COD มาตั้งแต่เดือนตุลาคม 2556 โรงไฟฟ้าแห่งนี้ตั้งอยู่ใกล้กับนิคมอุตสากรรมนวนคร มีอุปสงค์จากลูกค้า IU ในปัจจุบันแค่ 10MW เท่านั้น แต่ RATCH ได้หาลูกค้า IU ใหม่ที่จะเพิ่มอุปสงค์การใช้ไฟฟ้ารอไว้แล้ว ทั้งนี้ ต้องมีการลงทุน 100 ล้านบาทเพื่อเชื่อมสายส่งไฟฟ้าและท่อส่งไอน้ำไปยังนิคม ในขณะที่โรงไฟฟ้าก็ต้องมีการซ่อมบำรุงเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพ (actual heat rate สูงกว่า contracted heat rate) เราประเมินว่าโครงการนี้จะทำให้ RATCH มี upside 1.0 บาท/หุ้น โดยคาดว่าจะมีกำไรสุทธิปีละ 200 ล้านบาท นอกจากนี้ เรายังมองว่ามีโอกาสที่จะขยายกำลังการผลิตได้อีก (40-50MW) เพื่อตอบสนองอุปสงค์ของลูกค้า IU ซึ่งเรายังไม่ได้รวมไว้ในประมาณการของเรา
โครงการโรงไฟฟ้าพลังนํ้าเซเปียนเซนํ้าน้อยยังเดินหน้าตามแผน
โครงการโรงไฟฟ้าพลังน้ำเซเปียนเซน้ำน้อยกาลัํงอยู่ในเฟสของการทดสอบระบบ และเริ่มทำการผลิต ซึ่งคาดว่าจะเสร็จเรียบร้อยภายในปลายเดือนกันยายน 2562 หรือต้นเดือนตุลาคม 2562 โดยตั้งเป้า COD ในเดือนธันวาคม 2562 ซึ่งภายในสิ้นปีนี้ โครงการนี้ก็จะมีระดับน้ำเพียงพอสำหรับการดำเนินงานปีหน้า (70% ของกำลังการผลิต) โดยระดับน้ำในปัจจุบันอยู่ที่ 30% ของกำลังการผลิต ทั้งนี้ บริษัทยังอยู่ระหว่างการเจรจากับรัฐบาลลาว บริษัทประกัน ผู้รับเหมางาน EPC และกิจการร่วมค้าในเรื่องค่าชดเชยอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นที่เขื่อน เราได้รวมโครงการนี้เข้าไปในประมาณการเราแล้ว
ตั้งเป้าเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 10,000 MWe ภายในปี 2566
RATCH ตั้งเป้าจะเพิ่มกำลังการผลิตไฟฟ้าเป็น 10,000MWe ภายในปี 2563 จากปัจจุบันที่ 6,937MWe ซึ่งหมายความว่าบริษัทจะต้องเพิ่มกำลังการผลิตใหม่ให้ได้ปีละประมาณ 700MWe โดยจะมาจากโครงการในต่างประเทศ ซึ่งอาจเป็นได้ทั้งพลังงานหมุนเวียน หรือ โรงไฟฟ้าแบบ conventional โดยอาจมาจากการเข้าซื้อกิจการ หรือการพัฒนาโครงการแบบ green field ก็ได้ ในขณะที่เรามองว่าโอกาสในการขยายกำลังการผลิตในประเทศมีจำกัด แต่อย่างไรก็ตาม RATCH ได้กระจายความเสี่ยงด้วยการขยายการลงทุน
เข้าไปในกิจการโครงสร้างพื้นฐานอย่างเช่น รถไฟฟ้า MRT (สายสีชมพูและเหลือง) และโครงการ Motorway O&M
Valuation & Action
เราปรับเพิ่มราคาเป้าหมายกลางปี 2563 เป็น 76.50 บาท จากเดิม 73.00 บาท โดยได้รวมมูลค่าของการเข้าซื้อ NNE ที่ 1 บาท/หุ้น และสะท้อนการปรับ risk-free rate จาก 3.7% เป็น 3.1% อย่างไรก็ตาม เนื่องจากเหลือ upside ถึงราคาเป้าหมายของเราอีกแค่นิดเดียวเท่านั้น เราจึงปรับลดคำแนะนำหุ้น RATCH จาก ซื้อ เป็น ถือ เพราะเราเชื่อว่าราคาหุ้นได้สะท้อนผลดีจากการเข้าซื้อกิจการ (โครงการพลังงานลม Yandin,NNE) และ IPP ภาคตะวันตก (1,400MW) ไปเรียบร้อยแล้ว
Risks
ความล่าช้าในการจัดสรรกำลังการผลิตใหม่, การเปลี่ยนแปลงกฎเกณฑ์ของทางการ, โรงไฟฟ้าหยุดผลิตไฟฟ้า, และความล่าช้าในการก่อสร้างโครงการใหม่