'ธนินท์' จี้รัฐร่วมเสี่ยงลงทุนไฮสปีด 3 สนามบิน
เจ้าสัว “ธนินท์” ย้ำลงทุนรถไฮสปีดมีความเสี่ยง จี้รัฐต้องร่วมเสี่ยงด้วย อย่าโยนให้เอกชนอย่างเดียว
นายธนินท์ เจียรวนนท์ ประธานอาวุโสเครือเจริญโภคภัณฑ์ (ซีพี) กล่าวในงานเปิดตัวหนังสือ “ความสำเร็จ ดีใจได้วันเดียว” ว่า ในยุค 4.0 ซึ่งโลกมีการเปลี่ยนแปลงตลอดเวลา การลงทุนก็จำเป็นต้องมีอยู่ และต้องคำนึงถึงความเสี่ยง
นายธนินท์ กล่าวว่า การลงทุนในรถไฟฟ้าความเร็วสูงเชื่อม3 สนามบิน มีความเสี่ยงแต่ก็มีโอกาสสำเร็จ ถ้ารัฐบาลเข้าใจ เพราะเป็นเรื่องของรัฐบาล เป็นเรื่องเศรษฐกิจแท้ๆ ไม่ใช่เรื่องของประชาชน การทำ PPP รัฐบาลต้องร่วมกับเอกชน เอาจุดเด่นของเอกชนมาบวกรวมกัน มาลดจุดอ่อนของรัฐบาล แต่ TOR ไม่ใช่
"รัฐบาลต้องพร้อมร่วมรับผิดกับเอกชน ถ้าเสี่ยงก็ต้องเสี่ยงด้วยกัน ถ้าล้มก็ต้องล้มด้วยกัน ไม่ใช่ปล่อยให้เอกชนเสี่ยง รัฐบาลไม่เสี่ยงเรื่องนี้" นายธนินท์ กล่าว และว่า "เรื่องนี้เป็นเรื่องใหญ่ของประเทศ ยุคนี้ต้องเร็ว การเชื่อมต่อ 3 สนามบิน จะทำให้คนอยู่ระยอง เดินทางมากรุงเทพฯได้ในระยะเวลาแค่ 45 นาที ซึ่งในหลายประเทศทำแล้ว เช่นจีน ต่อไปทุกอย่างต้องรวดเร็ว"
ทั้งนี้ ไฮสปีด 3 สนามบิน เป็นโครงการร่วมลงทุนระหว่างรัฐและเอกชน หรือ PPP โดยรัฐบาลจะอุดหนุนเงินลงทุนให้แก่เอกชนในวงเงินไม่เกิน 1.19 แสนล้านบาท ขณะที่เครือซีพีผู้ชนะประมูลแต่ยังไม่มีการเซ็นสัญญา เสนอขอเงินอุดหนุนจากรัฐเพียง 1.17 แสนล้านบาท น้อยกว่ากลุ่มบีเอสอาร์ที่เป็นคู่แข่งถึง 5 หมื่นล้านบาท
นายธนินท์ กล่าวว่า วันนี้ถ้าอีอีซีไม่เกิด เรากำลังถดถอย เพราะเขาจะย้ายฐานไปลงทุนในเวียดนาม อินโดนีเซีย รถยนต์วันนี้ถึงจุดเปลี่ยนแปลง จากอดีตที่เรายิ่งใหญ่สุดในอาเซียน แต่วันนี้กำลังจะเปลี่ยนไป เป็นรถไฟฟ้า ทุกบริษัทหันไปผลิตรถไฟฟ้า ก็จะหาแหล่งผลิต แต่ไทยยังทำแบบเดิมต่อไปอีก 10 ปี ไม่ลงทุนใหม่ ทำไปขายไป แต่รถไฟฟ้าย้ายฐานผลิตไปลงอินโดนีเซียซึ่งมีประชากรกว่า 300 ล้านคน เวียดนามกว่า 100 ล้านคน ตลาดเขาก็โต ถ้าเราไม่ให้เขาย้ายก็ต้องให้สิทธิประโยชน์กับเขา