‘อังกฤษตรางู’ผงาดโกลบอลแบรนด์ ชูธงนวัตกรรม'สินค้าความเย็น'

ในยุคที่ 4 ของ “กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู” องค์กรข้ามศตวรรษ อายุ 127 ปี เจ้าของ “ตรางู” ภายใต้การกุมบังเหียนของ อนุรุธ ว่องวานิช ประธานกรรมการบริหาร กลุ่มบริษัทอังกฤษตรางู ชูธง “การตลาดนำ” เคลื่อนทัพธุรกิจไปพร้อมกับการทำตัวเองให้ทันสมัย (Modernize)

อนุรุธ กล่าวว่า อังกฤษตรางูมุ่งขยายธุรกิจอย่างต่อเนื่อง พร้อมก้าวสู่ Regional Player อย่างเต็มตัวสานเป้าหมายโกลบอลแบรนด์!! ปูทางองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน

เส้นทางธุุรกิจอังกฤษตรางูผ่านการเปลี่ยนแปลงมาหลายยุค นับจากปี 2471 หมอล้วน ว่องวานิช ได้ซื้อกิจการห้างขายยาอังกฤษตรางู มีตำนานของแบรนด์ว่า ในครั้งอดีตนั้น “นายบริสเบน” ซึ่งมีอาชีพทนายความได้มาหาหมอเนื่องจากเป็นผดผื่นคัน หมอล้วนให้คาราไมล์ไปทาก็ไม่หาย และมีคนไข้อีกหลายคนที่มีอาการเดียวกัน หมอล้วนจึงคิดสูตรแป้งเย็นเฉพาะของตรางูขึ้นมา โดยมีส่วนผสมของแป้ง การบูร และเมนทอล ปรากฎว่าได้ผลดี ผดผื่นคันหาย และยังเย็นสบายตัวอีกด้วย

สรรพคุณ ของแป้งเย็นตรางูจึงเป็นที่เลื่องลือกันปากต่อปาก จนได้รับความนิยมเพิ่มมากขึ้นทั้งในประเทศและต่างประเทศ ตรางูเป็นแป้งเย็นรายแรกของโลก เป็นที่มาของชื่อ“ปริกลี่ฮีท (Prickly Heat)ที่แปลว่า ผดผื่นคันอันเกิดจากอากาศร้อน ซึ่งได้รับความนิยมโดยเฉพาะในกลุ่มลูกค้าต่างประเทศ

สะท้อนจากสถิติการขายสินค้าที่ แป้งเย็นตรางู เป็น 1ใน 10 อันดับสินค้าที่นักท่องเที่ยวชาวจีนต้องซื้อกลับบ้าน แม้แต่บนโลกโซเชียลปีในปีที่ผ่านมา ได้เกิดเป็นไวรัลคลิปประสบการณ์สุดฟินของนักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวในเมืองไทยแล้วได้ลองใช้แป้งเย็นตรางูเป็นครั้งแรกในชีวิต ต่างบอกเป็นเสียงเดียวกันว่าเย็นสะใจ!! และช่วยให้พวกเขาได้คลายร้อนได้บ้างขณะท่องเที่ยวในไทย

อนุรุธ กล่าวว่า กุญแจแห่งความสำเร็จที่ลูกค้ายอมรับในแบรนด์และผลิตภัณฑ์ “ตรางู” เกิดจาก 3 ปัจจัยสำคัญ ได้แก่ “คุณภาผลิตภัณฑ์” ที่ตอบโจทย์ความต้องการในเรื่องช่วยทำให้เกิดความเย็นสบาย “เป็นแบรนด์ที่มีเอกลักษณ์” มาต่อเนื่องยาวนาน มีความคลาสสิคโดยเฉพาะแป้งเย็นตรางู ซึ่งเป็นผลิตภัณฑ์บรรจุในกระป๋องเหล็ก มีตราสัญลักษณ์รูปงู และดอกกุหลาบบนล่าง และ “เป็นแบรนด์ที่ผูกพันธ์กับผู้บริโภคคนไทย” มาต่อเนื่องตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบัน

กระทั่งบิ๊กเชนจ์!! เมื่อ 5 ปีก่อน จากปัญหาทั้งเชิงโปรดักท์ของ “แป้ง” พบว่าพฤติกรรมผู้บริโภคคนรุ่นใหม่ ไม่นิยมใช้แป้งหรือใช้น้อยลง ต่างจากแชมพู สบู่ ยาสระผม ที่ยังไม่มีผลิตภัณฑ์ทดแทนได้มากนัก ขณะเดียวกันภาวะที่โลกร้อนขึ้น!! เป็นจุดพลิกมองเห็นโอกาสและเปิดโลกของการพัฒนาตลาดใหม่ผ่านการขยายไลน์เข้าสู่ “สินค้าเกี่ยวกับความเย็น” เป็นโจทย์ตั้ง

นำสู่การแจ้งเกิดวิชั่น เจ้าของผลิตภัณฑ์ความเย็น!! เป็นกรอบพัฒนานวัตกรรมโปรดักท์ความเย็น ที่มุ่ง Modernize ตัวเองต่อยอดความ "คลาสสิค" และ" ยูนีค” ของแบรนด์ตรางูออกสู่ตลาด ภายใต้สินค้าดูแลร่างกายที่มีจุดขายด้านความเย็น เช่น ผ้าเย็น สเปรย์เย็น เจลอาบน้ำ สร้างความแตกต่างจากคู่แข่งในสมรภูมิ “แป้ง” อย่างชัดเจน

ปีนี้ตรางูยังได้ออกนวัตกรรมใหม่ “ทิชชู่เย็น” มีจุดเด่นในการเช็ดแล้วเย็นทันทีและเย็นนานถึง 30 นาที ซึ่งเหมาะกับสภาพอากาศร้อนของประเทศไทย สามารถใช้ได้ทุกโอกาส โดยเฉพาะไลฟ์สไตล์ของคนรุ่นใหม่ที่ชื่นชอบการปั่นจักรยาน วิ่งมาราธอน การออกกำลังกาย

อากาศยิ่งร้อน ยิ่งเป็นโอกาสของแบรนด์ความเย็นตรางู!! ล่าสุด ส่งเรือธง 3 สินค้าใหม่ อโรม่า ออย, อโรม่า เจล และ คูลลิ่ง มิสท์ ตอบโจทย์ในการบำบัดความเครียด จากอากาศร้อน ให้ความรู้สึก สดชื่น ผ่อนคลาย เย็น สบายตัว และจิตใจ

สินค้าดีเอ็นเอความเย็นเหล่านี้พร้อมขยายตลาดทั้งในและต่างประเทศ มุ่งหน้าอาเซียน โดยเฉพาะซีแอลเอ็มวี (กัมพูชา ลาว เมียนมา เวียดนาม) รวมทั้ง จีน อินเดีย ซึ่งเป็นตลาดขนาดใหญ่มีศักยภาพสูงในการเติบโตจากฐานประชากรจำนวนมาก!!

แบรนด์ตรางู ยังคว้ารางวัลสุดยอดแบรนด์แห่งปี 2562 จาก Superbrands Thailand ด้านผลิตภัณฑ์สูตรเย็นซึ่งเป็นที่จดจำของผู้บริโภค เมื่อนึกถึงผลิตภัณฑ์สูตรเย็น ที่ผ่านการคัดเลือกจากผู้บริโภคและผู้เชี่ยวชาญด้านการสร้างแบรนด์กว่า 20,000 คน

-------------------------

จากอังกฤษตรางูสู่ BDG

เครื่องหมายการค้าของบริษัทเป็นรูป “งูมีลูกศรปัก” มีความหมายว่า “งูเป็นอสรพิษ” เปรียบเสมือนโรคภัยไข้เจ็บ ส่วน “ลูกศร” เปรียบเสมือนยารักษาโรค สัญลักษณ์ “งูมีลูกศรปัก” จึงเป็นสัญลักษณ์ของคุณภาพ หากมีเครื่องหมายนี้บนสินค้า แสดงว่าสินค้านั้นๆ มีคุณภาพดี

การเติบโตของธุรกิจที่ขยายเข้าไปในเซ็กเมนท์และตลาดใหม่ๆ มากขึ้น จึงได้พัฒนาสัญลักษณ์ดังกล่าวให้มีความเป็นสากลและทันสมัย ดังนั้น ตราสัญลักษณ์จึงมี 2 ส่วนอยู่ด้วยกันคือ “งู” และ “British Dispensary Group”

ทั้งนี้โลโก้ของธุรกิจทั้งหมดจะเป็นสัญลักษณ์ “งู” และ “British Dispensary Group” ซึ่งรูปงูจะอยู่ในฟอร์มของสัญลักษณ์ “Infinity” ที่แสดงให้เห็นถึงการพัฒนาที่ไม่สิ้นสุดของ BDG โดยใช้สีฟ้าเข้มเป็นตัวแทนสุขภาพและความงาม