เปิด '5 กองทุน' ผลตอบแทนสูง

นางสาวชญานี จึงมานนท์ นักวิเคราะห์กองทุน ประจำประเทศไทย บริษัท มอร์นิ่งสตาร์ รีเสิร์ซ(ประเทศไทย) เปิดเผยว่ ภาพรวมอุตสาหกรรมกองทุนรวมไทยในไตรมาส 3 ปี2562 มีมูลค่าทรัพย์สินสุทธิ(AUM) ที่ 5.3 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.5% จากสิ้นปี2561 มีเงินไหลออกสุทธิ 1.1 หมื่นล้านบาท ทำให้ในรอบ 9 เดือนแรกของปีนี้ มีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 8.3 หมื่นล้านบาท

กองทุนรวมที่ได้รับความนิยมสูงสุด คือ กองทุนตราสารหนี้ มีเม็ดเงินไหลเข้าสุทธิ 3.7 หมื่นล้านบาท และกองทุนรวมตราสารทุน เงินไหลเข้าสุทธิ 6.9 พันล้านบาท ขณะที่กองทุนสินค้าโภคภัณฑ์ เช่น ทองคำ หรือน้ำมัน มีเงินไหลออก1.7พันล้านบาท และกองทุนรวมตลาด เงินมีเงินไหล189 ล้านบาท

ในส่วนกองทุนหุ้นไทย (ไม่รวม LTF, RMF)มูลค่าทรัพย์สินสุทธิรวม 2.9 แสนล้านบาท ลดลง 1.2% จากสิ้นปี 2561 โดยในไตรมาส 3 มีเงินไหลเข้าสุทธิรวม 501 ล้านบาท แต่ในรอบ 9 เดือนยังเป็นเงินไหลออกสุทธิรวม1.8 หมื่นล้านบาท  เนื่องจากไตรมาส 3 มีปัจจัยเชิงลบกระทบต่อการลงทุน ทั้งเศรษฐกิจชะลอตัว สงครามการค้าที่ยืดเยื้อ ธนาคารกลางสหรัฐปรับลดดอกเบี้ยเป็นครั้งแรกในรอบ 10 ปี

 สำหรับกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) สิ้นไตรมาส 3 มีมูลค่าทรัพย์สินรวม 3.9 แสนล้านบาท เพิ่มขึ้น 1.6% จากสิ้นปี 2561 มีเงินไหลเข้า 2.6 พันล้านบาท แต่ในช่วง 9 เดือนมีเงินไหลออกสุทธิ1.1 หมื่นล้านบาท ถือว่าเป็นทิศทางเงินไหลเข้าช้ากว่าปีก่อนหน้า ทั้งนี้เกิดจากกระแสเงินไหลออกสุทธิในช่วงเดือนมิ.ย.และก.ค.ของปีนี้รวมมากกว่า 9 พันล้านบาท ซึ่งค่อนข้างสูงหากเทียบกับในอดีต

ทางด้านผลตอบแทนเฉลี่ยของกองทุนรวมประเภทต่างๆนั้น   แม้ว่าการลงทุนในไตรมาส 3 อาจมีผลตอบแทนในบางกลุ่มกองทุนลดลงไปบ้าง แต่ผลตอบแทนเฉลี่ยสะสมตั้งแต่ต้นปีจนถึงปัจจุบัน (YTD) ในเกือบทุกกลุ่มกองทุนยังเป็นบวก นำโดยกลุ่ม Property Indirect ผลตอบแทนเฉลี่ยอยู่ที่ 28.0% ตามมาด้วยกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ต่างประเทศ 19.4% นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มกองทุนตราสารทุนอื่น ๆ ที่มีผลตอบแทนเฉลี่ยโดดเด่น เช่น Global Infrastructure 17.8%, Europe Equity 16.7%, Global Technology 15.9%

ส่วนกองทุนรวมตราสารหนี้ต่างประเทศ ส่วนใหญ่ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงกว่ากองทุนตราสารหนี้ไทย  นำโดยกลุ่ม Emerging Market Bond ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดในรอบ 1 ปี 7.5% ตามมาด้วยกองทุน Global High Yield Bond Fix Term และ Global Bond ที่ 5.2% และ 4.7% ตามลำดับ 

กลุ่ม High Yield Bond Fix Term ให้ผลตอบแทนเฉลี่ยสูงสุดสำหรับกองทุนตราสารหนี้ไทย 3.9% โดยเป็นไปตามความเสี่ยงที่มากกว่า รองลงมาเป็นกลุ่มตราสารหนี้ระยะกลาง-ยาว (Mid/Long Term Bond) 3.4%

ฝั่งกลุ่มกองทุนหุ้นไทย กลุ่มหุ้นขนาดใหญ่และขนาดกลาง-เล็ก มีผลตอบแทนเฉลี่ยที่ 5.6% และ 7.4% ตามลำดับ (SET TR 7.6%) แต่หากพิจารณาผลตอบแทนรอบ 1 ปีที่ผ่านมาพบว่าทั้งสองกลุ่มยังมีผลตอบแทนเฉลี่ยติดลบมากกว่า SET TR ซึ่งมีผลตอบแทนอยู่ที่ 3.9%