"เน็กซัส"ชี้สำนักงานเกรดเอผุด13โครงการ2ปี

นายธีระวิทย์ ลิ้มทองสกุล กรรมการผู้จัดการ บริษัท เน็กซัส เรียลเอสเตท แอทไวซอรี่ จำกัด กล่าวว่า ในอดีตจนถึงไตรมาส 3 ของปี 2561 กรุงเทพฯ ชั้นในและชั้นกลาง มีพื้นที่สำนักงานเกรดเอ ประมาณ 2.34 ล้านตารางเมตร และนับตั้งแต่ไตรมาส 3 ของปี 2561 จนถึงปัจจุบัน มีอาคารสำนักงานเกรดเอใหม่ ทยอยเปิดตัวเพิ่มขึ้นอีก 5 อาคาร หรือคิดเป็นพื้นที่เช่าเกือบ 200,000 ตารางเมตร เพิ่มขึ้นเกือบ 10% จากปีก่อน และจะยังทยอยเปิดเพิ่มอย่างต่อเนื่องอีก 13 อาคาร ใน 2 ปีข้างหน้า หรือคิดเป็นพื้นที่เช่าเกือบ 350,000 ตารางเมตร ทำให้ตลาดมีการแข่งขันสูงขึ้นอีก 

โดยอาคารสำนักงานเกรดเอที่เปิดตัวไปในรอบปีที่ผ่านมา (ต.ค.2561-ก.ย.2562) มีทั้งสิ้น 5 อาคาร ได้แก่ สิงห์ คอมเพล็กซ์, 101 แอท ทรู ดิจิทัล พาร์ค, ที-วัน, เอ็มเอส สยาม และสามย่านมิตรทาวน์ การเปิดตัวของทั้ง 5 โครงการ นับเป็นอาคารสำนักงานที่เข้ามาเติมเต็มความต้องการของผู้เช่า ทั้งเรื่องการเดินทาง และไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน เนื่องจากทุกโครงการล้วนตั้งอยู่บนสุดยอดของทำเลที่เป็นไข่แดง และศูนย์กลางแหล่งธุรกิจของกรุงเทพฯ แทบทั้งสิ้น อีกทั้งหลายอาคารยังเชื่อมต่อไปยังสถานีรถไฟฟ้า BTS/MRT

ทั้งนี้การเพิ่มขึ้นของซัพพลายใหม่ ไม่ส่งผลต่อตลาดมากนัก โดยอัตราการเช่าลดลงเพียง 1% จาก 96% ในปีที่แล้ว เหลืออยู่ที่ 95% ในไตรมาสนี้ นั่นหมายความว่าความต้องการอาคารสำนักงานเกรดเอ ยังคงมีอยู่มาก และในส่วนของราคาค่าเช่าเฉลี่ยขยับขึ้นถึง 7% มาอยู่ที่ 1,025 บาท/ ตารางเมตร /เดือน จากเดิมอยู่ที่ 960 บาท/ ตารางเมตร/ เดือน เมื่อเทียบกับช่วงเวลาเดียวกันของปีที่แล้ว

ในอีก 2 ปีข้างหน้า คาดว่าจะมีอาคารสำนักเกรดเอสร้างเสร็จและพร้อมเปิดใช้งานได้อีก 10 - 13 อาคาร อาทิ เดอะ พาร์ค (The PARQ), สีลม เซ็นเตอร์ (Silom Center), สยาม สเคป (Siam Scape) และ โอ-เนส ทาวเวอร์ (O-NES Tower) ซึ่งอาคารเหล่านี้จะทำให้มีพื้นที่เช่าเข้ามาในตลาดเพิ่มขึ้นอีกเกือบ 350,000 ตารางเมตร โดยคาดว่าพื้นที่เช่าอาคารสำนักงานเกรด A จะเพิ่มมากขึ้นถึง 1,000,000 ตารางเมตร ในอีก 5 ปีข้างหน้า

“จากข้อมูลทั้งหมดที่ทำการสำรวจมาสรุปได้ว่า ตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอในกรุงเทพฯ ยังมีความต้องการอีกมาก การเข้ามาของซัพพลายใหม่ๆ ทำให้ตลาดมีสีสันมากยิ่งขึ้น หลังจากที่ตลาดอาคารสำนักงานให้เช่าเกรดเอ มีอยู่อย่างจำกัดมากว่า 20 ปีแล้ว การเปิดอาคารสำนักงานเพิ่มมากขึ้นทำให้ผู้เช่ามีทางเลือกมากยิ่งขึ้น ทั้งทางเลือกด้านทำเล สิ่งอำนวยความสะดวก รวมไปถึงการให้บริการภายในอาคาร และยิ่งส่งผลดีอย่างมากกับกลุ่มผู้เช่าที่เป็นต่างชาติ (Multi-National Corporation หรือ MNC) เนื่องจากลูกค้ากลุ่มนี้ เป็นบริษัทข้ามชาติที่เข้ามาในไทย ซึ่งต้องคำนึงถึงภาพลักษณ์ที่ดีขององค์กร การเช่าอาคารสำนักงานเกรด A ใหม่ๆ ที่สวยงาม อยู่บนทำเลทอง จะเป็นการเสริมภาพลักษณ์ที่ดีให้กับลูกค้าหรือคู่ค้าของบริษัทนั้นๆ ได้เป็นอย่างดี การเพิ่มขึ้นของซัพพลายใหม่อย่างรวดเร็วนี้ ส่งผลให้ตลาดตื่นตัวมากขึ้นและทำให้เจ้าของอาคารเดิม ต้องหันมาใส่ใจกับอาคารของตนเองให้มาก ซึ่งก็ถือเป็นกำไรของผู้บริโภคนั่นเอง” นายธีระวิทย์ กล่าว