กฟผ.เล็งขายไฟ 'กัมพูชา-เมียนมา' 500 เมกกะวัตต์

กฟผ.เล็งขายไฟ 'กัมพูชา-เมียนมา' 500 เมกกะวัตต์

กฟผ.เร่งศึกษาเจรจาซื้อขายไฟฟ้าตามกรอบทวิภาคี ไทย-กัมพูชา และไทย-เมียนมา คาดไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์ ลุ้นปิดดีลแรกกัมพูชา

นายพัฒนา แสงศรีโรจน์ รองผู้ว่าการยุทธศาสตร์ ในฐานะโฆษกการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เปิดเผยว่า กฟผ.ได้รับมอบนโยบายจากนายสนธิรัตน์ สนธิจิรวงศ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ให้นำไฟฟ้าที่ผลิตได้จากในประเทศไทยไปขายให้กับประเทศเพื่อนบ้าน

โดยขณะนี้ กฟผ. อยู่ระหว่างการเจรจาดำเนินการในรูปแบบการซื้อขายพลังงาน (Energy Trading) กับ กัมพูชา และเมียนมา เบื้องต้น คาดว่า จะมีปริมาณซื้อขายไฟฟ้าจากทั้ง 2 ประเทศไม่ต่ำกว่า 500 เมกะวัตต์

“การขายไฟน่าจะดำเนินการได้ก่อนปี 2565 ซึ่งการซื้อขายไฟฟ้าในรูปแบบการซื้อขายพลังงาน(Energy Trading) ที่ กฟผ.จะดำเนินการนั้น จะเป็นลักษณะการซื้อขายระหว่างประเทศกับประเทศ ภายใต้กรอบทวิภาคี(Bilateral) ซึ่งต่างจากกรอบข้อตกลงของอาเซียน เรื่องการเชื่อมโยงระบบไฟฟ้าในอาเซียน (ASEAN Power Grid) ซึ่งจะเป็นลักษณะการซื้อขายไฟฟ้ากันโดยที่มีประเทศไทยเป็นศูนย์กลางส่งผ่านไฟฟ้าไปยังแต่ละประเทศ”นายพัฒนา กล่าว

อย่างไรก็ตาม หากมีนโยบายให้ดำเนินโครงการโรงไฟฟ้าชุมชน ประมาณ 500-1,000 เมกะวัตต์ ในขณะที่ไทย สามารถเจรจาขายไฟฟ้าให้เพื่อนบ้านได้ราว 500 เมกะวัตต์ ก็จะไม่ส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าหลักของประเทศทั้งนี้

สำหรับการประชุม “รัฐมนตรีอาเซียนด้านพลังงาน (AMEM) ครั้งที่ 37 เมื่อวันที่ 5ก.ย. 2562 ที่ประเทศไทยเป็นเจ้าภาพได้มีการหารือแบบทวิภาคีระหว่างไทยและเมียนมา โดยประเด็นหารือหลักคือทั้ง 2 ประเทศ ต้องการสนองนโยบายของอาเซียนกริด ซึ่งทางเมียนมาเสนอให้มีการขายไฟฟ้าเข้าสู่เมียนมา เพื่อป้อนความต้องการใช้ไฟฟ้าที่จะเติบโตขึ้น

หลังจากที่ทางเมียนมามีแผนจะขยายพื้นที่การใช้ไฟฟ้าให้ครอบคลุมการเติบโตของเศรษฐกิจมากขึ้น จากปัจจุบันดำเนินการได้เพียง 50% ของความต้องการใช้ไฟฟ้า ส่วนการหารือแบบทวิภาคีระหว่างไทยกับกัมพูชาได้มีข้อเสนอจะขายไฟฟ้าให้กับกัมพูชา ที่จะมีปัญหาขาดแคลนไฟฟ้าในช่วงปี 2565 เป็นต้นไป

อ่านข่าวที่เกี่ยวข้อง

-กฟผ.เตรียมวางแผนปิดเหมืองถ่านหินแม่เมาะ

-กฟผ.นำเข้า LNG แบบตลาดจร ไม่เกิน 200000 ตัน

-“กุลิศ”ว่าที่ประธานบอร์ดกฟผ.เล็งชงตั้งบริษัทเทรดดิ้ง

-ฟผ.ซื้อปาล์มไปเผา เอื้อประโยชน์ใคร?

-จิตอาสา กฟผ. Kick off ฟื้นฟูพื้นที่ประสบอุทกภัย