MACO โชว์รายได้ Q3/62 พุ่งขึ้น 54%
"มาสเตอร์ แอด" แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 3/62 รายได้เติบโต 54% คิดเป็น 748 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน หนุนผลงาน 9 เดือนบริษัทมีพัฒนาการรายได้จากการบริหารงานตามกลยุทธ์ถึง 2,147 ล้านบาท
บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO แจ้งผลดำเนินงานไตรมาส 3/2562 รายได้เติบโต 54% คิดเป็น 748 ล้านบาท เมื่อเทียบกับปีก่อน หนุนผลงาน 9 เดือนบริษัทมีพัฒนาการรายได้จากการบริหารงานตามกลยุทธ์ถึง 2,147 ล้านบาท ผลจากรายได้การบริการสื่อโฆษณาที่เพิ่มขึ้น 68.9% คิดเป็นมูลค่า 415 ล้านบาท และรายได้การให้บริการงานด้านการให้บริการด้านระบบครบวงจรเพิ่มขึ้น 38.7% คิดเป็นมูลค่า 333 ล้านบาท เมื่อเทียบจากปีก่อน โดย 9 เดือนบริษัทสามารถทำกำไรสุทธิได้อยู่ที่ 122 ล้านบาท
นายพุน ฉง กิต ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท มาสเตอร์ แอด จำกัด (มหาชน) หรือ MACO ผู้ครอบครองเครือข่ายสื่อโฆษณากลางแจ้งมากที่สุดในเมืองไทย เผยว่า ไตรมาส 3/2562 บริษัทมีรายได้จากผลการดำเนินงาน แบ่งเป็นรายได้จากสื่อโฆษณาในประเทศ 258 ล้านบาท จากการควบรวมงบการเงินครั้งแรกของธุรกิจให้บริการโฆษณาในต่างประเทศที่บริหารโดย VGI Global media (Malaysia) Sdn Bhd. (“VGM”) สร้างรายได้ 157 ล้านบาท และจากการรวมงบการเงินเต็มไตรมาสกับ ทรานส์ แอด กรุ๊ป ที่สร้างรายได้จากการให้บริการด้านระบบครบวงจรได้ถึง 333 ล้าน จากผลดำเนินงานในต่างประเทศที่มีพัฒนาการเติบโตอย่างต่อเนื่องโดยเฉพาะในตลาดมาเลเซียที่เริ่มมีกำไรสุทธิถึงจุดคุ้มทุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่เริ่มก่อตั้งในปี 2559 รวมถึงการดำเนินงานด้านการบริหารจัดการสื่อโฆษณาประเทศอินโดนีเซียที่เริ่มสร้างผลกำไรจากการดำเนินงานให้บริษัทด้วยเช่นกัน
“ก้าวต่อไปของ MACO คือมุ่งเน้นสร้างความแข็งแกร่งในตลาดต่างประเทศ สำหรับสินทรัพย์สื่อภายในประเทศทั้งหมดจะอยู่ภายใต้การบริหารงานของ บริษัท แพลน บี มีเดีย จำกัด (มหาชน) หรือ PlanB ที่รับประกันส่วนแบ่งรายได้ขั้นต่ำให้กับ MACO ทำให้บริษัทสามารถรับรองผลการดำเนินงานให้มั่นคงได้อย่างต่อเนื่อง ทั้งนี้ ในการเข้าลงทุนใน บริษัท ฮัลโล บางกอก แอล อี ดี จำกัด และการเข้าเป็นพันธมิตรทางธุรกิจกับ แพลน บี จะช่วยสร้างมูลค่าเพิ่มให้แก่สื่อกลางแจ้งทั้งหมดของบริษัทฯ พร้อมดันให้บริษัทฯ มุ่งเน้นไปสู่ตลาดต่างประเทศได้อย่างเต็มตัวสำหรับโครงสร้างใหม่นี้ ธุรกิจในประเทศจะสามารถใช้ประโยชน์จากการเพิ่มกำลังการผลิตที่สูงสุด ซึ่งนำไปสู่โอกาสที่จะพัฒนาอัตรากำไรของบริษัทฯ ให้เพิ่มมากขึ้น จากการบริหารจัดการต้นทุนที่มีประสิทธิภาพ ในขณะเดียวกันบริษัทคาดว่าตลาดต่างประเทศจะเริ่มมีส่วนสำคัญในพอร์ตการขาย อย่างไรก็ตามการขับเคลื่อนเชิงกลยุทธ์นี้ต้องได้รับการอนุมัติจากที่ประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 2/2562 ในวันที่ 17 ธันวาคม 2562 นี้“