‘กสิกร’ขยับเป้าดิจิทัลเลนดิ้ง‘แสนล้าน’
“กสิกรไทย” ประกาศบุกดิจิทัลเลนดิ้งเต็มสูบ ขยับเป้าหมายปล่อยกู้เป็น 1แสนล้านบาทในปี2563 จากปีนี้คาดทำได้ 2 หมื่นล้านบาท จากเดิมตั้งเป้า 3หมื่นล้านภายใน3ปี จับมือพันธมิตรที่มีฐานลูกค้าปล่อยกู้รายย่อย ก่อนขยายไปสู่เอสเอ็มอีและภาคธุรกิจ
นางสาวขัตติยา อินทรวิชัย กรรมการผู้จัดการ ธนาคารกสิกรไทย จำกัด(มหาชน)(KBANK) เปิดเผยว่า การดำเนินธุรกิจของธนาคารปีหน้า ธนาคารจะมุ่งให้สินเชื่อผ่านออนไลน์ หรือ ดิจิทัลเลนดิ้งมากขึ้น โดยตั้งเป้าปล่อยสินเชื่อที่ระดับ 100,000 ล้านบาท จากปีนี้คาดว่าจะปล่อยสินเชื่อได้ราว 20,000 ล้านบาท (เป้าเดิม 3หมื่่นล้านบาทภายในปี2563) สอดรับการปรับเปลี่ยนพฤติกรรมของลูกค้าในยุคดิจิทัล นอกจากสินเชื่อแล้วยังจะเห็นการให้บริการในด้านอื่นๆผ่านดิจิทัลมากขึ้นด้วย
ธนาคารจะปล่อยกู้ทั้งลูกค้าแบงก์ที่อยู่บนโมบายแอพพลิเคชั่นเคพลัสปัจจุบันมีเกือบ 12ล้านคน อีกส่วนจะมาจากการจับมือกับพาร์ทเนอร์ของธนาคารที่มีอยู่หลากหลาย ทำให้ธนาคารมีข้อมูลลูกค้าสำหรับวิเคราะห์ปล่อยสินเชื่อผ่านได้ พร้อมหนุนให้ธนาคารมีศักยภาพในการเข้าถึงกลุ่มลูกค้าใหม่ๆ และลูกค้าเก่าๆ ได้มากขึ้น โดยอาศัยดาต้า AI มาเป็นตัวช่วย ทั้งนี้ เชื่อว่าดิจิทัลเลนดิ้ง จะเริ่มเห็นความหลากหลายมากขึ้น หากเป็นลูกค้ารายย่อย มีทั้งมนุษย์เงินเดือน ฟรีแลนซ์ และขยายไปสู่ลูกค้าเอสเอ็มอี และลูกค้าธุรกิจอื่นๆที่สามารถให้สินเชื่อผ่านระบบออนไลน์ได้ด้วย
“ปีหน้าวิธีการปล่อยสินเชื่อ จะเปลี่ยนรูปแบบไป จากเดิมให้ยื่นผ่านสาขา ไปสู่ออนไลน์มากขึ้น แต่สาขายังมีอยู่ เพียงแต่เปลี่ยนบทบาทเป็นให้คำแนะนำมากขึ้น และปีหน้าจะเห็นแบงก์เป็นฝ่ายไปหาลูกค้า โดยดูจากดาต้าที่เรามี เช่นหากไปเช็คอินอยู่โครงการบ้านจัดสรร แบงก์จะรู้ทันทีว่าลูกค้าอยากได้บ้าน เป็นต้น ”
นายฐากร ปิยะพันธ์ ประธานกรรมการกรุงศรี คอนซูมเมอร์ และผู้บริหารสายงานดิจิทัลแบงก์กิ้งและนวัตกรรม ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) (BAY) เปิดเผยว่า ธนาคารเตรียมเปิดให้บริการดิจิทัลเลนดิ้ง ผ่านโมบายแอพพลิเคชั่นต่างๆของธนาคารในเวอร์ชั่นใหม่อย่างเป็นทางการได้ภายในเดือนก.พ.ปี2563 เริ่มแรกจะเป็นสินเชื่อส่วนบุคคลและบัตรเครดิต ก่อนต่อยอดไปกลุ่มอื่นๆในเฟสต่อไป
เพื่อจะช่วยให้ธนาคารรับมือการแข่งขันทางธุรกิจในช่วงปีหน้าได้มากขึ้น
ทั้งนี้ ธนาคารมั่นใจว่าหลังจากเดินหน้าธุรกิจดิจิทัลเลนดิ้งเต็มกำลังในช่วงปีหน้า จะช่วยเพิ่มฐานลูกค้ามากขึ้น จากปัจจุบันมียอดใบสมัครเฉลี่ย 2ล้านบัญชีต่อปี ในจำนวนนี้มาเป็นลูกค้าใหม่ประมาณ 800,000 บัญชีต่อปี และในช่วงปี2563 คาดว่า จะมีลูกค้าใหม่ผ่านระบบดิจิทัลประมาณ300,000 บัญชี เป็นสัดส่วนบัตรเครดิต50% และสินเชื่อบุคคล50% ขณะที่ยอดใช้จ่ายผ่านบัตรเครดิตเฉลี่ยอยู่ที่ 40,000 บาทต่อราย คิดเป็นวงเงินประมาณ 6,000 ล้านบาท ส่วนสินเชื่อบุคคล มีวงเงินสินเชื่อเฉลี่ยอยู่ที่ 30,000 บาทต่อราย คิดเป็นวเงินสินเชื่อรวมประมาณ 4,000 ล้านบาท
นอกจากนี้ ในช่วงกลางปี 2563 ธนาคารมีแผนเพิ่มช่องทางบริการลูกค้าให้หลากหลายผ่านการท่องเที่ยว ให้ลูกค้าสามารถใช้จ่ายเงินในการการท่องเที่ยวได้สะดวก ด้วยแอพพลิเคชั่นทราเวลแพลนเนอร์ เพื่อช่วยบริหารและวางแผนการท่องเที่ยวอย่างครบวงจร เช่น เส้นทางการเดินทาง จองตั๋วที่พัก จองตั๋วสายการบิน โดยตั้งเป้าหมายเป็นผู้เชี่ยวชาญการเดินทางท่องเที่ยวในญี่ปุ่น